บทที่ 4 ดิฉันรอได้ค่ะ
“คุณวิน ครั้งนี้คุณทำเกินไปมากแล้วนะคะ กะจะเอาให้ตายกัน ไปข้างเลยหรือไง” ป้าสายต่อว่าชายหนุ่มเสียงดังลั่นบ้าน เมื่อ ภาพตรงหน้านั้นเลวร้ายเกินจะรับไหว
“คุณเป็นพี่น้องกันนะคะ พ่อคุณก็เคยสั่งเสียเอาไว้ว่า ให้คุณ ดูแลหนูพิชญ์ คุณไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง ป้าก็ไม่เคยว่า แต่ ไม่ใช่ว่าป้าจะยอมให้คุณทำร้ายหนูพิชญ์นะคะ”
“ป้าสายพูดผิดพูดใหม่ได้นะครับ ใครเป็นพี่น้องกับยัยตัว ประหลาดนี้ ยัยนี่ไม่มีเลือดพ่อเลือดแม่ผมอยู่ในตัวเลยด้วยซ้ำ ทำไมผมต้องนับญาติกับหล่อนด้วย ที่สำคัญเธอทำให้พวาต้อง ตาย”
“ต้นเหตุคืออะไร ขนาดตำรวจยังหาคำตอบไม่ได้เลย ป้าไม่ เห็นด้วยที่คุณวินจะคิดเองเออเองเช่นนี้
“โธ่โว้ย!” ธาวินหันไปปัดแจกันที่อยู่ใกล้มือจนร่วงกระจาย ก่อนจะหันไปจับจ้องพิชญาแล้วหน้าเธอ
“จบสิ้นทุกอย่างแล้ว คุณควรออกไปจากบ้านหลังนี้ได้แล้ว จะ อยู่เพื่ออะไร”
“ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้นแหละค่ะ คุณธาวิน” ป้าสายเดินเข้ามา ประจันหน้ากับคนนิสัยเสียริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแสดงถึงวุฒิ ภาวะมากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย
“คุณวินอย่าลืมสิคะ บ้านหลังนี้เป็นของหนูพิชญ์เธอครึ่งหนึ่ง ตามที่พ่อคุณเคยสั่งเสียเอาไว้ถึงป้าจะแก่แล้วแต่ป้าก็จำได้ว่า ทุกอย่างที่เป็นทรัพย์สินของบ้านปัญญาพิพัฒน์ หนูพิชญ์เธอมี สิทธิ์เท่ากับเป็นลูกคนหนึ่งของพ่อคูณ ป้าเป็นพยานและจำได้ทุก คำในตอนที่พ่อคุณสั่งเสียเอาไว้ คุณวินเองก็คงไม่ลืมใช่ไหมคะ”
“หึ โง่ชะมัด” ธาวินสบถถึงบิดาตัวเองอย่างไม่พอใจ พลางนึก ย้อน ในวันที่สองแม่ลูกย้ายเข้ามาเป็นส่วนเกินแล้วยิ่งคับแค้นใจ
“พ่อคุณไม่ได้โง่หรอก เพราะเขารู้ไง ว่าสักวันคุณวินก็ต้องหา ทางไล่หนูพิชญ์ออกจากบ้านหลังนี้จนได้
“ใครว่าพ่อไม่โง่ โง่ตั้งแต่พาสองแม่ลูกเข้ามาบ้านแล้ว” ป้า สายสายศีรษะไปมากับความไร้ซึ่งเหตุผลของชายหนุ่ม พิญชา รู้สึกเจ็บแป๊บเข้ากลางใจหลังจากเห็นสายตาธาวินที่มองเขม็ง ตรงมา
“ได้ ทนอยู่ได้ก็อยู่ไป” ชายหนุ่มร่างสูงสะบัดตัวเดินออกอย่าง ไม่สบอารมณ์
หลังจากพายุลูกใหญ่สงบลง หญิงร่างบางค่อยๆ ขยับเท้าเดิน เข้าไปสวมกอดป้าสาย พยายามเม้มปากแน่นไม่ให้มีเสียง ร้องไห้เล็ดลอดออกมา ดวงตาแดง บ่งบอกความปวดร้าวใน ใจได้เป็นอย่างดี
“อดทนหน่อยนะหนูพิชญ์ ที่จริงแล้วคุณวินเธอเป็นคนจิตใจดี แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ตั้งแง่ใส่หนูพิชญ์นัก
“พิชญ์ไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน” หญิงชรายกมือขึ้นมาลูกศีรษะด้วยความเห็นใจ ก่อนจะนั่งอยู่เป็นเพื่อนพิชญาสักระยะ เมื่อเห็นว่าคนอารมณ์ร้อนอย่างธาวินไม่ลงมาหาเรื่องพิชญาอีก จึงลากลับบ้านไป
หลังจากการเสียชีวิตของทิวา บริษัทจึงมีการแต่งตั้งประธาน บริษัทคนใหม่ ซึ่งธาวินต้องเข้ารับตำแหน่งทันทีในเช้าวันจันทร์ รถหรูเปิดประทุนเลี้ยวเข้ามาในโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ที่ ใหญ่ติดหนึ่งในสิบของไทย ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำเดินดื่มๆ มุ่งตรงไปยังห้องประชุมด้วยท่าทางสุขุม พนักงานในออฟฟิศ ต่างพากันยกมือไหว้เคารพ เมื่อเลขาหน้าห้องเห็นเขา จึงกุลีกุจอ หยิบเอกสารแล้วพากันเข้าห้องประชุมไป
“หล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลยเธอว่าไหม” พนักงานหญิง หันไปกระซิบ เพื่อนชายที่ออกจะตุ้งติ้งเสียหน่อย
“คนพี่ไม่อยู่ ยังก็มีคนน้องมาให้เชยชม โรงงานนี้มันสวรรค์
ฉันชัดๆ” หญิงสาวยังคงทำหน้าเพ้อฝัน จนเพื่อนชายสายศีรษะ
ไปมา
“หล่อนแยกความแตกต่างระหว่างพี่น้องสองคนไม่ออกจริงๆ หรือ ถึงได้ทำหน้าฟินขนาดนั้น ยังไงซะ คุณวินก็สู้คุณวาไม่ได้ หรอก ในเรื่องความใจดี หล่อนไม่เห็นหรือว่า คนวินเคยยิ้มแบบ คุณวาที่ไหน เห็นแต่ละครั้งมีแต่ทำหน้าตาบูดบึง ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากได้คุณวากลับมามากกว่า เพื่อนชายเบะปากพลางพับ เก็บเครื่องสำอางลงกล่อง
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้วย่ะ ที่ฉันพูดหมายถึงรูปร่างหน้าตา คุณวินกวินสมชื่อจริงจริง คนอะไรหล่อปานพระเอกหนัง” พนักงาน สองคนซุบซิบนินทาเจ้าของโรงงานอย่างเมามัน
ก่อนที่บุคคลปริศนา จะเปิดประตูเข้ามา ทุกสายตาของ พนักงาน ในห้องนั้นจับจ้องไปยังหญิงสาวที่สวยหยาดเยิ้ม ในชุด ลูกไม้สีหวาน มีเพียงเสียงรองเท้าส้นสูงดังลอดฝ่าความเงียบ เธอมองซ้ายมองขวาเพราะไม่คุ้นชิน ก่อนจะตรงเข้ามายัง พนักงานทั้งสอง พลางยิ้มหวานให้หนึ่งครั้ง
“ฉันมาพบคุณธาวินค่ะ ไม่ทราบว่าไปทางไหนคะ” พนักงาน สาวกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะตั้งสติได้
“ตอนนี้คุณธาวินพึ่งเข้าประชุมไปเมื่อครู่ค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงจะรอ เชิญด้านนั้นได้เลยค่ะ” พนักงานผายมือไปยังโซฟารับแขกเล็กๆ ในมุมหนึ่งของห้อง ก่อนที่หญิงสาวปริศนาจะส่ายศีรษะ แล้วยิ้ม หวานให้อีกหนึ่งครั้ง
“ดิฉันจะรอคุณวินค่ะ แต่ไม่ใช่ที่โซฟานั้น ดิฉันต้องการไปรอ ในห้องทำงานของเขาค่ะ” พนักงานดวงตาเบิกโพลง ครู่หนึ่งจึง ปั้นหน้ายิ้มเช่นเดียวกัน
“ประทานโทษนะคะ ห้องของท่านประธานเป็นสถานที่ส่วนตัว ฉันอนุญาตให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“ฉันเป็นแฟนคุณวินค่ะ คุณวินเคยบอกว่า ฉันสามารถมาหา เขาได้ตลอดเวลา แค่ให้บอกพนักงานของเขาว่าฉันเป็นใคร เท่านั้นก็พอค่ะ” พนักงานชายตุ้งติ้ง รีบกระตุกชายเสื้อพนักงาน สาว แล้วกระซิบเบาๆ
“ปล่อยนางไป ถ้าคุณวินไม่พอใจขึ้นมา หล่อนโดนไล่ออกแน่ ฉันเตือนหล่อนแล้วนะ ว่าคุณวันไม่ได้ใจดีเหมือนคุณวา พนักงานสาวเงยหน้าขึ้นมา ยังคงปั้นหน้ายิ้มเช่นเคย
“เอ่อ…ถ้าเป็นเช่นนั้น เชิญคุณเดินตรงไปเลี้ยวซ้าย ตรงไปแล้ว เลี้ยวขวา ห้องท่านประธานอยู่ด้านริมค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวปริศนาแสนสวย ส่งรอยยิ้มหวาน
สุดท้ายให้ทั้งสอง ก่อนจะเดินลับไป
“ฉันอนุญาตไปแบบนั้น ถ้านางเป็นมิจฉาชีพจะทำอย่างไร” พนักงานสาวกัดฟันหันไปพูดกับเพื่อนร่วมงาน
“นังโง่ ทางออกมีแค่ทางเดียว หล่อนก็นั่งเฝ้าไปสิยะ ถ้านาง ออกมาพร้อมกับเครื่องถ่ายเอกสารค่อยเรียกตำรวจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ