หลงรัก

ว่าด้วยเรื่องความแรดของหมวย



ว่าด้วยเรื่องความแรดของหมวย

“ใช่”

จะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่คนที่ทิ้งฉันไว้ข้างถนนทำให้ตากฝนเหมือน ลูกหมาตกน้ำ

แล้วพวกนั้นก็เดินเข้ามาที่โต๊ะของฉันกับเพื่อน

“มีอะไร” ฉันถามเสียงเย็น พวกเพื่อนๆ ฉันก็เงยหน้าขึ้นมองผู้ มาใหม่

“แค่เข้ามาทัก ไม่ได้เหรอ” มองหน้าฉันนิ่งๆ

“ทักแล้วก็ไปสิ” ฉันไม่ให้ค่ากับคนแบบนี้หรอก

“ทำไมจ๊ะหมวย แค่โดนทิ้งถึงกับคุยกันไม่ได้เลยเหรอ” ฉัน ไม่รู้ว่าเขาจะมาหาเรื่องฉันทำไม

“ฉันกำลังทานข้าวกับเพื่อนอยู่ไม่ว่าง” อีกวาดสายตาไปรอบ โต๊ะ เขาขมวดคิ้วมองวินเนอร์กับรามสูร

“เพื่อนหรือผัว พวกนายคงแบ่งวันกันให้วุ่นล่ะสิ ว่าวันไหนจะ ได้ผู้หญิงคนนี้ไปนอนด้วย” ฉันกำมือแน่นเมื่อยินอย่างนั้น

“เอ้ย อย่ามาพูดหมาๆ แถวนี้ คิดว่าตัวเองเป็นใคร” วินเนอร์ โผล่ขึ้น
“เป็นใครงั้นเหรอ ก็คนที่เคยใช้เมียคนเดียวกันไง” ธีพูดด้วย สีหน้ากวนประสาท

“อย่าพูดในสิ่งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจเลยมันน่าสมเพช” พวก ผู้ชาย ชอบมโนไปเอง ไม่เคยได้นอนกับฉันสักคนก็ไปป่าว ประกาศว่าได้นอนด้วย

“เหอะ”

“อย่ามาระรานกัน ในเมื่อนายเองที่บอกว่าจบก็คือจบ อย่ามา หาเรื่อง”

“ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งกับผู้หญิงแบบเธอหรอก” ปากบอกไม่ อยากยุ่งกับฉันแล้วที่มายืนอยู่ตรงนี้คืออะไร

“ไม่อยากยุ่งแล้วมายืนอยู่ตรงนี้ทำไมไม่ทราบ การกระทำกับ คำพูดมันสวนทางกัน ว่าไหม”

“หึ โอเค พวกมึงไป” ฉันมองที่เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วมอง หน้าฉันที่มองหน้าเขาอยู่เช่นกัน เขาควรรู้ว่าไม่ควรมาหาเรื่องฉัน เพราะยังไงเขาก็ไม่มีวันชนะ วินเนอร์ กับรามสูรไม่ใช่แค่เพื่อน แต่มันสองคนเหมือนองครักษ์พิทักษ์ฉันด้วย ชื่อเสียงของพวกมัน ไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตานั่นแหละ

“ไอ้เวรนี่สงสัยไม่อยากตายดี” วินเนอร์พูดอย่างมีอารมณ์
“มึงนี่ก็อารมณ์ร้อนไปได้” กีกี้พูดกับมัน

“ถ้ากอารมณ์ร้อนปานนี้มันลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว ไม่เคยได้ แอ้มถึงยังมีหน้ามาพูด ถึงก็อีกคนให้คนอื่นเขาพูดให้เสียๆ หายๆ อยู่ได้” นี่เป็นครั้งแรกที่มันว่าฉันเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมามัน ไม่เคยยุ่ง มีแต่คอยดูอยู่ห่างๆ คอยช่วยเรื่องที่มันคิดว่าฉันไม่ ไหว

“กูกะว่าจะเลิกแรดแล้วไม่ต้องด่ามาก” ฉันพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ เบื่อเหมือนกัน

“ให้มันจริงเหอะ กูขี้เกียจดูรถไฟชนกัน มันก็พูดเกินไป “เวอร์ ทีมึงอ่ะ เรื่องแบบนี้ผู้ชายทำได้อยู่ฝ่ายเดียวรึไง ผู้หญิง อย่างนี้ต้องยอมตลอดเหรอ” ที่ผู้ชายทำบ้างไม่ว่า เป็นผู้หญิง ผิดตลอดเลยรึไง

“มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไง”

“พวกมึงสองคนจะทะเลาะกันทำไม” รามสูรพูดขึ้นอย่าง

รําคาญ

“ก็ดูเพื่อนถึงสิ” ฉันชี้หน้ามัน

“โอ๊ย พวกมึงนี่ แดกค่ะแตก เลิกทะเลาะกันได้แล้วจะ ฮี ของมึงหรือจะ ค ของมึง มันก็แล้วแต่พวกมึงจะใช้” กีกี้ก็อีก คน ฮีด อะไรของมัน

“เลิกก็ได้ สั่งเบียร์มาเพิ่มติ มัวแต่ทะเลาะกันพวกมันสองคน

แตกหมดแล้ว”

“เออ”

“ช้าเสียเปรียบย่ะ” เพราะฉันมัวแต่ทะเลาะกับวินเนอร์ กีกี้กับ รามสูรก็ชัดเบียร์หมดไปหลายขวด

“ไอ้วิน พาสาวมากินข้าวเหรอวะ” เสียงทักวินเนอร์จากข้าง หลังทำให้พวกเราซะงัก ฉันลืมพวกพี่เขาไปแล้วนะเนี่ย แล้วพวก พี่เขารู้จักวินเนอร์ด้วยเหรอ มันไม่เห็นเคยพูด

“อ้าว พีเอส ดีครับพี่ มากินข้าวกับเพื่อนครับ” แอคติ้งมันดีจริง ๆ มันเห็นพวกพี่เขาตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้ทัก พอพี่เขามาทักนี่ก็ ทำท่าเหมือนพึ่งจะเห็น

“กูก็นึกว่าใคร ทะเลาะกันเสียงดังที่แท้ก็ถึง

“ครับ แล้วพวกพี่ล่ะครับไม่คิดว่าจะมานั่งร้านนี้

“มากินข้าว” วินเนอร์พยักหน้าแล้วมองหน้าฉัน ฉันขมวดคิ้ว มองมัน มองหน้าฉันเพื่อ

“วินมึงไม่เห็นเคยบอกเลยว่ารู้จักพี่เขา” สงสัยกีกี้มันคงทนไม่ไหวเลยถามขึ้น

“เคยไปกินเหล้าด้วยกัน ฉันพยักหน้าเข้าใจ บอกแล้วไงว่า

วินเนอร์กับรามสูรมันรู้จักคนเยอะ ไม่แปลกที่จะรู้จักพวกพี่เขา “แล้วเมื่อกี้พวกมึงทะเลาะกับไอ้ธีใช่ไหม” พวกพี่เขารู้จักด้วย

เหรอ

“ครับ มันมาหาเรื่องเพื่อนผม พี่รู้จักมันด้วยเหรอ” วินเนอร์ ตะโกนคุยกับพวกพี่เขา

“ก็รู้จักผ่านๆ เห็นว่ามันร้ายใช่ย่อย แล้วมีเรื่องอะไรกัน” ฉัน อยากหันไปมองหน้าพี่เขาจริง ๆ เลย พี่เขาชอบเผือกจัง เห็นพูด อยู่คนเดียว คนนั่งข้างหลังฉันไม่เห็นพูดอะไรเลย

วินเนอร์มองหน้าฉัน

“ผมนึกว่าพี่ได้ยินแล้วซะอีก”

“ฮ่าๆ เอาวะ ทะเลาะเพราะน้องหมวยดาวนิเทศนี่เอง” ฉันหัน ขวับไปมองหน้าพี่เขาทันทีที่ได้ยินชื่อตัวเอง พี่เขารู้จักฉันด้วยเห รอ แล้วอีกอย่างที่ฉันไม่ได้บอก คือฉันเป็นดาวคณะ

“มึงไม่ต้องทําหน้าเป็นหมางงหรอกหมวย ความแรดของมึง ดึงไปทั่วมอแล้ว” ฉันยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองแรงๆ อยากจะ บ้าตาย
“ความสวยของน้องก็ด้วยครับ” พี่คนนั้นตอบเสริมยิ้มๆ

“พี่เอส อย่าแซวมันเลยครับมันพึ่งบอกพวกผมว่าช่วงนี้จะเลิก แรด เก็บนอ”

“ไอ้บ้าวิน” มันสมควรไหมที่จะพูดแบบนั้นต่อหน้าคนที่พึ่งรู้จัก “หึ” แต่เสียงหัวเราะ หึ ๆ ข้างหลังทำให้ฉันชะงัก แอบหันไป มองแต่ก็เห็นแค่ข้างหลัง

“เลิกแรดนเหรอ แสดงว่าอยากจะหาตัวจริง”

“โอ๊ย พวกพี่คะ คนอย่างอิหมวยนี่เหรอคะจะมีตัวจริง ผู้ชาย แค่ได้ยินชื่อเสียงด้านความแรดของมันก็มีแต่จะอยากฟันแล้วทิ้ง แค่นั้นล่ะค่ะ” กีกี้มันพูดอย่างเมามัน ฉันไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมต้องพูดถึงความแรดของฉันกับคนที่ไม่รู้จักด้วย

“พวกมึง หยุด พี่คะ อย่าสนใจความแรดของหนูเลยค่ะ” ฉัน ห้ามพวกมันแล้วหันไปยิ้มแหยๆ ให้พวกพี่เขา ดึงให้หันกลับ มาที่โต๊ะของตัวเอง

“ฮ่า ๆ พี่ไม่ถือสาหรอกครับ

“รวมโต๊ะกันเลยไหมจะต้องไม่ตะโกนคุยกัน” อยู่ ๆ รามสูรมัน ก็พูดขึ้น
“นั่นดิ หลายๆ คนจะได้สนุก ว่าไงพวกมึง” พี่เอสหันไปถาม

เพื่อนเขา

ฉันอ้าปากเหวอมองหน้าพวกเพื่อน ส่งสายตาให้พวกมัน

ปฏิเสธ

“เอาด” พี่อีกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะนั่นตอบรับ แต่อีกคนนั่งเงียบ แต่ฉันเห็นนะว่าเขาพยักหน้าเบาๆ

โอ๊ย อิหมวยจะบ้าตาย

“ก็ดีนะกว่า มีคนหล่อๆ นั่งด้วยตั้งหลายคน” กีกี้มันกระดูกระ ดาใหญ่

“น้อง ๆ ต่อโต๊ะให้หน่อย” พี่เอสทำอะไรรวดเร็วไปหมด เขา เรียกพนักงานมาต่อโต๊ะให้

“ครับ” พนักงานเดินเข้ามา แล้วพวกเราจะทำไงล่ะ ก็ลุกสิคะ ฉันลุกขึ้นขยับตัวออกจากโต๊ะให้พวกผู้ชายเขาช่วยกัน ฉันไม่ กล้าแม้แต่จะมองหน้าพี่เวย์ด้วยซ้ำ ฉันว่าจะไม่สนใจพี่เขาแล้วนะ

โว้ย เลยไม่ได้รักษาภาพลักษณ์

แต่นี่มันอะไรกัน

“เข้าไปนั่งสิอิหมวย” พอต่อโต๊ะเสร็จมันก็สะกิดให้ฉัน เข้าไปนั่ง นั่งตรงตำแหน่งเดิมตอนแรก ทุกคนก็นั่งเหมือนกัน แต่ ที่ทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวก็คือ พี่เวย์นั่งข้างฉัน ฉันลืมไปได้ยังไงว่าพี่ เขานั่งตรงนั้น

“กู อยากไปเข้าห้องน้ำ” ฉันคิดว่าตัวเองต้องออกไปจากตรง

นี้สักพัก “เอ้า ทำไมถึงไม่ไปก่อนจะเข้ามานั่งวะ” มันด่าฉันค่ะ ก็เพราะ

มันจะได้ลุกไง

“ก็กพึ่งจะปวด ลุกเลย” ฉันกระซิบพูดกับมัน

“เออ มันลุกให้ฉัน ฉันก็รีบลุกทันที พวกผู้ชายฝั่งตรงข้ามมอง หน้าฉัน

“ไปเข้าห้องน้ำ “ฉันก็เลยพูดขึ้น วินเนอร์มันพยักหน้า

“ระวังไว้ด้วยมันยังอยู่ในร้าน วินเนอร์เตือนฉัน

“ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ” ฉันบอกมัน ฉันก็ไม่อยากมีเรื่องเหมือน กัน หาคนไปเป็นเพื่อนก็ดี

“มึงจะไปไหนวะเวย์” ฉันชะงัก เพราะอยู่ดี ๆ คนที่เงียบที่สุด ในโต๊ะก็ลุกขึ้น

“สูบบุหรี่” เขาตอบกลับมาเสียงเรียบ มือก็ควักบุหรี่ออกมา จากกระเป๋ากางเกง

“งั้นเหรอ พาน้องหมวยไปด้วยดิ” ฉันหันขวับไปมองหน้าพี่เวย์ทันที เขาก็มองฉันอยู่ก่อนแล้ว บอกเลยฉันแพ้หน้า หล่อๆ ใสๆ ผมยาวๆ ของเขา มองทีไรหัวใจเต้นตึกตักทุกที นี่เห รอที่บอกว่าจะไม่สนใจเขา

เขากลับมาทำให้ฉันว้าวุ่นใจ

“ไม่เป็นไรค่ะพวกพี่หนูไปเองได้” ฉันรีบเดินออกมาจากตรง นั้นทันที พวกเพื่อนเวรมันก็ไม่สนใจคำขอร้องของฉันเลย

ฉันไม่ได้หันไปมองข้างหลังว่ามีใครเดินตามมารึเปล่า พอเดิน มาถึงห้องน้ำฉันก็รีบเดินเข้าห้องน้ำหญิงทันที ดีที่คนไม่เยอะ

ทำให้ฉันได้เข้าไว

พอเสร็จธุระฉันก็ออกมามองซ้ายมองขวา

“ไง”

“ถอยไป” ฉันมองคนตรงหน้าเขม็ง ไม่อยากเจอก็ได้เจอจริง ๆ

“อยากมาหาเรื่องกันได้ไหม ฉันพูดอย่างเบื่อหน่าย ไม่ เข้าใจว่าจะมาหาเรื่องกันทำไม ในเมื่อเขาเองบอกว่าจะไม่ยุ่งกับ ฉัน

“ทำไม อ่อยได้กี่คนแล้วล่ะ” เขาคงเห็นว่าฉันนั่งรวมโต๊ะกับพี่ๆเขา
“ไม่เกี่ยวกับนาย

“หึ นิสัยแรดๆ นี่เลิกไม่ได้จริง ๆ สินะ”

“ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ถอยไป จบก็คือจบ นายเอง ไม่ใช่รึไงที่เป็นคนไล่ฉัน

“หึ ฉันลืมไปว่า ถ้าฉันยังไม่ได้ฟันฉันก็ไม่เลิก” เขาพูดด้วย สีหน้ากวนประสาท ฉันเผลอไปคุยกับคนอย่างนี้ได้ยังไง แต่มันก็ ไม่แปลกเพราะพวกผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

“คิดเหรอว่าฉันจะให้นายฝันง่ายๆ

“อย่าปากหมวย” อย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน ขาทั้งสองข้าง ของฉันขยับถอยหลังทันที

“อย่ามาทำอะไรบ้าๆ นะ นายก็รู้ว่าเพื่อนฉันเป็นยังไง

“หึ ฉันก็ทำให้พวกมันไม่เห็นมานี่” เข้ามาดึงแขนฉันแล้ว

พยายามลากออกจากร้าน ฉันพยายามขัดขืนยังตัวเองไว้

“ปล่อย ฉันไม่ไป

“อย่าขัดขืนถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาขู่ฉัน

แล้วตอนนี้มันเป็นบ้าอะไรที่ไม่มีใครมาเข้าห้องน้ำเลย ฉันมอง ซ้ายมองขวาหาพี่เวย์คนที่บอกว่าจะมาสูบบุหรี่ ขอให้เขาอย่าพึ่งกลับโต๊ะเลย แต่ก็ไม่เจอ ให้ ตายเถอะ

“นายมันหน้าตัวเมีย ปล่อยฉันนะ ฉันดิ้นสุดแรงแต่ก็ยังสู้แรง

เขาไม่ได้ “ปากดีอย่างนี้น่าตบด้วยปาก” ธีลากฉันมาที่รถของเขาได้ แต่ ฉันก็ยังขัดขืนเมื่อเขาเปิดประตูรถและดันฉันเข้าไป

“ปล่อยนะ”

“เข้าไปหมวย อย่าเรื่องมาก นอนกับฉันเพิ่มอีกคนเธอคงไม่ เสียหายอะไรหรอก” ความคิดของเขามันทุเรศสุดๆ

“แต่ฉันไม่อยากนอนกับนาย ปล่อย”

“ทำอะไร” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ธีชะงัก ฉันหันไปมองทางต้น เสียงทันที พี่เวย์ เขามาแล้ว ฉันภาวนาในใจอยู่ตลอดเวลาให้ เขามาเห็น แล้วมันก็เป็นจริง

“ผมจะพาแฟนกลับบ้าน พี่อย่ามายุ่งดีกว่า” ท่าทางที่เหมือนจะ กลัวพี่เวย์แปลกๆ

“แฟนนายงั้นเหรอ” ฉันส่ายหน้าแรงๆ พี่เขาต้องรู้ว่าไม่ใช่ แฟนฉัน

“ใช่ เข้าไปได้แล้วหมวย” ธีหันมาเร่งฉัน
“ฉันไม่ไป นายไม่ใช่แฟนฉัน พี่เวย์ช่วยหนูด้วย” ฉันหันไป อ้อนวอนคนตัวโตผมยาว

“หมายงอนผมอยู่ ผมกำลังจ้อ

“อย่ามาพูดมัวๆ ธี ปล่อย พี่เวย์” ฉันยังส่งสายตาอ้อนวอนไป ให้เขา หวังว่าพี่จะไม่หลงเชื่อคำพูดของธนะ

“ปล่อยผู้หญิง” พี่เวย์พูดเสียงขรึม สีหน้าเขายังเหมือนเดิมคือ เรียบเฉย ฉันแอบถอนหายใจเบาๆรู้สึกดีที่พี่เขาไม่เชื่อคำพูดของ

“บอกแล้วไงว่าพี่อย่ามายุ่ง ผมกำลังง้อแฟนอยู่” ตะโกนขึ้น

“ธีปล่อย นายไม่ใช่แฟนฉันและไม่เคยเป็นปล่อยนะ” ฉันบิด ข้อมือออกจากแขนแรงๆ และมันก็หลุดเพราะเขาเริ่มจับฉันไม่ อยู่ ฉันจึงกระทืบแรงๆ ลงบนเท้าเขา

เมื่อหลุดจากการเกาะกุมของฉันก็รีบวิ่งไปหลบหลังพี่เวย์

ทันที

“โอ๊ย หมวย” ธีตะโกนตามหลังฉัน

“ไสหัวนายไปซะ” พี่เวย์พูดขึ้น ทำหน้าฟีดฟัดมองหน้าฉัน เขม็ง

“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ธีชี้หน้าฉันแล้วก็เดินจากไปฉันถอนหายใจออกมายาวๆ จับที่ข้อมือของตัวเอง เจ็บเป็นบ้า แดงด้วย

เมื่อคิดว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้กับใครฉันก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง คนตัวโตที่จ้องฉันอยู่ก่อนแล้ว

“ขอบคุณค่ะที่ช่วย”

“จะเลิกแรดแล้วจริงเหรอ” คำถามของพี่เวย์ทำให้ลมหายใจ ของฉันสะดุด ขมวดคิ้วมองเขาตาปริบๆ อะไรของพี่เขา

“อะไรนะคะ” ฉันไม่แน่ใจว่าเขาถามว่าอะไร หรือสมองฉันอาจ

จะเผลอไปแล้วก็ได้เลยต้องถามเขา

“จะเลิกแรด” ฉันใบ้กินทันทีที่ได้ฟังคำถามเขาชัดๆ ทำไมถึง

กาม

“เอ่อ….พี่มีอะไรรึเปล่าคะ

“อยากรู้

อยากรู้อยากรู้ทำไม ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมีนิสัยที่แปลกอย่างนี้

เนี่ย

“ก็ คือ หนูแค่พูดเล่นๆ กับเพื่อนค่ะ” ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ คนพูดเรื่องแรกของฉันบ่อยนัก

“พูดเล่นงั้นเหรอ” พี่เวย์ขมวดคิ้วมองหน้าฉันอย่างตั้งคําถาม

“หนูว่ากลับไปที่โต๊ะดีกว่าค่ะ เดี๋ยวทุกคนจะสงสัย” ฉันตัดบท ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาสนใจความแรงของฉันทำไม

สนใจฉันรึไง

“อืม” ฉันรีบหันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่เมื่อนึกอะไรออก

ก็หยุดรอพี่เวย์

“พี่ค่ะ อย่าบอกเรื่องเมื่อกี้กับเพื่อนหนูนะ” ฉันรีบบอกเขา เขาไม่พูดอะไรแต่แสดงออกทางสีหน้าว่าทำไม

“หนูไม่อยากให้เพื่อนมีเรื่อง ถ้าพวกมันรู้เรื่องมันจะไม่จบ” ฉัน รีบอธิบาย วินเนอร์ต้องไม่พอใจแน่ถ้ารู้ว่าฉันโดนอะไร ส่วน รามสูรคงไม่ต่างกัน ถึงมันจะพูดไม่เยอะเหมือนวินเนอร์แต่ก็ ใจร้อนไม่ต่างกัน

“อืม” เมื่อเขารับปากฉันก็เดินเข้าไปในร้านอย่างสบายใจ พยายามไม่มองไปที่โต๊ะของธี เดินตรงไปที่โต๊ะของตัวเอง

“ทำไมนาน” วินเนอร์เงยหน้าขึ้นมาถามฉัน สลับกับมองหน้าพี่เวย์

“ก็ฉันปวดหนัก” ใจจริงก็อยากจะบอกว่าปวดแต่เกรงใจคนที่ไม่ใช่เพื่อนของตัวเองนิดหนึ่ง

“มึงก็ปวดหนักด้วยเหรอวะเวย์” พี่คนนั้นเพื่อนของพี่เวย์พูด

ขึ้น รู้สึกว่าเขาจะชื่อพี่นัมเบอร์นะ เห็นเพื่อนเขาเรียก “อืม” พี่เวย์เพียงแค่ตอบรับสั้นๆ ทำให้เพื่อนพี่เขาไม่ถามต่ออีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ