รักสุดท้ายให้กับนาย-2

บทที่4 มามี้ผมเข้าห้องน้ำผู้ชายไม่ได้



บทที่4 มามี้ผมเข้าห้องน้ำผู้ชายไม่ได้

เมื่อบุริศร์เห็นนรมนมาแต่ไกล ตัวเขาสั่นเทาเล็กน้อย

รูปร่างลักษณะนั้น ท่าทางการเดินเช่นนั้นเหมือนนรมน

เป๊ะ!

เขาเดินไปเดินไม่รู้ตัว เพื่อที่จะเข้าไปใกล้

พฤกษ์เองก็ช็อก เขาไม่เคยเห็นบุริศร์เริ่มเข้าหาผู้หญิง คนไหนก่อนมาก่อน โดยเฉพาะตั้งแต่หลังจากอุบัติเหตุ ของภรรยาเขาเมื่อห้าปีก่อน เขากลายเป็นเหมือน ภูเขาน้ำแข็ง ผู้คนอดไม่ได้ที่จะถอยหนี ความคิดที่จะเป็น ฝ่ายเริ่มปฏิสัมพันธ์ของเขาเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เขามองไปที่นรมนอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวและรู้สึกประหลาด ใจที่ได้เห็นเธอ

ใบหน้าที่น่าอัศจรรย์นั้นสมบูรณ์แบบที่สุด งดงาม ราวกับถูกศิลปินเลื่องชื่อแกะสลักออกมา ไม่มาก ไม่น้อย เกินไป

คนที่ตกใจเช่นกันก็คือบุริศร์

แต่ว่าบุริศร์กลับตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วเล็ก น้อย ฝ่าเท้าลดถอยหลังโดยไม่รู้ตัวและพูดอย่างเย็นชา “เดินระวังหน่อยสิ”

นรมนยิ้มเยาะในใจ
ใบหน้าของเธอวันนี้กับเมื่อคงก่อนคงแตกต่างกันโดย สิ้นเชิง

เธอยังคงจำความรู้สึกที่ไฟไหม้บนผิวของเธอได้ว่าเจ็บ ปวดทรมานมากเพียงใด แต่เพื่อที่จะรักษาลูกในท้องเอา ไว้ เธออดทนกับความทุกข์ทรมานอยู่นานเก้าเดือน หลัง จากคลอดลูกแล้วจึงได้ทำศัลยกรรม

ทุกคืนที่หลับฝัน เธอจะตกใจตื่นจากฝันร้าย หมอน เปียกชื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ผู้ที่กระทำผิดอยู่ตรงหน้า เธอ เธออดไม่ได้ที่จะยกฝ่ามือขึ้นมา อยากจะฉีกหน้า เขา เกลียดจนอยากจะกระชากหัวใจเขาออกมาดู ให้รู้ ว่าหัวใจของเขาเป็นสีอะไร อยากถามเขาสักคำ ว่าเขามี หัวใจไหม

ในมือนรมนถือลูกอมที่กานต์ยังทานไม่หมดอยู่ ขณะที่ ชนกับบุริศร์นั้น อมยิ้มก็เปื้อนไปที่ชุดสูทของเขาด้วย

เธอยิ้มและพูดว่า “ขอโทษ เมื่อครู่ฉันไม่เห็นจริงๆ ชุด สูทของคุณสกปรกแล้ว ฉันจะจ่ายค่าเสียหายให้คุณก็ แล้วกัน มีเบอร์โทรศัพท์ใช่ไหม ไว้ฉันซื้อให้ใหม่แล้วให้ คนส่งไปให้คุณ”

เสียงของนรมนต่ำและแหบแห้ง

นัยน์ดาเจ้าเล่ห์ของบริศน์ฉายแววผิดหวัง

ไม่ใช่เธอ!

ไม่เพียงใบหน้าไม่ใช่ แต่ว่าเสียงก็ยังไม่ใช่
เขาจำได้ว่าเสียงนรมนนั้นนุ่มนวลแผ่วเบาเหมือนกับ เสียงของนกโอริโอล(คล้ายนกขมิ้น) แต่ผู้หญิงตรงหน้า คนนี้ถึงแม้จะสวย แต่เสียงของเธอกลับแหบและต่ำ สำหรับคนอื่นเสียงเช่นนี้อาจจะน่าดึงดูด แต่สำหรับเขา แล้วกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเลย

ใบหน้าของบุริศร์กลับมาเย็นชาตามเดิม

“ไม่ต้อง แค่สูทตัวเดียว”

พูดจบ เขาก็ถอดสูทของเขาออก และทิ้งลงในถังขยะ ต่อหน้านรมน เขาทำท่าทางเหมือนกำลังทิ้งขยะที่น่า ขยะแขยงอย่างนั้น

มุมปากของนรมนยกขึ้นเล็กน้อย

ในสายตาบุริศร์ เธออาจจะชื่นชมเขา คงคิดว่าผู้หญิงคง หาทางอ่อยเขาอยู่หล่ะสิ

นรมนยิ้มให้เงาหลังเขาด้วยความเยาะเย้ย ไม่รู้จริงๆว่า เมื่อเขาได้ทราบเธอคือสถาปนิกที่เขากำลังจะพบเขาจะ ทำหน้าอย่างไร

บุริศร์หัวเสียเล็กน้อย แต่หงุดหงิดเรื่องอะไรนั้น เขาก็ยัง ไม่ชัดเจนกับตัวเองนัก

ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่นรมนชัดๆ แต่ทำไมตัวเองกลับรู้สึก คุ้นเคยกับเธอ

ไม่!
ไม่ใช่เธอ!

หากนรมนรู้ว่าเขาพยายามเข้าหาเธอล่ะก็ เธอจะต้อง ดีอกดีใจมากเป็นอย่างแน่ เขารู้ว่านรมนรู้สึกกับเขาเช่น ไร แต่ว่าสายตาของผู้หญิงเมื่อสักครู่กลับไม่ได้มีอารมณ์ ความรู้สึกใดๆเลย

ดวงตาทั้งคู่ของเธอ เหมือนกับนรมนมาก!

บุริศร์หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน พฤกษ์ไม่ทันได้สังเกต เลย ชนที่ด้านหลังบุริศร์เข้า

“ประธานบริศร์ ขอโทษครับ”

พฤกษ์เองก็รู้สึกเจ็บจมูกเขาจึงถอยหลังออกมาสองก้าว ในทันที เขาถึงได้พบว่าสายตาของบุริศร์จับจ้องอยู่ที่นร มนตลอดเวลา

นรมนและบริศร์พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งเธอก็แยกไปเข้า ห้องน้ำ ท่วงท่าและวิธีการเดินนั้นทำให้บุริศร์พิศวงอีก ครั้งหนึ่ง

“ประธานบุริศร์ คุณสนใจผู้หญิงคนนั้นหรือครับ”

บุริศร์เหลียวหันไปมองพฤกษ์ พฤกษ์รีบหุบปากตัวเอง

“ผมไปเข้าห้องน้ำหน่อย”

บุริศร์ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหงุดหงิดแทบเป็นบ้า เขา หันหลังกลับ และเดินตรงไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
น้อยนักที่พฤกษ์จะเห็นบุรีศร์เป็นเช่นนี้ เขาจึงไม่กล้าที่ จะตามไป ได้แต่รออยู่ที่ด้านนอก

บุริศร์เดินไปเข้าห้องน้ำ เขาเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าตัวเอง พยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามี ใครบางคนกำลังดึงเสื้อของเขา

บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันหน้าไปมอง เด็กชายตัว น้อยวัยสี่ห้าขวบกำลังจ้องมองเขาอยู่ มือขวาของเด็ก น้อยกำลังดึงชายเสื้อของเขาอยู่ เหมือนกับว่าต้องการ พูดอะไรสักอย่าง

“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”

บุริศน์จ้องมองอย่างเยือกเย็น ลมหายใจที่พ่นออกมา ทำให้คนอยากจะหลบหนี แต่เด็กชายตัวน้อยตรงหน้า กลับไม่ไหวติง

ดวงตาทั้งคู่ของเด็กน้อยทำให้เขารู้สึกเหมือนเคยเห็น

มาก่อน

“คุณลุง ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ”

กานต์มองตรงไปที่บุริศร์ เมื่อถูกจ้องมองด้วยแววตาที่ กระตือรือร้นอย่างนั้นบุริศร์ก็ใจอ่อน

“ผู้ใหญ่บ้านเธอไปไหนล่ะ”

“มามีผมเข้าห้องนํ้าผู้ขายไม่ได้!
กานต์ทำปากจู่ หน้าของเขาเอียงอายเล็กน้อย

บริศ มองดูเด็กน้อยที่เหมือนตุ๊กตาตัวเล็ก เขาถอน หายใจออกมาและพูดขึ้นว่า “จะให้ช่วยอะไรล่ะ

“ซิปกางเกงของผมติด แต่ว่าผมต้องรีบแล้ว คุณลุงครับ ช่วยดึงรูดซิปกางเกงลงให้ผมทีได้ไหมครับ”

ขณะที่ถาม สองขาของเขาก็กระโดดไปมา ดูเหมือนว่าใกล้จะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ