๒.๓ เล่ห์ร้ายจอมเผด็จการ
“มายังไง” เอเดนไม่ได้ปล่อยแต่ชวนคุย
“นั่งแท็กซี่มาค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะไปส่ง
รดาดาวคิดว่าตัวเองหูฝาดที่ได้ยินเช่นนั้น หรือว่าเขา อยากจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งๆ ที่พฤติกรรมของ เขาห่างไกลค่นั้นนัก
“นิ่มกลับเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณหรอก”
“บอกเมื่อไหร่ว่ารบกวน” เขาทำเสียงติดดุ คล้ายไม่ชอบ ที่เธอเรื่องมากบอกว่าจะกลับเอง
“คุณไม่ได้บอกหรอกค่ะ แต่นิ่มว่า…”
“ไม่ต้องว่าอะไรทั้งนั้น ผมจะไปส่ง”
“ก็ได้ค่ะ แต่ว่าปล่อยนิ่มลงก่อนได้ไหมคะ” สาวน้อยจำ ต้องยอมตามใจคนเผด็จการในที่สุด เพราะอยากให้เขา ปล่อยเธอลงจากท่านั่งอันแสนวาบหวามนี้เสียที
“ไม่ชอบเหรอ” เอเดนหรี่ตาลงชวนฝัน และมีรอยยิ้มแต้มตรงมุมปาก “นั่งแบบนี้น่าสบายดีออก”
“นิ่มว่ามันคงไม่เหมาะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเข้า เขาคงมอง นิ่มไม่ดี อีกอย่างนิ่มคิดว่านิ่มกำลังโดนคุณลวนลาม” เธอ ตัดสินใจพูดกับเขาตรงๆ
“ลวนลามยังไง?” เสียงทุ้มถามกลั้วหัวเราะ
“ก็…” รดาดาวพูดไม่ออก
“หือ…” คิ้วเข้มเลิกขึ้น พลางตีหน้าตายเหมือนรูปปั้นใน พิพิธภัณฑ์ “ผมลวนลามคุณยังไง ลองว่ามาซิ”
“นิ่มคิดว่าคุณรู้ดีค่ะ”
“ไม่ชอบเหรอ ผมว่ามันให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบนะ ถึง แม้จะทรมานไปนิดก็เถอะ”
คำพูดโจ่งครึ่มของเขาทำให้ใบหน้าสวยหวานร้อนผ่าว ขึ้นมาอีกระลอก ลึกๆ เธอเองปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกเหมือนที่ เขาพูด แต่ก็ต้องข่มกลั้นอารมณ์ที่แสนอันตรายนั้นเอาไว้ เพราะมันเป็นเรื่องที่กุลสตรีที่ดีต้องพึงระวังตัวเองให้มาก
“ถ้าคุณจะไปส่งนิ่มจริงๆ ก็กรุณาไปส่งนิ่มตอนนี้เถอะนะคะ”
“ตกลงรดาดาว ตอนนี้ก็ตอนนี้”
มือใหญ่กระชับที่สะโพกผายแล้วยกร่างอ้อนแอ้นลงจาก ตักของตน ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือเรียวเล็กให้ลุกขึ้น ตาม
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณตามมารยาท
ร่างสูงเดินนำหน้า รดาดาวจึงรีบก้าวตามออกไปยังโรง จอดรถที่คลาคล่ำไปด้วยรถยี่ห้อหรูราคาแพงลิบลิ่วกว่า ยี่สิบคัน
เอเดนออกรถหลังจากที่หญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้าง ตนเรียบร้อยแล้วเขาขับรถไปเรื่อยๆ และก็ปรายตามา มองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อรู้สึกว่าเธอเงียบเป็นหุ่นจนคน มองนึกอยากจะดึงตัวเข้าไปจูบเสียให้เข็ดจะได้เปลี่ยน จากเสียงเงียบเป็นเสียงอย่างอื่นที่น่าฟังกว่านั้น
“คุณจะพานิ่มไปไหนคะ” รดาดาวหันมาถามเมื่อรู้สึกว่า ถนนที่รถกำลังแล่นอยู่นั้นไม่ใช่ทางกลับบ้านอาของเธอ
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะพาไปสนามแข่งรถ แต่ดูท่าทางคุณ คงไม่ชอบความเร็วเท่าไหร่ เลยเปลี่ยนใจจะพาไปสนามยิงปืน”
“แต่คุณบอกว่าจะพานิ่มกลับไปส่งบ้านนะคะ”
“กลับตอนไหนก็ได้น่า บ้านไม่หนีไปไหนหรอก” เขาพูด แค่นั้นก็วิ่งรถไปยังสนามซ้อมยิงปืนตามความต้องการ ของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะอยากไปหรือไม่ อยากไป
บรรยากาศในสนามยิงปืนค่อนข้างคึกคักเพราะวันนี้ เป็นวันหยุด เอเดนดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถอ้อม ไปเปิดประตูด้านที่รดาดาวนั่งอยู่ แล้วดึงให้เธอก้าวตาม เข้าไปข้างในซึ่งกว้างขวางโล่งโปร่ง อากาศเย็นสบาย ด้วยระบบปรับอากาศดีเยี่ยม
รดาดาวสังเกตว่าคนที่มาใช้บริการสนามยิงปืนแห่งนี้มี ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ผู้ชายจะมีสัดส่วนมากกว่า เธอไม่ เคยคิดจะเข้ามาในสถานที่แบบนี้เลยสักครั้ง เพราะรู้สึก ว่ามันน่ากลัวเกินไป
เมื่อไปถึงห้องล็อกเกอร์ชายหนุ่มให้เธอรออยู่ข้างนอก ครู่หนึ่ง ส่วนเขาเดินเข้าไปหยิบเอากระเป๋าซึ่งในนั้นมีปืน สั้นยี่ห้อ Smith & Wesson M945 สีดำมันปลาบพร้อม เครื่องกระสุนครบชุด
“ทําไมทำหน้าแบบนั้น กลัวเหรอ…” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายิ้มนิดๆ เมื่อเห็นท่าทางกลัวๆ ของสาวน้อยหลัง จากที่เขากลับออกมาแล้ว
“ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้า
“รู้อะไรไหมรดาดาว ผู้หญิงบางคนยิงปืนแม่นกว่าผู้ชาย เสียอีกนะ มาสเดี๋ยวจะพาไปสัมผัสบรรยากาศใกล้ๆ”
คนที่มั่นใจในตัวเองไปเสียทุกอย่าง จูงมือเล็กๆ ของ เธอด้วยท่าทางสนิทสนมอีกครั้งและพาตรงไปยังบริเวณ สนามยิง เมื่อไปถึงก็วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ หยิบปืนออก มาบรรจุแม็กกาซีนแล้ววางมันเอาไว้บนโต๊ะ
“ใส่นี่ไว้ก่อนนะ เวลาผมยิงเสียงมันจะดังมาก”
เขาหันมาใส่ที่ครอบหูให้เธอ ก่อนจะดันร่างอ้อนแอ้น ให้ไปยืนอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็ใส่ของตัวเองบ้าง แล้ว หยิบปืนที่บรรจุแม็กกาซีนเอาไว้ขึ้นลำกล้องเล็งไปที่เป้า ก่อนที่นิ้วเรียวใหญ่จะเหนี่ยวโกร่งไกอย่างใจเย็นแต่เด็ด เดี่ยวดุดันเหมือนนิสัยคนยิง บังคับให้ลูกกระสุนวิ่งออก จากปลายกระบอกปืนพุ่งไปยังเป้าที่อยู่ห่างออกไปเกือบ สามสิบเมตรติดต่อกันห้านัด
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
กระสุนขนาด .38 มิลลิเมตร แหวกอากาศพุ่งไปทะลุเป้า อย่างแม่นยำราวกับจับวาง
เขากดปุ่มรอกไฟฟ้าเพื่อดึงเป้ากลับมาดู และมองเป้าที่ พรุนบริเวณจุดกึ่งกลางด้วยแววตาเฉยเมย ราวกับเป็นสิ่ง ที่เขาทํามันได้จนเคยชินเสียแล้ว
รดาดาวหลับตาปี่เพราะตกใจกลัวแม้แทบจะไม่ได้ยิน เสียงใดๆ ก็ตาม เธอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มือใหญ่ยื่นมา ถอดที่ครอบหูออกให้ ดวงตาเรียวหวานเหลือบมองเป่ายิง ในมือเขาและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีหนวด เคราขึ้นตามแนวสันคางอย่างอดทึ่งไม่ได้
“อยากลองดูไหม”
“นิ่มไม่เคยยิงปืนค่ะ จับยังไม่เคยเลย” เสียงหวานบอก
ขลาดๆ
“มันไม่ได้น่ากลัวหรอกนะ มาสิเดี๋ยวจะสอนให้
เอเดนไม่รอให้เธอตอบตกลง มือใหญ่จับร่างอรชรและ รุนหลังให้หันไปหาปืนที่เขาวางไว้บนโต๊ะ โดยมีร่างแกร่ง ก๋าย่ายืนประกบซ้อนหลังแบบแนบสนิท
“หยิบปืนขึ้นมา” เสียงห้าวทุ้มกระซิบสั่งอยู่ข้างๆ หูของ รดาดาว
มือเล็กจึงจับปืนกระบอกนั้นขึ้นมาตามคำสั่งอย่างกล้าๆ กลัวๆ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยกับการได้ สัมผัสป็นจริงๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต
“จับสองมือ แล้วเล็งปลายกระบอกไปที่เป้า” ไม่สอนแค่ ปาก แต่แขนทั้งสองข้างของเขายังวาดไปแนบสนิทกับ แขนเรียวของเธอ มือใหญ่ประกบลงบนมือเล็กกระชับเอา ไว้คล้ายกับท่ายิงของเขาตอนที่หัดยิงใหม่ๆ
“แบบนี้เหรอคะ”
ใบหน้าสวยหวานหันมาถามอย่างลืมไปว่าใบหน้าหล่อ เหลานั้นอยู่ห่างไม่ถึงคืบจึงทำให้แก้มใสชนเข้ากับจมูก โด่งอย่างจัง เขาจึงฉวยโอกาสสูดเอาความหอมจากแก้ม ของเธอฟอดใหญ่ๆ ทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ