ตอนที่ 112 จะรีบร้อนไปทําไม

ถังหนึ่งไม่รู้ว่าหลาน วางแผนการอะไรไว้ แต่เธอเดาว่ามันต้อง เกี่ยวข้องกับหยางจิ้งและลัวเช่าแน่ๆ

“หลังจากนั้นฉันจะจัดหาผู้จัดการที่ดีที่สุดให้เธอ ไม่ต้อง ห่วงนะ”

ถังหนึ่งยิ้มตลอดการสนทนา เธอต้องการผู้จัดการที่มี ความสามารถจริงๆ แต่หลานยืนกรานว่าจะเก็บไว้เป็นความ ลับ และไม่ได้จัดการให้พวกเขาพบกันโดยตรงหรือบอกชื่อแก่ เธอ

ความจริงแล้วหลานให้ถังหนิงปรากฏตัวที่งานแสดง เพราะว่า ประการแรก เธอต้องการยืนยันความสามารถของถัง หนึ่ง และประการที่สอง เธอต้องการให้หยางจิ้งพานางแบบ หน้าใหม่มาเพื่อที่เธอจะได้เห็นว่าพวกหล่อนไม่สามารถเทียบ กับถังหนิงได้เลย

แน่นอนว่าแผนการของเธอจะให้ถังหนึ่งหรือหยางจึงรู้ ตอนนี้ไม่ได้

เธอใช้เวลาหลายปี ให้ความไว้วางใจหยางจิ้งกับลัวเฮ้า แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ทำให้พวกเขาปีกกล้าขาแข็งมากเกินไป และเพราะเหตุนี้ เธอจะทำให้พวกเขาเข้าใจว่าการสูญเสียนาง แบบอย่างถังหนิงไปนั้น ก็เปรียบเสมือนว่าพวกเขาได้โยนความโชคดีทั้งหมดทิ้งไปแล้ว

ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าเบื้องนอกของกระจก หน้าต่างกว้างเต็มบาน…

ในขณะที่หยางจึงกำลังคัดเลือกนางแบบหน้าใหม่อยู่นั้น เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบปะลัวเฮาได้ ครั้นเวลาการ ทำงานกำลังจะสิ้นสุดลง ในที่สุดหยางจิ้งก็เรียกตัวเข้าไปพบที่ ออฟฟิศของเธอเพื่อพูดคุยกัน

“ขอบคุณนะที่ไม่บอกประธานหลานเรื่องทั้งหนึ่ง

“แต่ถึงหนึ่งรู้” ตัวเช่าเงียบไปชั่วครู่ เขาเอนกายพึ่งโต๊ะ ทำงานและพูดต่อ “เธอถูกขัดขวางมาหลายครั้งแล้ว จะต้องมี แผนอย่างอื่นแน่นอน เพราะเธอไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

หยางจิ้งหยุดคิดสักพัก ก่อนจ้องมองตัวเฮาอย่างจริงจัง “ตราบใดที่เราร่วมมือกัน ถังหนึ่งจะไม่มีโอกาสเข้าบริษัทนี้ได้ แน่ ฉันสู้กับประธานหลานคนเดียวไม่ได้ ฉันต้องการความช่วย เหลือจากคุณ คุณช่วยฉันเหมือนที่เคยทำได้ไหม

“ผม? ช่วยคุณ? เพื่อให้คุณกดผมลงนะหรือ” ตัวเข่าตอบ อย่างเยือกเย็น น้ำเสียงเขาเปี่ยมด้วยความเย้ยหยัน “ถ้าคุณจะ ลืมไปว่าคุณเคยแทงข้างหลังผมก็ไม่เป็นไร แต่ผมไม่มีทางลืม ได้อย่างแน่นอน ผมไม่มีวันเชื่อคำพูดของคุณอีก

หยางจิ้งตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอมีคำพูดที่อยากพูดแต่ไม่สามารถพูดออกไปได้ ท้ายที่สุดแล้วจึงพยักหน้าอย่างยอมแพ้ ก่อนขยับแว่นตาของเธอ “ตั้งแต่ประธานหลานกลับมาบ่ายวัน นี้ ก็เก็บตัวคุยโทรศัพท์อยู่แต่ในห้อง ฉันได้ยินมาจากเลขาของ เธอว่า เธอต้องการนำตัวอื่นจ่อเอากลับมา ในเรื่องของความ สามารถ คุณกับฉันต้องร่วมมือกันต่อต้านเขา ถึงเขาจะเลิกเป็น ผู้จัดการแล้วเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะยืนอยู่เฉยๆ

“ต่อให้เขากลับมาก็ไม่มีประโยชน์หรอก!” ล้วเฮาไม่สนใจ อันจื่อเฮาเลยสักนิด เขาสนใจผลการคัดเลือกวันนี้มากกว่า “วันนี้เจอใครดีๆ บ้างไหม

“มีไม่กี่คน”

“งั้นก็รีบฝึกพวกเธอซะ เราจำเป็นต้องดึงความสนใจของ ประธานหลานออกจากถังหนึ่งให้เร็วที่สุด”

ทั้งสองคนไม่คาดคิดเลยว่า ในความจริงถังหนิงจะเซ็น สัญญากับเฉิงเถียนเรียบร้อยแล้ว และหลานก็เป็นคนนำ สัญญาไปให้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าหลานจะไม่ยอมปล่อยให้ ถังหนึ่งลำบาก เพราะเธอเคยเป็นนางแบบมาก่อน จึงรู้จักสาขา อาชีพตัวเองดี รู้ว่าถังหนึ่งต้องการอะไรมากที่สุดและยังขาด อะไรอยู่

เนื่องจากเรื่องที่ถังหนิงเซ็นสัญญากับเฉิงเถียนไม่ได้ถูก ประกาศออกไปสู่สาธารณชน ทุกคนจึงสงสัยเป็นอย่างมากว่า ถังหนิงจะเซ็นสัญญากับใคร แต่อย่างไรก็ตาม ถังหนึ่งไม่ได้ออกมาบอกกล่าวอะไรเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ เธอยังอาศัย อยู่ในไฮแอทรีเจนซี ไม่มีทางที่นักข่าวจะมีโอกาสแอบถ่ายภาพ เธอได้ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนไม่มากที่รู้สถานการณ์ของเธอ

ในขณะเดียวกัน ซึ่งถือได้ก็ปล่อยแถลงการณ์ออกมาว่า หลานอวี่เซ็นสัญญากับพวกเขาอย่างเป็นทางการแล้ว และเธอ จะเป็นที่รู้จักในฉายาว่า มินิถังหนึ่ง

ท้ายที่สุดแล้วเด็กหญิงวัยสิบหกปีคนนี้ก็ชนะความเห็น ชอบจากชิงฉือไต้ได้สำเร็จ จนกระทั่งเซ็นสัญญาเข้าร่วมกับ บริษัท

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เสียงสนับสนุนถังหนึ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะแม้แต่ ตัวแทน” ของเธอยังหาบ้านหลังใหม่ได้ แล้ว เมื่อไรเธอจะมีการเคลื่อนไหวบ้างล่ะ

“หลานอวีคนนี้ภายนอกช่างคล้ายคลึงกับคุณจริงๆ ค่ะ ถ้า เป็นตอนกลางคืน คงดูไม่ออกว่าใครเป็นใครแน่เลย

สิ่งที่หลงเจียเผลอพูดออกมาทำให้ถังหนึ่งนิ่งไปขณะดูการ สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ แม้แต่หลงเจียก็ยังคิดว่าการแยกแยะ ความต่างของพวกเธอสองคนเป็นเรื่องยาก เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับหลานอวี่ เธอก็ต้องได้รับผลกระ ทบเช่นกัน

“คุณถึงหนิงคะ จะว่าไปแล้วทุกคนก็สงสัยอย่างมากว่าคุณ จะเซ็นสัญญากับใคร น่าเสียดายที่เราบอกไม่ได้ว่าคุณเซ็น สัญญากับเฉิงเถียนแล้ว ฉันละอยากทำให้หยางจิ้งกับผู้ชายคนนั้นงงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ ค่ะ”

ถังหนิงหรี่ตามองหลงเจียพลางอมยิ้ม ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่

แก้แค้น แต่แค่ยังไม่ถึงเวลา

ในโทรทัศน์หลานอวี่ดูไร้เดียงสามากเหลือเกินตอนที่นั่ง บนโซฟาและให้สัมภาษณ์ นักข่าวถามว่า “ใครๆ ต่างก็พูดว่า คุณเป็นมินิถังหนึ่ง และใช้ชื่อเสียงของเธอสร้างกระแสให้ตัว เอง คุณมีอะไรอยากพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมคะ”

ผู้จัดการของหลานอมองเธอ เตือนให้เธอคิดก่อนจะพูด ออกมา แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว หลานอวก็ยังตัดสิน ใจที่จะตอบตามตรง “ฉันคิดว่าเมื่อฉันอายุเท่าถังหนึ่ง ฉันจะ ประสบความสําเร็จมากกว่าเธอ…

หลังจากนั้นก็มีบางคำปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของหน้าจอว่า ถังหนิงน้อยท้าตัวจริง เชื่อว่าตนเองเก่งกว่า หวังให้รุ่นพี่โชคดี ในการหาบ้านใหม่]

เมื่อเห็นดังนั้นหลงเจียก็โมโหขึ้นมาทันที แต่ถึงหนึ่งเอื้อม มือไปปรามให้เธอสงบลง “เธอโมโหง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

“เห็นๆ อยู่เด็กนั่นกำลังรอให้เราตอบกลับ จะได้ช่วยสร้าง กระแสให้ เธอยังอยากช่วยเด็กคนนั้นอยู่ไหม

หลงเจียประหลาดใจจนพูดไม่ออก

“เด็กอายุสิบหกปีพูดอะไรแบบนี้ คนคงจะหาว่าด้อยประสบการณ์ แต่ฉันไม่คิดแบบนั้น สำหรับฉันแล้วการสนใจ เรื่องตัวเองนั้นสำคัญมากกว่า ไม่ใช่ว่าทั้งหนึ่งไม่สนใจสิ่งที่ หลานอวี่พูด แต่…การที่มีคนใช้ชื่อเธอเพื่อสร้างกระแส เป็นข้อ พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าในวงการนี้

อีกทั้งเฉิงเถียนก็จะประกาศแถลงการณ์แน่นอนอยู่แล้วไม่ ช้าก็เร็ว แล้ว…จะรีบร้อนไปทําไม

คืนนั้นเมื่อไม่ถึงกลับจากไห่ยมาถึงบ้าน เขาก็สังเกตเห็น ว่าถังหนึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟารอเขา เขารู้สึกผิดขึ้นมาเล็ก น้อยขณะถามเธอว่า “ทำไมคุณไม่ไปนอนในห้อง

ถึงหญิงลุกขึ้นนั่งแล้วส่ายหน้า “เมื่อฉันอยู่บ้าน ฉันก็อยาก รอคุณ อยากเห็นคุณกลับบ้าน ถึงคะ…คืนพรุ่งนี้ฉันก็จะเข้าร่วม งานแสดงแล้ว ฉันก็เลย…. อยากใช้โอกาสของวันพรุ่งนี้มารอ คุณคืนนี้”

โม่ถึงซ้อนศีรษะของถังหนิงมาหนุนตักเพื่อที่เธอจะได้นอน อย่างสบายมากขึ้น

“ไม่เป็นไร คืนพรุ่งนี้ผมก็จะไม่ได้กลับบ้านเร็วเหมือน

กัน…”

“คะ?” ถังหนิงมองโม่ถึงอย่างสงสัย

“คืนพรุ่งนี้ ผมยังพอมีเวลาว่าง ผมก็เลยจะไปดูการแสดง ของภรรยาสักหน่อย…

“คุณกำลังบอกว่าคุณก็จะไปเหมือนกันหรือคะ” ถังหนิงตื่นเต้น เธอรอให้ไม่ถึงมาดูเธอทำงานไม่ไหวแล้ว แม้จะเป็นเวลา เพียงแค่ไม่กี่นาทีที่เธออยู่บนเวทีก็ตาม…

“อือ” โม่ถึงตอบเบาๆ ก่อนโน้มตัวลงไปจุมพิตริมฝีปาก สีกุหลาบของถังหนิง ดูเหมือนว่าไม่ว่าเขาจะจูบเธอมากเพียงไร ก็ไม่เคยจะเพียงพอสักที

“ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณอยากทำ คุณก็ลุยกับมันเลย ผมจะอยู่ ข้างคุณ ง่ายแค่นี้เอง