ร้ายกลายรัก

ตอนที่11 ฉันต้องไปแล้ว



ตอนที่11 ฉันต้องไปแล้ว

ตอนที่11 ฉันต้องไปแล้ว

อากาศเดือนกันยายน ใบหน้าเด็กน้อย จะว่าเปลี่ยนก็ เปลี่ยนไปจริงๆ

วันที่เงินหน่วนจะต้องออกจากโรงพยาบาล ฝนตกแรง มาก ทั้งเมืองAชุ่มชื่นไปด้วยแหล่งน้ำ

เจียงอี้ติดประชุมสำคัญ เขาจึงส่งบอดี้การ์ดมารับเงินหน่ วนและลูก

เวินหน่วนตื่นขึ้นมาเก็บของตั้งแต่เช้าตรู่ จริงๆแล้ว เธอ ก็ไม่มีของอะไรให้ต้องเก็บหรอก นอกจากตัวเธอเองแล้ว นั้น แล้วก็สิ่งที่เธอจะพกติดตัวไว้ นั่นก็คือสมุดโน้ตเล่ม หนึ่งที่เจียงอี้เคยให้เธอไว้ตั้งแต่ตอนสมัยเรียน

จริงๆแล้วคนที่เจียงอี้จะให้ไม่ใช่เธอ แต่เป็นเวินซิน เพียง แต่เขาส่งให้ผิดคน จึงไม่กล้าจะขอกลับคืนไป…

เธอฝืนหัวเราะออกมา ยื่นมือไปลูบที่หน้าปกสีดำของ สมุดเล่นนั้น ผ่านมาหลายปีแล้ว สมุดเล่มนี้ถูกเธอเก็บ รักษาไว้เป็นอย่างดี เมื่อวานเธอให้คนใช้ที่บ้านเอามาให้ กับเธอ วันนี้ที่เธอกำลังจะจากไป เธออยากจะเอาสมุด เล่มนี้ไปกับเธอด้วย
เปิดสมุดออกมา ลายมือสวยงาม หน้าต่อจากปกถูก เขียนไว้ประโยคหนึ่ง “รอวันที่คุณจะรักฉัน…”

ริมฝีปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองโง่เสีย จริงๆ เป็นไปได้อย่างไรกันที่จะรอให้เขามารักเธอ?

เขาเกลียดเธอ และคงจะเกลียดเธอแบบนี้ไปตลอด ชีวิต!

ในสมุดเล่นนี้บันทึกความรู้สึกทุกครั้งที่เธอได้เจอเจียงอี้ ทั้งดีใจ มีความสุข เศร้าเสียใจ หรือสิ้นหวัง….

เสียงที่ดังขึ้น ทำให้เธอปิดสมุดเล่มนั้น แล้วรีบยัดใส่ลง ในกระเป๋าของเธอ แล้วมองไปที่นิ้วเรียวที่ยังคงสวมแหวน ที่เจียง สวมให้เธอไว้ในวันที่แต่งงาน

แหวนที่ระยิบระยับ ยิ่งทําให้เธอรู้สึกเจ็บปวด ขอบตา รู้สึกร้อนผ่าว แล้วค่อยๆถอดแหวนวงนั้นออกมาจากนิ้ว…

เธอวางแหวนไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง พร้อมกับจดหมาย ฉบับหนึ่ง เธอมองแล้วมองอีก จนในที่สุด เธอก็ผลักประตู ห้องพักคนป่วยออกมา

หน้าห้องมีบอร์ดี้การ์ดสองคนยืนเฝ้าอยู่
“คุณจะไปไหนครับ รถที่รับคุณยังไม่มาเลยครับ”

“ฉันจะไปหาลูกที่ห้องทารกแรกเกิดหน่อย”

บอร์ดี้การ์ดสองคนนั้นจะเดินตามเธอไป

เป็นหน่วนส่ายหน้า “เด็กๆต้องการความเงียบสงบ พวก คุณไม่ต้องตามฉันไปหรอกค่ะ”

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนไม่กล้าทำให้เธอลำบากใจ และ แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าเป็นหน่วนจะหนีไปด้วย เช่นกัน

เวินหน่วนมองกลับไปยังห้องพัก แล้วค่อยๆเดินออกไป จนสุดทางเดิน…

เมื่อเจียงอี้ได้รับสายจากบอร์ดี้การ์ด เดิมที่ใบหน้าไม่ได้ สนใจอะไรของเขากลับเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที

“อะไรนะ?”

“พูดอีกทีซี”
ปลายสายบอร์ดี้การ์ดกำลังกระวนกระวาย “ท่าน

ประธานครับ ภรรยาคุณ หายไปแล้วครับ…”

ดวงตาของเจียงอี้ราวกับกำลังมีไฟลุก เอ่ยถามต่อด้วย น้ำเสียงเยือกเย็น “หายไป หมายความว่าอะไร?”

“บอกฉันสิ หายไปที่ว่าหมายความว่าอะไร?”

“ถูกลักพาตัว?”

“หรือว่าหายตัวไป?”

ปลายนิ้วของเขาเริ่มสั่น เขานึกถึงคำพูดที่เงินหน่วนพูด กับเขาในวันนั้น เธอบอกให้เขาปล่อยเธอไป แล้วยังพูด ว่า หากเธอตายไปก็คงจะดีไม่น้อย….

เธอคงไม่?…..

เมื่อนึกถึงคำว่า ตาย แล้วนั้น ร่างสูงของเขากลับสั่นเทา ในใจรู้สึกราวกับติดๆขัดๆตามไปด้วย ในหัวของเขาใบ หน้าของเวินหน่วนที่มองดูแล้วราวกลับไม่มีความผิดใดๆ ลอยขึ้นมา ดวงตาที่ดูแล้วมีแต่ความโศกเศร้า เธอบอกกับ เขาอยู่เสมอ “เจียงอี้ ฉันไม่ใช่ฆาตกร…”

จะเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน?
ผู้หญิงคนนี้ หากเธอตายไปจริงๆก็คงจะไม่น่าเสียดาย หรอก…

แต่วินาทีต่อมา ทันทีที่เขารับโทรศัพท์ เขาก็รีบวิ่งไปยัง ประตูออฟฟิศของเขา แล้วพุ่งออกไปราวกับจรวด

ด้านนอกฝนที่กำลังตกอย่างหนัก เขาที่ไม่มีแม้แต่ร่ม ก็ วิ่งฝ่าสายฝนออกไปยังโรงจอดรถทันที

หลังจากสตาร์ทรถแล้ว เขาไม่อยากจะเสียเวลาระหว่าง ทางที่จะไปยังโรงพยาบาล ในขณะเดียวกัน จึงโทรศัพท์ ให้คนช่วยเขาหาข้อมูลว่ามีข้อมูลไฟท์บิน หรือข้อมูล การซื้อตั๋วรถไฟของเธอบ้างหรือเปล่า รวมทั้งสถานนีผู้ โดยสารที่เดินทางไกลก็ให้พวกเขาช่วยเช็คให้ทั้งหมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ