รักอยู่ไกลมากกว่าปีแสง

บทที่ 17 ขอร้องล่ะ



บทที่ 17 ขอร้องล่ะ

” จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้เห็นคุณผู้หญิงบ่อยๆครับ แต่ ทุกครั้งก็จะเจอกันแบบรีบมาก ประธานครับ คุณก็รู้ว่าคุณผู้ หญิงซื้อบ้านเล็ก แต่ผมมองแล้วก็รู้สึกว่าบ้านกว้างมาก ดีเดย์พูด

“ใช่ กว้างมาก ” ทั้งใบหน้าของฟีนิกเต็มไปด้วย ความทุกข์ จะไม่กว้างได้ยังไงกัน? ฮาวายตัวเล็กแค่นั้น มองห้องที่มีเธอแค่คนเดียวทุกวัน ต้องโดดเดี่ยวมากแน่

ฤดูหนาวของเมืองเหนือก็หนาวมากอยู่แล้ว เขาไม่ ปกติตรงจุดไหนกันนะถึงได้ทิ้งให้ฮาวายอยู่ที่บ้านคนเดียว โดยที่ไม่สนใจและเป็นห่วงอย่างใจร้ายแบบนั้น

ผมจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่คุณผู้หญิงถามผมว่า คุณกำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกับ เธอจึงได้แต่พูดว่าเพื่อเธอคุณถึงได้พยายามทำงานแบบ นี้ ประธานครับ ตอนนี้ผมนึกไปถึงคำพูดที่ผมเคยพูดยัง คงรู้สึกผิดเลยครับ ” ดีเดย์รู้สึกว่าจมูกของเขาแสบร้อน ผู้ หญิงที่อ่อนโยนอบอุ่นคนนั้น ทำไมถึงต้องรับความทุกข์ ทรมานแบบนี้นะ?

ฟีนิกไม่ได้โมโห เขามองดีเดย์ สีหน้าอ่อนโยนลงไป มาก อาจจะเป็นเพราะการพูดคุยกันที่ทำให้ความสัมพันธ์ ของทั้งสองเหมือนได้กับกลับไปสนิทกันอย่างเมื่อก่อน ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจน้อยๆ
เขาพูดว่า : “ ผมรู้ว่าพวกคุณคิดยังไงกับผม ไร้หัวใจ หลายใจ เจ้าชู้ ดีเดย์ ไม่ปิดบังคุณนะตอนนี้ผมเองก็รู้สึก เสียใจมาก ”

แต่เสียใจแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะ? ความเสียใจและ ความรู้สึกผิดที่มากกว่านี้ก็ไม่สามารถทำให้ฮาวายมีชีวิต ขึ้นมาอีกครั้ง

“ ครึ่งปีแล้ว เธอจากไปครึ่งปีแล้ว แต่ทำไมผมถึง รู้สึกเหมือนกับว่าเธอยังไม่ตายและอยู่ข้างๆผมนี่เอง ” ฟี นิกพูด

“ ประธานฟีนิกครับ เลิกเศร้าและเสียใจเถอะครับ ดีเดย์ปลอบเขาประโยคหนึ่ง

ฟีนิกมองบุหรี่ที่ค่อยๆสั้นลงที่หนีบอยู่ตรงปลายนิ้ว พูดเสียงเบาว่า : “ แต่กระดูกขี้เถ้าของเธอไม่อยู่กับผม คุณว่าผมเป็นสามีที่ล้มเหลวมากเลยใช่ไหม?

ดีเดย์ไม่ได้ตอบและไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

“ คุณไปสืบว่าเจอาร์กับตระกูลอาร์ที่อยู่ที่เมืองใต้นั้น มีความสัมพันธ์กันแบบไหน ผมไม่อยากให้ฮาวายอยู่กับ คนอื่นที่นั้น ” ฟีนิกเคาะบุหรี่ จู่ๆน้ำเสียงก็เย็นเฉียบขึ้นมา เล็กน้อย
ตระกูลอาร์ที่อยู่ที่เมืองใต้? ดีเดย์นิ่งไปแล้วพูดขึ้นมา ว่า : “ ประธานครับ เราเพิ่งเอาบริษัทของตระกูลเอเรียมา ไม่เหมาะที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลอาร์นะครับ แบบนี้จะทำให้ บริษัท……”

* ไม่เป็นไร หากสามารถใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของ ผมแลกฮาวายกลับมาได้ก็คุ้มแล้ว ” ฟีนิกยกมือตัดบทเขา บอกความต้องการของตัวเองให้ดีเดย์ฟัง

เวลาครึ่งปี เขาทนได้นานเกินไปแล้ว

เมื่อดีเดย์ออกไปแล้ว ฟีนิกเอาจดหมายที่คนรับใช้ จากคฤหาสน์เมืองตะวันตกออกมา ผ่านไปครึ่งปีแล้วยัง คงไม่มีรอยยับมากนัก เห็นได้ถึงใจของคนเก็บที่ให้ความ สำคัญกับจดหมายฉบับนั้น

ฟีนิกเปิดดูอย่างระมัดระวัง แค่ไม่กี่คำ แต่เหมือนกับ ว่าเขาใช้เวลาทั้งชีวิตก็ดูไม่หมดแบบนั้น

เขาพูดเสียงเบาว่า : “ ฮาวาย อภัยให้กับความ เห็นแก่ตัวของผม ผมทำไม่ได้ที่จะไม่พาคุณกลับมา ผม ต้องการให้คุณอยู่กับผม

เวลานี้ฟีนิกเพิ่งรู้ว่า ไม่มีฮาวาย เขาเป็นอะไร? ร่าง เดินได้ที่มีเสื้อผ้าสวยงามห่อหุ้มไว้ ด้านหลังว่างเปล่าไม่มีใครที่เหมือนกับเธอที่ให้ความรู้สึกอุ่นใจกับเขาได้อีก

เขาในตอนนี้มีเงินมากแค่ไหนแล้วยังไง? กอดผู้ หญิงข้างกายไว้มากมายแล้วยังไง? ไม่มีฮาวายทุกอย่างก็ ว่างเปล่า

กลางดึก ฟีนิกเดินออกมาจากบริษัท พนักงานสาว ทักทายเขาอย่างขัดเขิน : “ ประธานฟีนิกคะ คุณเลิกงาน แล้วหรอคะ? ”

“ อือ ” ฟีนิกรับเสียงหนึ่งแล้วเดินตรงออกไปข้าง นอก ทําให้พนักงานสาวแอบสงสัย เธอเพิ่งกลับมาหลัง จากลางานไป เมื่อก่อนประธานจะมีรอยยิ้มทะเล้นติดปาก อยู่ตลอดเวลา ทำไมอยู่ๆก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละ คนเลย

ฟีนิกขับรถกลับบ้าน แต่เมื่อมองเห็นคนๆนั้นที่อยู่ข้าง ประตู เขาก็หยุดหายใจไปเลย

“ ฟีนิก ” หญิงสาวเรียก ก็ทำให้ความรู้สึกที่รู้สึกผิด ไม่เป็นความจริงเล็กๆของฟีนิกให้แตกละเอียดไป เขาพูด ออกมาเสียงเย็น : “ เอเรีย คุณยังกล้ามาที่นี่อีก? อยาก ให้ผมระลึกความหลังให้คุณแล้วรู้สึกถึงความเจ็บที่กลิ้ง ตกลงมาจากบันไดอีกหรอ? ”
“ ไม่ใช่ค่ะ ฟีนิก คุณฟังฉันพูดนะคะ ” เอเรียมอง ชายหนุ่มที่เย็นชา ในใจก็รู้สึกหวาดหวั่นอย่างควบคุมไม่ ได้ แต่เมื่อนึกถึงสภาพตอนนี้ของที่บ้าน เธอก็กัดฟันแล้ว พูดว่า : “ ฉันมาขอร้องคุณ ให้ตระกูลของฉันมีทางรอด เส้นทางหนึ่งได้ไหมคะ?

แสงไฟสว่างในทางเดิน ไม่ได้ทำให้ความเย็นชาของ ชายหนุ่มมะลายหายไปเลย นี่ทำให้ข้างในใจลึกๆของเอ เรียยิ่งไม่มั่นใจ เธอประสานมือกันแน่นอย่างกังวล ท่าทาง นี้ทำให้ฟีนิกนึกไปถึงฮาวาย

ใจของเขาอ่อนลงไปมากโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาพูด

ว่า : “ ได้ ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ