หมอยาเพาะรัก ท่านอ๋องไว้ใจ

ตอนที่ 14 เสี้ยาวหราน



ตอนที่ 14 เสี้ยาวหราน

ประตูส้วมถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ประตูค่อยๆถูกเปิด ออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นเงาคนข้างในขยับ

เสี้ยฉวนเห็นข้างในมีคนอยู่ ดีใจรีบใช้มือผลักคนนั้น ออก แต่กลับเห็นหัวดำๆค่อยๆโผล่ออกมา

“นายน้อย” เสี้ยฉวนรีบวางมือ แล้วมองนายน้อยเสี้ย ฮ่าวหรานด้วยความประหลาดใจ

เสี้ยฮ่าวหรานเป็นน้องชายฝาแฝดของเสี้ยโล่เยว่

ตอนเด็กเสี้ยฮาวหรานเคยเจ็บไข้ได้ป่วยและหลังจาก ที่หายดี สติของเขาก็ไม่ค่อยดี ไม่กี่ปีนี้ถึงจะไปดูหมอ มาไม่น้อย แม้กระทั่งหมอหลวงยังบอกว่าสติของเขานั้น หยุดอยู่แค่ตอนอายุแปดขวดกว่าแค่นั้น

“เสี้ยฉวนเจ้าหมานี่ ข้านายน้อยจะเข้าส้วมเจ้าก็ยังมา แอบดู ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ” เสี้ยฮ่าวหรานโกรธมาก โยนกระดาษออกมาจากข้างในออกมาโดนหน้าเสี้ยฉวน

“ขอโทษนายน้อย เป็นความผิดของบ่าวเอง บ่าวกำลัง หาแมวจรจัดอยู่” เสี้ยฉวนรู้จักอารมณ์ของนายน้อยคน นี้ดี หากมีเรื่องขึ้นคงจะยุ่งยากแน่ เขาจึงรีบรับผิดแล้ว ปิดประตูส้วมทันที

เพียงแต่ว่าเขายังคงรู้สึกสงสัย ทำไมนายน้อยถึงมา เข้าส้วมที่นี่
หลีโม่เองก็แปลกใจ เมื่อกี้นางลากเฉินเอ้อเข้าไปใน นั้นไม่มีคนเลย แล้วเสี้ยฮาวหรานเข้ามาตอนไหน

เสี้ยฮาวหรานอยู่ข้างในงั้นเฉินเอ้อล่ะ

“ออกไป ออกไปให้หมดอย่ามาแอบดูข้าเข้าส้วม เสี้ยฮาวหรานส่งเสียงตะโกนบอกอยู่ข้างใน พร้อมกับ ผายลมออมาอย่างเสียงดัง

เสี้ยฉวนรีบเอามือปิดจมูกแล้วพาคนรีบเดินจากไป

ผ่านไปครู่หนึ่งชุ่ยยุ่นก็พาเถ้าแก่โจและคนของเขา เดินออกไป

หลีโม่มองไปทางห้องส้วม จากนั้นรีบเดินไปทางซูห ยู้แล้วพูดว่า “เจ้าไปต้มน้ำมาชงชาให้ท่านแม่หน่อย เมื่อ กี้นี้มันวุ่นวายเกินไปแล้ว”

สีหน้าของซูหยู้แลดูซีดขาวรู้สึกละอายไม่กล้าขัดคำ สั่งของหลีโม่นางรับคำแล้วเดินจากไป

หลังจากที่หลีโม่แน่ใจแล้วว่าทุกคนออกไปหมดแล้ว นางจึงเดินไปทางส้วม

นางเคาะประตูเบาๆ “ฮ่าวหราน หมดหรือยัง”

เสี้ยฮาวหรานถามขึ้นว่า “พี่หญิงใหญ่พวกคนชั่วไป หมดแล้วใช่ไหม”
“ไปหมดแล้ว” หลีโม่พูดขึ้นเบาๆ

เสี้ยฮ่าวหรานเปิดประตู หลีโม่ชะโงกหน้าเข้าไปดู เห็นเฉินเอ้อแอบอยู่ที่มุมนั่งสั่นหน้าขาวซีด

หลีโม่นึกตามความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างรู้ว่า เสี้ยฮาวหรานเป็นคนที่สติไม่ค่อยดี อีกอย่างเขากับนาง ความสัมพันธ์ค่อนข้างดี

“ฮ่าวหรานเจ้าทำไมมาเข้าส้วมที่นี่ล่ะ” หลีโม่ลากเขา ออกมา ปัดฝุ่นที่อยู่บนตัวเขา

เสี้ยฮ่าวหรานพูดอย่างภูมิใจว่า “ข้าเห็นเสี้ยฉวนพา คนมากมายมาที่นี่ ข้าก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมาหาเรื่องพี่ หญิงใหญ่แน่นอน เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้”

หลีโม่เข้าใจได้ทันทีว่า เสี้ยฉวนคนนี้หาเรื่องเจ้าของ เดิมไม่ใช่แค่วันสองวัน เขาก็คงจะเป็นคนของนายหญิง หลิงหลง แต่เสี้ยฮ่าวหรานจ้าโง่คนนี้ กลับมีใจมาปกป้อง พี่สาวคนนี้

หลงจากที่หลีโม่เข้ามา ความทรงจำของเจ้าของร่าง ก็ค่อยๆผุดขึ้นมา ทุกคนในจวนต่างเย็นชาใส่นาง แต่พอ มาเห็นความจริงใจของเจ้าโง่นี่ ก็ทำให้นางรู้สึกประทับ ใจไม่น้อย

“ใช่แล้วฮ่าวหรานเจ้ารู้จักคนในส้วมไหม” หลีโม่ถาม

“เฉินเอ้อ” เสี้ยฮ่าวหรานชี้ไปทางเฉินเอ้อแล้วพูดขึ้นอย่างภูมิใจ

เฉินเอ้อเดินสั่นออกมา มองดูไปรอบๆถึงได้พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่ต่ำว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

หลีโม่พูดกับเสี้ยฮ่าวหรานว่า “ฮ่าวหรานเจ้ากลับไป ก่อนนะ เรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนของพี่เจ้าอย่าได้เอาไป เล่าให้ใครฟังนะ โดยเฉพาะแม่ของเจ้าไม่เช่นนั้นสี้ยฉ วนจะต้องกลับมาหาเรื่องพี่อีกแน่”

เสี้ยฮ่าวหรานเม้นปากพร้อมกับพูดว่า “พี่หญิงใหญ่ วางใจข้าจะไม่พูดกับคนอื่นแน่นอน ข้าจะไม่ให้ใครมา รังแกพี่หญิงใหญ่ด้วย

พอส่งเสี้ยฮาวหรานกลับไป หลีโม่ใช้มือจับหนึ่งจับ คอเสื้อของเฉินเอ้อแล้วลากเขาเข้าไปในห้องเก็บของ

เฉินเอ้อลูบหัวที่รู้สึกเจ็บอยู่ แล้วถามด้วยความงงว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเจ้าบอกว่าข้าถูกคนพามาไว้ที่เตียง ของหลี่ซื่อ ใครมันช่างกล้า”

หลีโม่มองดูเขา จากคำพูดที่เขาพูดออกมาทำให้รู้ว่า สถานะของเขาในจวนจะต้องมีอะไรแน่

“เจ้ากับนายหญิงหลิงหลงเป็นอะไรกันแน่ทำไมนาง ต้องหักหลังเจ้า จำไว้ว่าหากเจ้าถูกจับได้ผลจะเป็นยัง ไงเจ้าก็ลองคิดดู” หลีโม่ถาม

เฉินเอ้อยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วพูดว่า “เจ้าต้องการจะพูดอะไร” แอบเป็นชู้กับนายหญิงของเฉิงเสี้ยงแน่นอน ว่าจะต้องไม่ตายดีแน่ แต่ไม่ใช่หลิงหลงแน่ที่เป็นคน วางแผน

“ข้าต้องการจะพูดอะไร เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ” หลีโม่ ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา นางรู้ได้ว่าซู่หญ้คงกลับมาแล้ว ไม่อาจให้เฉินเอ้ออยู่ตรงนี้ได้ เขาต้องรีบออกไปจากที่นี่

แต่เฉินเอ้อยังไม่ออกไปจากจวน ด้านนอกของลาน เสี้ยจื้อจะต้องมีคนของเสี้ยฉวนเฝ้าอยู่แน่ หากเฉินเอ้อ ออกไปตอนนี้จะต้องถูกจับได้แน่

จะส่งเฉินเอ้อออกไปข้างนอกนี่เป็นปัญหาใหญ่

เฉินเอ้อเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดัง ทำให้เขากลัวและ ตื่นเต้นขึ้นมา

วันนี้หลิงหลงส่งคนไปเรียกเขามาบอกมีเรื่องจะให้

เขาไปทำ

พอเขามาถึง นางกลับบอกว่านางจะไปหานายหญิง แก่ สั่งให้เขาอยู่ในห้องรอไปก่อน เขาดื่มชาในห้องของ หลิงหลงหลังจากนั้นก็รู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย เรื่องราวหลัง จากนั้นเขาก็ไม่รู้แล้ว พอตื่นมาก็เจอกับเสี้ยหลีโม่

หากจะบอกว่านี่เป็นแผน งั้นคนที่หักหลังเขาก็ต้อง เป็นหลิงหลงแน่ หากไม่ได้รับคำสั่งจากหลิงหลงคนใน เรือนของนางไม่กล้าลงมือกับเขาหรอก
คิดมาถึงตรงนี้ทำให้เขาโกรธนัก

หลีโม่เห็นแบบนั้น ก็เข้าใจแล้ว นางดูเฉินเอ้อสำรวจ รูปร่างหน้าตา ดูแล้วก็ไม่เลวนัก อายุราวๆสี่สิบสวมใส่ ชุดสีแดง แสบตาดีจริง

คนประเภทนี้ หากอยู่ในยุคนี้ก็คงจะเรียกว่าพวก แมงดา คนประเภทนี้กะล่อนปลิ้นปล้อนนัก เอาใจผู้หญิง เก่ง

“เจ้ากับนายหญิงหลิงหลงรู้จักกันมาก็สิบยี่สิบปี เห็นจะได้ จะบอกว่านางไม่ทำร้ายเจ้าก็คงได้แต่ใครกัน ล่ะที่ลงมือ” หลีโม่แอบลองเชิงถามถึงความสัมพันธ์ของ พวกเขาว่ารู้จักกันมานานแค่ไหน

เฉินเอ้อมองดูหลีโม่แล้วพูดว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้า กับหลิงหลงรู้จักกันมานานขนาดนั้น”

“รู้สิ ตอนที่นายหญิงหลิงหลงยังเป็นแม่หม้ายพวก เจ้าก็รู้จักกันแล้ว นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ช่วงนี้ท่านพ่อ ก็พูดอยู่บ่อยๆว่าทำไมเจ้าต้องไปที่เรือนของนายหญิง หลิงหลง ดูแล้วท่านพ่อคงเข้าใจผิดไปเอง” หลีโม่พูด ออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

เฉินเอ้อดูตกใจตื่นเต้นจริงๆด้วย พูดด้วยน้ำเสียงที่ ต่ำว่า “พ่อเจ้าเคยถาม

“เคยถาม” หลีโม่มองดูเขา ใจในก็เริ่มเข้าใจแล้ว
หากจะบอกว่าเฉินเอ้อกับนายหญิงหลิงหลงไม่มี อะไรกัน ตัดหัวนางออกนางก็ไม่เชื่อ

เฉินเอ้อยืดอกพูด “ถามแล้วจะทำไม ข้ากับนายหญิง ไม่ได้มีอะไรกัน”

ในขณะที่เขาพูดประโยคนี้ออกมาน้ำเสียงฟังดูไม่ มั่นใจและแอลหลบสายตา

หลีโม่พูดขึ้นว่า “เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะมา พาเจ้าออกไป เจ้าต้องออกไปจากลานเสี้ยจื้อไม่เช่นนั้น ชีวิตของเจ้าคงต้องตายตรงนี้”

เฉินเอ้อรู้ว่ามันร้ายแรงขนาดไหน เขาพยักหน้าแล้ว มองดูหลีโม่ “เจ้ารีบไปเตรียมการเถอะ หากนี่เป็นแผน ข้างนอกคงยังมีคนเฝ้าอยู่แน่”

“เจ้าก็ไม่โง่นี่” พูดจบหลีโม่ก็หยิบโคมที่พังแล้ว

ติดมือหันเดินออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ