หลงรัก

อ่านแล้วไม่ตอบ



อ่านแล้วไม่ตอบ

ชีวิตฉันไม่มีอะไรมาก เที่ยว เรียน สนุกกับชีวิตไปวันๆ ส่วน ครอบครัว พ่อแม่แยกทางกันต่างคนต่างแต่งงานใหม่ แม่ฉัน ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับสามีใหม่ ส่วนพ่อก็อยู่กับครอบครัว ใหม่ ทีแรกแม่อยากให้ฉันไปอยู่ด้วยแต่ฉันไม่ไป ฉันบอกท่านว่า ฉันดูแลตัวเองได้ เพราะตอนนั้นฉันสอบเข้ามหาลัยได้แล้ว ซึ่ง ท่านก็ไม่เซ้าซี้

พ่อเลยซื้อคอนโดนี้ให้ฉัน ส่วนแม่ซื้อรถให้ และพวกท่านก็ โอนเงินให้ฉันเป็นรายเดือน นาน ๆ ที่แม่จะมาหา หรือบางครั้ง ฉันก็ไปหาพ่อบ้าง

คุณคิดว่าไงล่ะกับชีวิตครอบครัวแบบนี้ ถึงพวกท่านจะจากกัน ด้วยดี แต่ลูกยังไงก็ยังต้องการความรักความอบอุ่นจาก ครอบครัว เมื่อขาดความเอาใจใส่ไม่มีใครคอยกะเกณฑ์ฉันก็มัก จะออกนอกลู่นอกทางอยู่บ่อย ๆ แต่ฉันก็ดึงตัวเองกลับมาได้ทุก ครั้งนะ ฉันต้องคอยเตือนสติตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่

ฉันสนิทกับแม่มากตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง ตอน

นี้พอท่านไปมีครอบครัวใหม่ ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ถึงจะมีโทรคุย

กันบ้างปรึกษาท่านบ้างแต่ก็ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อนเพราะแม่กับ พ่อก็มีลูกใหม่ของท่าน ฉันเองก็ไม่อยากรบกวน เลยตัดปัญหา โดยไม่เอาปัญญาไปเพิ่มให้ท่าน ว่าแล้วฉันก็จดจ่ออยู่ที่ไลน์ของผู้ชายที่มาส่งฉันเมื่อตอนค่ำฉันควรจะทักไปขอบคุณเขาดีไหมนะ

และฉันก็ตัดสินใจได้ว่าฉันควรจะทักไป และตอบแทนเขา

หมวยคนสวย : ขอบคุณนะคะที่ให้ติดรถมาด้วย พรุ่งนี้ว่าง ไหม ฉันว่างตอนสี่โมง ฉันอยากตอบแทนนาย นายจะเอารถไป ล้างไหมฉันจะจ่ายค่าล้างรถให้

ฉันพิมพ์ไปหาเขายาวเหยียด แต่ก็ยังไม่มีใครอ่าน กดออก

แล้วกดเข้าไปใหม่ก็ยังไม่มีคนอ่าน จนฉันเริ่มง่วง แล้วก็หลับไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเช้า ฉันบิดขี้เกียจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เปิดเข้าไปในไลน์ เขาก็ยังไม่อ่าน นี่เขาไม่จับโทรศัพท์บ้างรึไง

หรือว่าฉันจะโทรหาเขาดี

นี่ฉันเป็นอะไรมากไหมเนี่ย ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วย

ฉันรีบสลัดเขาออกจากหัวแล้วเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน พอมาถึงมอก็เดินเข้าไปหาที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“พวกนั้นล่ะ ยังไม่มาเหรอ” ฉันไม่ได้มีมันเป็นเพื่อนคนเดียว หรอกนะ ฉันยังมีเพื่อนอีกสองคน

“โน่นไงมาแล้ว หล่อมาเชียวเห็นแล้วน้ำเดิน” อีนี่ แม้กระทั่ง เพื่อนมันก็ยังไม่เว้น

“ว่าไงคนสวย ยืนรอเค้าอยู่เหรอ”

“ไอ้บ้า ขนลุก” ฉันตีเข้าที่แขนวินเนอร์เพื่อนชายที่สนิทด้วย “ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกหมวย มาสนใจเค้าดีกว่าเร้าใจกว่าเยอะ

หราคะ คนหล่อเร้าใจฉันลากเสียง ใส่รามสูร

สามคนเป็นเพื่อนสนิทด้วยที่สุด เราเรียนคณะเดียวคือนิเทศสาขาวารสารศาสตร์ ตอนอยู่สองกันแล้ว ไป ไหนมาไหนด้วยกันตลอด พวกประจำ แต่ถึงจะแรดแค่ไหนก็ไม่กินเพื่อน

“พวกแกเลิกเล่นได้แล้ว ไปเรียนเราทั้งหมดกันเข้าเรียน กระทั่งพักเที่ยง

“หมวยวันหนุ่มที่ไหนมาชวนไปกินข้าวรึเปล่ามันหันมา ฉัน

“แต่ไม่ไปช่วงฉันรู้สึกอยากตอบไลน์หรือไปหรือความแรดของมันมีขีดจํากัด หมดช่วงของมันแล้ว

งั้นเราไปกินข้าวคณะวิศวะดีกว่า เห็นบอกต้มยำานั่นอร่อย”

“วิศวะงั้นเหรอ”

“ใช่ ทำไม หรือว่าผู้ชายที่มึงหักอกเขาไว้เรียนคณะนั้น

“เปล่า พวกมึงกูถามหน่อย”

“ไม่ให้ถาม”
“งั้นกูก็ไม่เล่าว่าเมื่อวานถูกลับยังไง เพราะไอ้บ้างมันเทกไว้ ข้างทาง” ฉันลอยหน้าลอยตาพูด เชื่อว่าพวกมันต้องอยากรู้แน่

“ไอ้เทจึงเหรอ ฮ่า ๆ หมวยโดนเท วินเนอร์หัวเราะเสียงดัง อย่างชอบใจ

“เออ ว่ะ กูนึกว่ามีแต่มันที่เทเขา สมน้ำหน้า รามสูรอีกคน “พวกมึงนี่” ฉันสะบัดหน้าใส่พวกมัน ลืมไปได้ยังไงพวกนี้มัน

ตัวคอยซ้ำเติม

“อะๆ มีอะไรก็ถามมา วินเนอร์ไม่ใจร้ายกับคนสวยอยู่แล้ว” “โอ๊ยยๆ ๆ ๆ” ฉันบิดพุงมันด้วยความหมั่นไส้

“คนสวยอย่างกูก็ไม่ใจดีเหมือนหน้าตาหรอกนะ” ฉันเชิดหน้า ใส่พวกมัน

“แหมหยอกนิดหยอกหน่อยก็ไม่ได้ ไหนมีเรื่องอะไรก็ถามมา

“รู้จักคนที่ชื่อเวย์วิศวะปะ” ฉันถามอย่างเป็นการเป็นงาน “เวย์วิศวะ มันมีคนเดียวซะที่ไหน เอาแคบ ๆ กว่านี้ไม่ได้รึไง”

“ผมยาวๆ ประบ่า หล่อๆ อ่ะ”

วินเนอร์กับรามสูรมีเพื่อนเยอะ บางทีพวกมันอาจจะรู้จักเขา คนนั้น

“เวย์ผมยาวแล้วก็หล่อ ฉันว่ามีอยู่คนเดียว เฮียเวย์วิศวะ เครื่องกลปีสี่ คนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครและได้ฉายาว่าไอ้เฉื่อย ฉันขมวดคิ้วกับฉายาแปลกๆ ที่วินเนอร์มันพูด
“มีรูปเขาไหม” เพื่อความแน่ใจฉันก็อยากจะดูหน้าคนที่มันพูด

ถึง

“รูปเหรอ หายากวะ พี่เขาไม่ค่อยเล่นโซเชียล ไอจีมีแต่ไม่ โพส” คนประเภทไหนกันวะ

“แต่ไม่ยากเกินความสามารถกูหรอก เขาไม่โพสคนอื่นก็โพส ได้ มึงคงไม่เคยเข้าไปดูในเพจวิศวะหล่อใช่ไหม”

“เออ วะ มึงนี่แสนรู้นะกี้”

“ไอ้เวร กูไม่ใช่หมา”

พวกมันนี่ไม่ว่าเพศไหนก็ทะเลาะด้วยได้หมด

“ไหน” กีกี้มันก็จัดการหาให้ฉันทันที มันยื่นโทรศัพท์มาให้ดู ภาพผู้ชายผมยาวหน้าตาหล่อเหล่า จมูกโด่งเป็นสัน ถึงเขาจะไม่ ยิ้มแต่เขาก็สามารถดึงดูดคนมองได้

“ใช่ คนนี้แหละ”

“แล้วจึงมีอะไรกับเขาวะ

“ก็ เขาเป็นคนไปส่งเมื่อวาน ตอนโดนเท” ฉันยอมเล่าให้ พวกมันฟัง ทั้งสามคนตาโต ตกใจเรื่องอะไร

“พี่เขาไปส่งมึง”

“ใช่ ตกใจทําไม”

“เขาให้มึงขึ้นรถ”
“เออ” ฉันตอบพวกมันอย่างเซ็งๆ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อวานตอน ที่ตัวเองเปียกฝน แล้วมันมีอะไรน่าตกใจ

“รถคันไหนวะ” วินเนอร์ถามฉันอยากอย่างรอคำตอบ

“ก็ เฟอร์รารี่สีดำ”

“อิหมวย มึงแน่มาก มึงรู้ไหมว่ารถคันนั้นพี่แกไม่เคยให้ผู้หญิง ขึ้นนั่ง ถ้าพี่แกจะหิ้วสาวสักคนจะมีรถอีกคัน” ฉันก็ยังไม่เข้าใจ อยู่ดี มันมีคนแบบนี้ด้วยเหรอ

“ก็ไม่เห็นแปลก เพราะตอนนั้นเปียก ฝนก็ตกหนัก พี่เขาคง สงสาร” ฉันอธิบายให้พวกมันฟัง

“เปียก โอ้…”

“มึงจะร้องทำไม วินเนอร์” ฉันกลอกตากับความแอคติ้งเยอะ ของมัน มันจะตกใจอะไรนักหนา

“เปล่าๆ แล้วจึงถามหาพี่เขาทำไม

“กูก็แค่อยากตอบแทนเขา ว่าจะโทรหาเขาก็ไม่กล้า

“โทรหา จึงมีเบอร์พี่เขาเหรอวะ” พวกมันประสานเสียงตะโกน ถามฉัน

“เออ มีเบอร์ ก็ขอมาเมื่อคืน ทำไมเห็นเป็นลูกหมาตกน้ำแบบ นั้นมีเสน่ห์นะเว้ย” พูดเข้าข้างตัวเองบ้างคงไม่เป็นไร

“เออ กูยอม พี่เขาคงเสน่ห์ลูกหมาตกน้ำอย่างมึง “ทำไมมึงพูดแบบนั้นวะ” เขาเนี่ยนะจะมาหลงเสน่ห์ฉันตอนนั้นยังกับลูกหมา เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่นเองนะ

“ไม่มีอะไร กูว่ามึงอย่าไปยุ่งกับพี่เขาดีกว่า” รามสูรเตือน

“ทําไม กลัวว่าจะไปหักอกเขาเหรอ” ฉันพูดเล่นๆ

“กูกลัวมึงจะอกหักจากเขามากกว่า แค่ฟังถึงพูด ถามถึงผู้ชาย ก่อนแบบนี้ก็รู้แล้วว่ามึงหลงเสน่ห์ในความเซอร์ของพี่เขา” พวก มันสมกับที่เป็นเพื่อนสนิทฉันเสียจริง แต่เรื่องอะไรที่ฉันจะยอมรับ

“ใครบอกว่ากูสนใจ กูแค่อยากตอบแทนเขา กูบอกเขาว่าจะ ล้างรถให้” ฉันไม่มีความในแอบแฝงเลยจริง ๆ นะ อยาก ตอบแทนเขาจริงจริง

“เหรอ หมวย เหรอ แค่มึงอ้าปากพวกกูก็เห็นไปถึงไส้ถึงพุงมึง แล้ว”

“พวกมึงนี่ อย่าว่าเพื่อนแบบนั้น เพื่อนเป็นคนใสๆ นะ” ฉัน

พูดพร้อมกับทำสายตาบ้องแบ๊วใส่มัน

“พอๆ ไปกินข้าวเถอะกูหิว” รามสูรพูดอย่างรำคาญ

“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำา Let go”

แล้วพวกเราก็มาถึงคณะวิศวะ กำลังมองหาที่นั่ง คนเยอะมาก มีแต่ผู้ชาย มีทั้งเถื่อนๆ หล่อๆ

“อ๊าย เห็นแบบนี้แล้วน้ำเดิน” กีกี้มันพูดพร้อมกับเลียริมฝีปาก

“นั่งไง กูเห็นโต๊ะแล้ว” วินเนอร์ไม่สนใจความบ้าผู้ชายของมัน เดินไปยังโต๊ะที่มันหมายตา
“สุดหล่อ ฝากซื้อด้วยนะ เดี๋ยวคนสวยจะนั่งจองโต๊ะให้เอง ฉันพูดกับสองหนุ่มยิ้มๆ

“ตลอด จะใช้ปากหวานจริง” วินเนอร์มันบ่นฉันค่ะ

“วินเคยลองชิมแล้วเหรอถึงรู้ว่าหวาน” ฉันเล่นกับมัน แล้วก็ได้ รับสายตาเจ้าเล่ห์ของมันกลับมา จนฉันขนลุก

“แล้วหมวยคนสวยจะให้ลองปะครับ”

“หยุดเลย ยี้ ขนลุก หยุดใช้สายตาแบบนั้นกับกูเลย” ฉัน หน้ามัน ก็ได้รับเสียงหัวเราะกลับคืนมา

“พวกมึงสองคนจะเล่นอีกนานไหม” รามสูรพูดอย่างหงุดหงิด

สงสัยมันจะหิวจริง

“เออๆ มึงเอาเส้นไร” วินเนอร์หันมาถามฉัน

“เส้นเล็ก”

เมื่อมันสามคนเดินออกไปฉันก็ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ ถึง จะรับรู้ได้ว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองมาแต่ฉันไม่ใจสน

เพราะฉันยังจดจ่ออยู่ที่ไลน์ของพี่เวย์ ถือสิทธิ์เรียกเขาว่าพี่เลย แล้วกันเพราะเขาอายุมากกว่าฉันหน แล้วรู้อะไรไหม อิพี่เวย์หน้า หล่ออ่านแล้วไม่ตอบ

ไม่เคยมีใครไม่ตอบไลน์ฉันนะ เขาคนแรก

“ไอ้เวย์จึงเดินให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหมวะ เดี๋ยวโต๊ะก็โดน แย่งหรอก” เสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเพราะชื่อดังเข้ามาในห


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ