บทที่ 7
เมื่อถึงช่วงหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จแล้ว ป๊ากับมาก็นั่งดูทีวี ด้วยกันในห้องนั่งเล่น ฉันจึงใช้โอกาสนี้เดินเข้าไปหา ทำทีเป็น นั่งลงบนพื้นเกาะขาม้าแล้วซบแก้มอย่างออดอ้อน
“ทำไมวันนี้มาแปลก ปกติไม่เห็นจะอ้อนมาอย่างนี้เลย” มา เอื้อมมือมาลูบกลางกระหม่อมฉันเบา ๆ ในขณะสายตายังคง จ้องมองหน้าจอทีวี
“แปลกตรงไหนมา หนูแค่อยากอ้อนมาบ้างก็เท่านั้นเอง” ฉันว่าพร้อมทั้งเหลือบตามองดูหน้าป้าว่าตอนนี้อยู่ในอารมณ์ ไหน แต่ก็ต้องตกใจจนสะดุ้งเมื่อท่านหันมามองหน้าฉันราวกับ รู้ตัว
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย สีหน้าแกมันมีพิรุธ บอกมา ซะดี ๆ ว่าไปทําอะไรไว้
ได้ยินอย่างนั้นฉันก็ตัวชา หัวใจเต้นแรงจนต้องพรูลมออก จากปากเพื่อระบายความตื่นเต้น ยังคงกอดขามาไว้อยู่อย่างนั้น เพราะกลัวว่าป้าจะให้
“ถ้าหนูบอกแล้วห้ามโวยวายเด็ดขาดนะ
“ทำไมต้องโวยวายล่ะด้วยหรือว่าแกท้อง” ว่าแล้วป้าก็ขา
เบา ๆ หันไปสนใจหน้าจอทีวีต่อ ฉันกลืนน้ำลายลงคืออย่างใด ๆ ป่าพูดแล้วอย่างนี้แสดงว่าท่านคงไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันจริง ๆ สินะ รู้อย่างนี้ยิ่ง กดนเข้าไปใหญ่
“มีอะไรก็รีบบอกมา อีกไม่นานป้ากับม้าจะขึ้นนอนแล้วนะ” มาเอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้ง
“ป๊า ม๊า คือหนู…ท้อง” ฉันตัดสินใจบอกความจริงไป ก่อน
จะก้มหน้ารอรับการลงทัณฑ์จากป้า
สำหรับมาแล้วท่านใจดีไม่เคยดุด่าว่ากล่าวจึงพอยังวางใจ ได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้สึกผิดที่ทำให้ท่านผิดหวัง การท้องก่อน แต่งมันเป็นเรื่องเสื่อมเสียสำหรับลูกผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ทว่าท้อง กับผู้ชายที่ไม่ได้เป็นแฟนยิ่งน่าขายหน้าเข้าไปใหญ่
“แกล้อป้าเล่นใช่ไหม เพิ่งรู้ว่าเป็นคนตลกก็วันนี้ล่ะ” ป้าหัน มามองยังคงขาไม่หยุด
“หนูไม่ได้ล้อเล่นหนูท้องจริง ๆ นะป๊า ท้องได้สองเดือนแล้ว ด้วย” ฉันกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง สื่อให้ท่านรู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่ เรื่องตลกอีกแล้ว
“แกพูดจริงเหรอข้าว!” มาถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เห็นสี หน้ามาแล้วก็รู้สึกผิดมากเหลือเกิน
“จริงค่ะม้า ฮึก หนูขอโทษหนูผิดไปแล้ว หนูไม่ได้ตั้งใจให้ มันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น” ฉันก้มกราบแทบเท้ามาขอโทษกับสิ่งที่ เกิดขึ้น
“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร หะ! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้” ป้าลุกตึงตังขึ้นจากโซฟาจ้องเขม็งมายังฉันด้วยความโมโหร้าย ตั้งเกิดฉันไม่เคย
“ฮึก…หนูไม่อยากพูดถึงเขาอีกแล้ว หนูตัดสินใจจะเลี้ยงลูก เอง” ฉันตอบกลับด้วยน้ำตา
“นังลูกรักดีแค่ท้องก่อนแต่งอับอายมากพอแล้ว นี่ท้องมีพ่ออีกงั้นเหรอ มันฆ่าให้ตรงหาแต่ทว่ามารีบลุกมาขวางไว้เสียก่อน
“ใจเย็น เฮียอย่าทำอะไรลูกเลยตอนข้าวมันกำลัง ท้องกำลังอยู่นะในท้องหลานเรา” แม่พยายามหาผลอ้างเพื่อให้ป้ายอมลดดีกรีความโมโหลงบ้าง ทำให้ท่านใจเย็นลงเลยสักนิด
“ท้องแล้วยังโกรธได้ยังไงกันป้าพยายามผลักตัวมาออกให้พ้นทาง
“าหลีกหนูทำต้องโดนลงโทษ” ฉันยังคงนั่งอยู่เดิมรับชะตากรรม
“แกรีบขึ้นห้องก่อนเร็ว ม้ายอมให้ต้องเด็ด
“จะปกป้องมันทำไม มันทำให้ตระกูลเราขายหน้าขนาด
พี่ข้าวเกิดอะไรขึ้น” เจ้านายวิ่งมาจากชั้นเมื่อ ได้ยิน”
“จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไงกันก็พี่สาวแกมันท้องไม่มีพ่อ” ป้า นิ้วมาที่ฉันราวกับเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงซะอย่างนั้น
“ท้อง! พี่ข้าวท้องได้ไง” เจ้านายตะลึงเมื่อรู้ความจริง
“ฮือๆๆ จะฆ่าจะแกงก็เอาเลยค่ะป้า แต่หนูจะไม่ยอมบอกว่า พ่อของเด็กคือใคร หนูจะเลี้ยงลูกด้วยตัวของหนูเอง” ฉันยังคง ยืนยันคำพูดเดิม แสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้ป้ารู้
“ถ้าแกไม่บอกก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าป่าอีก ถ้าแกเห็นผู้ชายคน นั้นดีกว่าคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็เอาเลย ให้ชาวบ้าน ชาวช่องเขานินทาว่าไอ้ป้อมันเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่อง จนท้องไม่มีพ่อ อย่างนี้ เมื่อเห็นน้ำตาป้าฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด ป้าไม่เคยอ่อนแอให้ เห็นแต่มาวันนี้ฉันเป็นคนทำให้ท่านร้องไห้ ฉันมันเลวเกินกว่าจะ เป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ
“ป้าหนูขอโทษ ฮือๆๆ ที่ไม่อยากบอกเพราะหนูกลัวว่าถ้าป้า รู้แล้วจะยิ่งเสียใจกว่านี้อีก” ฉันยอมบอกเหตุผลให้ท่านรู้ว่าต้อง ปิดเรื่องพ่อของลูกเพราะกลัวว่าท่านจะไม่สบายใจ แต่มาถึงตอน นี้แล้วการจะบอกหรือไม่ ผลก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด ท่านมีสิทธิ์จะรู้ ความจริงเพราะฉันคือลูกสาวของท่าน
“จะมีอะไรที่ทำให้ฉันเสียใจไปมากกว่านี้อีกงั้นเหรอ ถ้าแก ไม่บอกแสดงว่าแกรักมันมากกว่าฉันรู้ไว้ด้วย”
“บอกมาเถอะข้าวอย่างน้อยป้ากับม้าจะได้อุ่นใจว่าแกไม่ได้ ไปมั่วผู้ชายจนตั้งท้อง”
“ผู้ชายคนนั้นคือ…คือ… ฉันไม่อยากเอ่ยชื่อนี้ให้ป่าได้ยินเลย เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้น
“คือใครก็รีบบอกมาสิวะ หรือต้องให้ฉันก้มลงกราบขอร้อง แกห้ะ!
“นายฟีฟ่าลูกชายเฮียกรไงล่ะป๊า!!!” ฉันกลั้นใจหลับตาแล้ว ตะโกนบอกทุกคนในบ้าน จากนั้นก็หลั่งน้ำตาออกมาเป็นสาย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยร้องไห้หนักหน่วงอย่างนี้มาก่อนเลย
“วะ…ว่าไงนะ! ลูกไอ้กรงั้นเหรอ แกไปชอบผลอกับมันตั้งแต่ เมื่อไหร่” เมื่อรู้ว่าเป็นนายฟีฟ่าป๊าก็แทบล้มทั้งยืน
“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะป๋า มีอะไรกันแค่ครั้งเดียวตอนไปงาน แต่งเพื่อน หนูเมาเขาก็เมาเลยเกิดเรื่องขึ้น ก็หนูบอกแล้วไงว่าไม่ อยากบอกรู้แล้วป้าก็โกรธหนักเข้าไปใหญ่
“ฉันไม่ยอมให้ไอ้ลูกบ้านนั้นมาหยามเกียรติลูกสาวฉันฟรี ๆ
แน่” ว่าแล้วป้าก็เดินดื่ม ๆ จะออกไปนอกบ้าน
“เฮียจะไปไหน!” แม่ตะโกนถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ก็จะไปเอาเรื่องไอ้สารเลวนั่นยังไงล่ะ” เราสามคนมองหน้า กันแล้วรีบเดินตามหลังออกไปโดยเร็ว ว่าแล้วไงต้องมีเรื่องอย่าง นี้เกิดขึ้น
เดินออกไปก็พบว่าตอนนี้ป้ากำลังยืนอยู่รั้วบ้านเฮียกรแล้ว ตะโกนเสียงดังจนเพื่อนบ้านในละแวกได้ยินกันถ้วนหน้า ป้าจะ ประจานลูกสาวตัวเองหรือไงคะเนี่ย แง ๆ เวลาโมโหก็เป็นอย่าง นี้ทุกครั้งไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
“ไอ้กรจึงโผล่หัวออกมาจากบ้านเดี๋ยวนี้ เอาไอ้ลูกชายตัวดี มึงออกมาด้วย จึงได้ยินไหมวะไอ้กร
“ใครมันมาโหวกเหวกโวยวายเสียงดังหน้าบ้านกูวะ อ้อ! ไอ้ เหี้ยป้อนี่เอง ค่ำมืดดึกดื่นมึงยังตามมาหาเรื่องกูอีกเหรอวะไอ้ หมาบ้า” เฮียกรเดินออกมาพร้อมกับลูกเมียอย่างพร้อมหน้า
หนึ่งในนั้นก็คือนายฟีฟ่าที่เอาแต่จ้องมองมาที่ฉันเชิงตั้ง คำถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นฉันร้องไห้ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ