บทที่ 11 ข่าวดี
แผนอื่นๆ ของคนสองคนดูเหมือนจะเป็นผล เพราะนอกจาก บิดาของเธอแล้ว แม้แต่คุณกฤษณะก็ไม่เข้ามาวุ่นวายให้ม่านฟ้า ต้องอึดอัดใจ งานที่ครึกครื้นดำเนินไปอย่างสนุกสนานจนผ่านไป ได้ด้วยดี แทนคุณกับทีภพเดินไปลาเจ้าของงานอย่างนาย ดนัยก่อนจะเดินทางกลับตามมารยาทที่ดี
“แทน นายกับม่านกำลังทำอะไรกันอยู่
ทีภพสังเกตเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในงาน หากแต่เขาไม่ได้ชัก ถามทันทีในตอนนั้น แต่เก็บข้อสงสัยเอาไว้และต้องการคำตอบ ในเวลานี้ สองมือของแทนคุณจับพวงมาลัยรถแน่น สายตาจับ จ้องไปยังถนนเส้นตรง เขารู้ดีว่าทีภพต้องการคําตอบจากเรื่อง จริง เนื่องจากในงานวันเกิดที่พึ่งเกิดขึ้น ทีภพเดินตามแทนคุณ กับม่านฟ้าอยู่ห่างๆ ซึ่งเขาไม่ได้เอ่ยถามถึงเรื่องราวแปลก ประหลาดที่เกิดขึ้นให้คนในงานสงสัยแม้แต่น้อย
“ม่านให้ฉันแกล้งเป็นแฟน”
“แกล้งเป็นแฟน!” เสียงเพื่อนรักดูตกใจไม่น้อย
“จะบ้ากันไปใหญ่ นี่นายกับม่านคิดอะไรกันอยู่” คำว่าแกล้ง เป็นแฟนของแทนคุณ ทำให้ที่พยิ่งไม่เข้าใจกับพฤติกรรมของ ทั้งสอง เขาและเธออายุย่างเข้าเลขสาม แต่กลับทำตัวเหมือน เด็กๆ
“แล้วทำไมนายไม่รักให้มันจริงๆ ทำไมไม่ตกลงเป็นแฟนกัน จริงๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป หากพ่อของม่านจับแต่งงาน นายจะ ทํายังไง
ทีภพรู้จักนายดนัยเป็นอย่างดี เรื่องการเจ้ากี้เจ้าการจับลูกสาว ให้แต่งงานกับคนระดับบนนั้น เขาขึ้นชื่อในหมู่นักธุรกิจมานาน มุกพี่สาวของม่านฟ้าก่อนที่จะลงเอยกับสามีคนปัจจุบันของเธอ ดนัยได้พาไปดูตัวกับใครต่อใครหลายคน พอเห็นเป็นจังหวะที่ พอจะส่งเสริมทางธุรกิจกันได้ ก็รีบโอนลูกสาวให้รวดเร็วอย่าง กับสายฟ้าฟาด
“เรื่องนั้นฉันยังไม่คิด แต่วันนี้ฉันเห็นม่านร้องไห้ จะให้ฉันอยู่ เฉย โดยไม่ช่วยก็คงไม่ได้
แทนคุณนึกย้อนกลับไปในเวลาที่เขาเห็นน้ำตาของหญิงสาว มันทำให้เขาเจ็บปวด และรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่ได้เข้าไปช่วย เหลือเธอ เขาพยายามสลัดปัญหาที่จะตามมาทีหลังทิ้งไป ม่าน ฟ้าเป็นหญิงที่เพียบพร้อม การที่ได้เห็นเพื่อนสาวทุกข์ระทมเพราะ ผิดหวังในคู่ครองที่เธอไม่เลือกเป็นสิ่งที่บีบหัวใจเขามากเสียกว่า สายตาของทีภพยังเพ่งมองแทนคุณไม่ละ เป็นแววตาระคนปน สงสัยพร้อมส่ายหัวไปมากับความคิดตื้นๆ ของทั้งคู่
“อ่อ แล้วเรื่องร้านที่ฉันให้นายช่วยดู หากนายพิจารณาว่าร้าน ไหนผ่านก็โทรบอกฉันด้วยนะ ฉันจะได้รีบทำสัญญา” แทนคุณ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เขายังไม่พร้อมที่จะคิดทบทวนอะไร มากในเวลานี้ มีเพียงความสบายใจที่ได้ช่วยเพื่อนสาวให้ รอดพ้นจากนายกฤษณะเท่านั้น
“อืม เรื่องนั้นไม่มีปัญหา
ภพหันมองไปทางอื่นก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ท่าทีของ คนไม่เห็นด้วยแสดงออกมาอย่างชัดเจน หากใจของแทนคุณไม่ ได้มีไว้ให้ม่านฟ้า คนที่เสียใจมากที่สุดจะเป็นพวกเขาเอง แน่นอน ในวันนี้มันอาจยังไม่ส่งผลแต่ภายหน้าหากม่านฟ้าหรือ แทนคุณค้นพบหัวใจตัวเอง พันธนาการนั้นจะเป็นปัญหาของทั้งคู่ ที่ต้องประสบพบเจอและมันอาจจะเป็นชนวนการทำลายสาย สัมพันธ์ที่พวกเขามีให้กันมาโดยตลอด
“พ่อสบายดีไหม” คำพูดแรกออกจากปากสาวน้อย สายตาที่ดู ห่วงหาอาทรส่งผ่านไปยังบิดาของเธอ หญิงสาวพูดใส่โทรศัพท์ที่ ด้านหน้ามีแค่กระจกใสกั้น ภายในกระจกเห็นชายสูงอายุรูปร่าง ผอมบาง ผมขาวเกือบทั่วศีรษะ แต่งตัวด้วยชุดนักโทษชาย มือ ถือโทรศัพท์จ้องมองเธอด้วยความคิดถึง
“ทิชาขอโทษนะ ที่หายไปนาน ไม่ได้มาหา” น้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อเห็นบิดาผู้เป็นที่รักดูโทรมไปมากหลังจากที่เธอไม่ได้มา เยี่ยมอยู่หลายเดือน ใบหน้าสูบผอมพร้อมกับดวงตาเศร้านั้นส่ง ผ่านความรู้สึกมายังเธอ
“พอเข้าใจ ว่าหนูทำงาน พ่อสบายดี”
ชายสูงอายุพูดปลอบใจลูกสาว แววตาเป็นประกาย จ้องมอง เด็กสาวด้วยความคิดถึงอย่างสุดหัวใจ ในเวลานี้ชายต้องยังมี ลมหายใจอยู่ได้นั่นเพราะหญิงสาวที่ชื่อ “นันทิชา” เป็นลม หายใจที่ต่ออายุของเขามาเกือบยี่สิบปี หญิงสาวที่นั่งพูดคุยกับชายชรานั้นมีหน้าตาเหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิดเพี้ยน
เขาเห็นเธอยิ่งรู้สึกคิดถึงภรรยาจับหัวใจ เฝ้าแต่โทษตัวเองมา ตลอดว่าทุกอย่างมันพังทลายเพราะฝีมือผู้นำครอบครัวแย่ๆ อย่างเขา วันที่ได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับภรรยาที่จากไปเมื่อสองปี ก่อนมันทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ด้วยห่วงแสน ห่วงลูกสาวเพียงคนเดียวที่ต้องเผชิญชีวิตลำพัง ยิ่งมองหน้า ลูกสาวเขายิ่งเจ็บปวดยิ่งตอกย้ำว่าเขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดมาทั้ง ชีวิต
“พ่อมีข่าวจะบอก” ผู้เป็นพ่อยิ้มละมุน เขาหวังว่าข่าวดีนี้จะ ทำให้ลูกสาวของเขาดีใจไม่น้อย
“อะไรคะ” นันทิชาถาม ประกายนัยน์ตามองผู้เป็นพ่อด้วย ความกังวลใจ
“พ่อใกล้จะออกจากที่นี่แล้วนะ” สิ้นเสียงคำพูดของชายชรา เหตุการณ์เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ใบหน้าของสาวน้อยจากที่ดู เป็นกังวลก็จางหาย เผยรอยยิ้มแสดงเด่นชัดขึ้นมา รอยยิ้มของ นันทิชาเบ่งบานออกมาจากหัวใจ จนกลั้นน้ำตาไม่ไหวเพราะเธอ รอคอยวันนี้มานานแสนนาน เป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ในชีวิต
“จริงหรือคะ ทิชาดีใจค่ะ พอพูดจริงๆ นะ”
ผู้เป็นพ่อยิ้มพยักหน้าตอบรับ พร้อมกับน้ำตาที่ปริ่มด้วยความ ปลื้มปีติ ที่ในไม่ช้าเขาจะได้ออกมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติเสียที ทั้งสองต่างสอบถาม แสดงความห่วงใยซึ่งกันและกัน ภายในเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้พบนั่นเป็นเพียงเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น หญิงสาวมักจะมาเยี่ยมพ่อ ในเวลาที่เธอว่างตรงกับวันที่กำหนด ให้เยี่ยมนักโทษ
ซึ่งก็มีไม่มากนักที่จะว่างตรงกัน ในแต่ละครั้งที่นันทิชามา เยี่ยมพ่อของเธอ มันก็เหมือนกับต่อลมหายใจให้กันและกัน มารดาของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน บ้านเก่าหลังโทรมจึง ไม่มีคนอาศัย หากพ่อของเธอออกมาจากเรือนจํา หญิงสาวหวัง ว่าที่นั่นจะเป็นที่ที่เธอกับพ่อจะไปอยู่ด้วยกัน แม้จะห่างไกลจากที่ ทํางานและเรียนก็ตาม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ