ตอนที่ 2 เลิกชอบมันไม่ง่าย 3
บ้าน่า! ตอนอากลับมาจากต่างประเทศช่วงอายุ 23 ตอนนั้น อาโคตรพ่อโคตรแม่หล่อ ก็คงต้องเคยมีแฟนมาก่อนบ้างแหละ ไม่มีทางที่รอดเงื้อมมือมารยาหญิงแน่นอน
“จริงด้วย น้องพูดถูก คนที่มีอะไรกันต้องเสียงดังอยู่แล้ว จริง ไหมคะ ”
อาติมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้ตอบอะไรยกเว้นเสียแต่ว่าสายตา ล่อ กแลกนั้น มันดูแปลกๆ
“แฮ่ม…เรื่องพวกนี้เด็กอย่างเธอไม่ต้องรู้หรอก”
“ใครว่าหนูเด็ก หนูอายุ 21 แล้วนะ ร่างกายหนูโตทุกอย่าง เลยนะคะอา” ฉันใช้มือลูบท่อนแขนแกร่งของเขาช้าๆ “อาอยาก รู้ไหมล่ะ…ว่าอะไรโดบ้าง…
“เจียวเจียว!!”
แกล้ง…” ฉันกะพริบตาปริบๆ พลางใช้มือบางตบหน้าอกอา ” เบาๆ และยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา “แค่แกล้ง ไม่มีอะไรค่ะ
ดูสายตาสิ ทำไมต้องมองด้วยแววตากรุ่นโกรธขนาดนั้น ฉันก็ แค่แกล้งเล่นเฉยๆ
“พืชว่า พืชขอตัวเข้าห้องก่อนดีกว่า” ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้น ท่าท่าทางแอบอมยิ้มเหมือนกำลังนั่งมองเรื่องตลกอย่างนั้นแหละ
“เดี๋ยวค่ะ”
“ว่าไงคะ”
“คุณเป็นใคร อย่าบอกว่าเป็นแฟนอาตินะ ฉันไม่เชื่อหรอก ฉันลุกขึ้นกอดอกเชิดหน้ามองผู้หญิงคนนั้นอย่างหาเรื่อง
“เปล่า ฉันเป็นเพื่อนของจะ
“เพื่อน? ทำไมไม่เคยเห็นหน้า
“ฉันเป็นเพื่อนติตอนเรียนไฮสคูลที่อังกฤษนะ เธอก็คงไม่เคย เห็นอยู่แล้ว”
โฮ เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียน รู้จักมานานกว่าฉันอีก สวยก็สวย ผิว ก็ขาว ตาโต ปากก็เล็ก คงไม่ใช่แฟนเก่าหรอกไซไหม
แฟนเก่าแล้วไง เพราะฉันคือคนปัจจุบันต่างหาก
“แล้ว…แล้วทำไมต้องมาค้างที่คอนโดอาติด้วยคะ”
“ก็ฉันไม่รู้นี่นาว่าจะไปไหน ก็เลยมาอยู่กับที่นี่ดีกว่า”
“แต่ผู้หญิงกับผู้ชายไม่ควรอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสองคน อื่นจะมองไม่ดี”
“แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันไม่สนเรื่องพวกนั้นหรอก อีก อย่างเราไม่ได้นอนด้วยกันสักหน่อย ห้องก็แยกกัน ดิเองก็คงไม่ สินเหมือนกัน ใช่ไหม”
ชาติจะสมหรือไม่สน ฉันไม่รู้ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ยอม!!
“ยังไงหนูก็ไม่ยอม! ”
“อย่ามางอแง” อาติส่งเสียงเข้มเป็นการตำหนิอย่างเห็นได้ชัด “อาว่าหนูทำไม! ผู้หญิงผู้ชายไม่ควรอยู่ในห้องสองต่อสอง
จริงๆ นี่นา! ”
“กลับไปที่ห้องได้แล้ว”
“ไม่เอา!! ” ฉันรีบนั่งลงแล้วกอดแขนเขาไว้แน่นคล้ายเป็นหมี โคอาล่าที่จะไม่มีทางเสียสละต้นไม้ต้นนี้ไปเป็นอันขาด
ยังไงก็ไม่มีทางไป!!
“ถ้าเธออยู่ได้ หนูเองก็อยู่ได้เหมือนกัน”
“ไม่ต้องมองหนูด้วยหางตาหรอกค่ะ ยังไงหนูก็จะไม่ยอมให้
อาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ในห้องสองต่อสองเด็ดขาด!!
“งั้น ไปนอนด้วยกันเลยดีไหม”
นี่…นี่เธอชวนฉันไปนอนด้วยงั้นเหรอ ถ้าฉันมานอนที่นี่ ก็จะได้ ขัดขวางการไปมาหาสู่ของสองคนนี้ได้
“ไปสิ!! ” คิดว่ากลัวหรือไง อาเจียวคนนี้ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว
23.20 น
ตอนนี้ฉันนอนหงายอยู่บนเตียง ข้างๆ คือผู้หญิงหน้าสวยคน นั้น ระหว่างกลางถูกกั้นด้วยหมอนข้างอันยาว สายตาจ้องมองเพดานที่มืดสนิท ฝ่ามือประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องด้วยความ
เกร็ง
“น้อง ออะไรเหรอคะ”
“ชื่ออาเจียว” จะตอบแบบไม่มีหางเสียงก็คงจะดูไม่ดี ค่ะ
“เจียวเจียว? ”
“ห้ามเรียกชื่อนั้นเด็ดขาด! หนูให้อาติเรียกได้คนเดียว! ”
“อ่อ….แล้วอาเจียวกับที่รู้จักกันมานานหรือยังคะ”
“รู้จักกันตั้งแต่ตอนหนู 7 ขวบ รู้จักผ่านอาจค่ะ”
“แล้วชอบติตั้งแต่ตอนไหนเหรอ”
“ชอบตอนที่อาติกลับมาที่ไทย ตอนนั้นอาจพาหนูไปเที่ยว พร้อมกับอาติ เราก็ได้เจอกัน เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนมาก ช่วย เช็ดปากที่เปื้อนไอศกรีมให้หนู คุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าตอนนั้นเขา มีแสงสว่างเจิดจ้ามากจนหนูไม่สามารถมองใครได้อีกเลย เขา คือรักแรกของหนูแล้วจะเป็นรักเดียวด้วย”
“แล้วช่วงท้กลับไปเรียนต่อล่ะ น้องทำยังไง
“หนูก็บินไปอยู่ด้วย อาทิตย์ละสองวันก็กลับ
“แล้วไปนอนที่ไหนคะ ในเมื่อตินอนกับจี”
“หนูก็นอนห้องอาจนั้นแหละ เพียงแต่นอนเตียงอาติเท่านั้น
เอง
“ดูท่า น้องจะชอบมากเลยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ หนูชอบอามาก ตามจีบมาตั้ง 10 ปี ไม่มีใครมี ความอดทนได้เท่าหนูอีกแล้วค่ะ”
“อาเจียวเป็นผู้หญิงสวยมากนะ ทำไมถึงไม่ลองมองหาคนอื่น ดูบ้าง แบบลองคบใครอะไรแบบนี้”
“ก็เพราะหนูรักอาคนเดียว” ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบนะ แต่ก็ ยังไม่เจอคนที่สามารถทำให้ฉันไขว้เขวความรู้สึกได้เท่าเขาเลย สักคน ก็เลยกลายเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบัน
“แต่เขาดูไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเลยนะ ตอนเรียนมหาลัยมีคน เข้าหาเขาเยอะมาก แต่ก็โดนปฏิเสธไปหมด พี่เคยถามว่าเป็น เพราะอะไร เขาบอกว่าไม่อยากมีภาระ”
“แสดงว่าอาติไม่เคยคบใครเลยเหรอคะ” ฉันหันไปมองผู้หญิง ข้างๆ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“คือ…เท่าที่ดูก็ไม่เห็นนะ แต่เขาเคยเก็บจดหมายรักของใคร ไว้ก็ไม่รู้ ตั้ง 20 ฉบับ เก็บไว้อย่างดีในกล่องเก่าๆ แล้วก็มีพวก แหวนพลาสติก เหมือนพวกของเด็กเล่น
“ว่าไงนะ!! ” ประโยคบอกเล่าของผู้หญิงข้างกายทำให้ฉันเด้ง ตัวขึ้นมานั่งโดยอัตโนมัติก่อนจะลุกลงจากเตียงไปเปิดไฟ “เมื่อกี้ พี่บอกว่า เขาเก็บจดหมายรักของใครก็ไม่รู้เหรอ!! ”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า” มีสิ มีผลต่อใจมากด้วย
มีคนที่ชอบแล้วเหรอคะ…” ฉันพูดเสียงอ่อนพลางหลุบ เขา “สายตาลงมองพื้น ที่น่าเศร้าก็ตรงที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ว่าอามีคน ที่ชอบอยู่แล้ว และดูเหมือนจะมีมานานแล้วด้วย
“แสดงว่าคนที่เขาชอบ คงส่งจดหมายเพื่อให้เก็บไว้ดูต่างหน้า จากนั้นก็กลายเป็นความคิดถึงเพราะต้องอยู่ไกลกัน คนที่เขา ชอบ คงไม่ได้เป็นสาวผมทองหรอกมั้ง…หาย!! ”
ฉันขี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด ก็แหง เคยคิดว่าเขาเป็น เกย์ด้วยซ้ำ เพราะเขาแทบไม่สนใจฉัน ที่คอยตามซื้อทุกวี่ทุกวัน อุตส่าห์หวังคิดว่า ต่อไปนานๆ เดี๋ยวอาก็คงใจอ่อนเอง ที่ไหน ได้…..
“อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้นะ พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ตอนนี้มีความรู้สึกว่าสมองว่างเปล่ามาก หายใจติดขัด คล้าย แสบร้อนในโพรงจมูก หัวใจเหมือนถูกดึงกระชากออกไปแล้ว ทําให้ใกล้จะหมดลม…
“เอ่อ…น้องอาเจียว จะไปไหน”
หูของฉันอื้ออึงไปหมดแล้ว ไม่ได้ยินเสียงรอบข้างนอกจาก เสียงหัวใจแตกสลาย เดินออกไปจากห้องอย่างเหม่อลอย โดย ไม่ได้สนใจผู้ชายที่ฉันเพิ่งเดินผ่านไปเมื่อสักนิดเดียว
ทุกอย่างมันเคลื่อนที่ไปเองโดยธรรมชาติของผู้หญิงที่กำลัง
อกหัก
ฉันเดินกลับเข้ามาในห้องจากนั้นก็ยืนเอาหลังพึงประตูไว้ก่อน จะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
เขามีคนที่ชอบแล้ว…จีบยังไงก็คงหมดหวังแล้ว” ถ้าเขายัง ไม่มีใครในใจมันก็คงจะง่าย แต่พอเขามีคนในใจแล้ว ทุกอย่าง ระหว่างเรามันเลยดูมีความเป็นไปไม่ได้ไปเลย…..
ฝั่งห้องติสรณ์) (
ชายหนุ่มทั้งสายตาที่มองแผ่นหลังหญิงสาวร่างบางที่เพิ่งเดิน ออกไป กลับมามองพืชที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องนอน
“เกิดอะไรขึ้น” เขาเอ่ยถามขึ้นแต่เพราะเธอใส่ชุดนอนที่บาง มากจนเขาต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“คือ….เมื่อกี้เราคุยกับน้องเรื่องนั่นแหละ…แต่น้องเขาดูเศร้า มากเลย”
“คุยอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ก็เล่าเรื่องมหาลัย เราบอกว่ามีผู้หญิงมาจีบเยอะแยะแต่ก็ ปฏิเสธไปหมด แล้ว ก็เรื่องที่เราไปเจอจดหมายรักกับแหวนใน กล่องด้วย…น้องก็เลยเข้าใจว่ามีคนที่ชอบแล้ว…เราพูดผิดไป มั้ง” ชายหนุ่มมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้แสดงอาการว่ากำลังคิดอะไร หรือกำลังรู้สึกอะไร ทําให้เธอดูไม่ออก
เขานิ่งไปสักพักก็ตอบกลับเสียงเย็นชา
“ช่างเถอะ” พูดจบก็เดินเข้าห้องนอนของตัวเอง โดยปล่อยให้ หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับคำถามในหัวมากมาย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ