รักมากเปรียบเสมือนดั่งไร้รัก

ตอนที่ 2 ยาป้องกันบุตร



ตอนที่ 2 ยาป้องกันบุตร

เหตุใดวันนี้เจ้าจึงมีท่าทีที่ผิดปกติเช่นนี้ เจ้ากำลังหึง ข้าอยู่หรือไร? ลู่เซียวขำขันออกมาเบาๆ จากนั้นจึง พลิกตัวนอนลงบนเตียงอย่างคุ้นเคย

ส่งผลให้ข้าตื่นตระหนกจนล่าถอยไปหนึ่งก้าว “ พระองค์จะทำอันใดเพคะ? วันนี้เป็นพิธีอภิเษกสมรส ของพระองค์ พระองค์ไม่ไป….อื้อ…”

นางยังมิทันเอ่ยจบ พลันริมฝีปากของนางก็ถูกริม ฝีปากบางของเขาสกัดกั้นไว้ คำพูดที่เหลือถูกกลืนหาย กลับลงไปในท้องจนหมดสิ้น

ริมฝีปากและรวงลิ้นสอดประสานกัน อีกทั้งอาภรณ์ ของทั้งสองก็ถูกถอดออกไปจนหมดสิ้น ช่วงเวลาที่เขา ทะยานเข้ามา ข้าขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างมิรู้สึกตัว

“ ข้าทำให้เจ้าเจ็บหรือ?” ลู่เซียวนอนอยู่บนตัวของข้า พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

ข้าส่ายหัวไปมา แต่ทว่าเพราะประโยคนี้ของเขา ทำให้ข้ามีความรู้สึกอยากจะร่ำไห้ ข้ารู้สึกว่าตนเองนั้น เสแสร้งและแกล้งทำ เกรงว่าเขาจักเคลือบแคลงสงสัย จึงหลับตาลงพร้อมกับกระชับสองขาโอบไว้กับรอบเอว ของเขา

การเคลื่อนไหวของลู่เซียวนั้นบ้าระห่ำยิ่งนัก ราวกับ อยากจะทำให้ลำตัวของข้านั้นทะลุเสีย ข้าพยายามอย่างสุดกำลังที่จะรองรับการกระทำของเขา

จนกระทั่งเปลวเทียนมอดดับลง ไฟราคะนี้ก็ได้ผ่าน พ้นไป

“ช่วงนี้อากาศเหน็บหนาว เจ้าอย่าลืมห่มผ้าให้แน่น หนา” ลู่เซียวจุมพิตเบาๆที่หน้าผากของข้า จากนั้นก็ พลิกตัวพลางก้าวลงจากเตียง

แต่ไหนแต่ไรมา เขาไม่เคยค้างคืนกับข้าที่นี่ มิผิดดอก มิเคยเลยแม้แต่หนเดียว

มีขุนนางนายหนึ่งเข้ามาผลัดอาภรณ์ให้แก่ลู่เซียว จากนั้น ผู่เชว่จึงจัดชามซุปสีดำ ก่อนจะยกมาให้นางที่ ด้านหน้าของเตียงนอน

ยาป้องกันบุตร

มิรู้ว่าวันนี้หัวสมองส่วนใดของตนที่มีความรู้สึก ผิดแผกไป ข้ายืดตัวลุกขึ้นนั่ง มือข้างหนึ่งยันไว้กับเตียง นอน ส่วนมืออีกข้างยื่นมาปกปิดทรวงอกของตนไว้ จาก นั้นจึงเปล่งวาจากับเขาด้วยน้ำเสียงที่ชวนขนพอง “ พระราชาเพคะ วันนี้หม่อมฉันมิค่อยสบาย หม่อมฉันไม่ อยากดื่ม…”

น่าเสียดายที่วาจาของข้ายังมิทันเอ่ยจบ ก็ถูกลู่เซียว ใช้สายตาห้ามปรามมิให้เอ่ยออกมา

ข้าจึงทำได้เพียงยกถ้วยยาป้องกันบุตรขึ้นดื่มจนหมดสิ้นแต่โดยดี

เขาจักปล่อยให้สนมคนใดในวังแห่งนี้มีบุตรให้เขาก็ ย่อมได้ เว้นเสียแต่ข้าเพียงผู้เดียว…

เหตุเพราะรูปโฉมของข้า มิคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลี ผู้ที่ตายไปแล้ว

ลู่เซียวมิได้หันกลับมามองข้าอีก เค้าทำเพียงรับสั่งกับ ฝูเชว่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ดูแลหลีเฟยให้ดี” ก่อนจะ วางมาดขรึมเดินจากไป

แผ่นหลังที่ไร้เยื่อใยของเขา ทำให้ข้ารู้สึกราวกับว่า ผู้ ที่ปฏิบัติต่อข้าอย่างอบอุ่นและรักใคร่สุดซึ้งเมื่อครู่ มิใช่ เขา

พลันตำหนักจาวเหอที่กว้างขวาง ก็เงียบสงัดลง อีกครา ฝูเชว่โน้มตัวลงเพื่อช่วยข้าจัดผ้าปูที่นอนให้ เรียบร้อย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ของนางหยุดชะงักลง “พระสนมเอกรีบพักผ่อนเถิด เพคะ เพลานี้ก็ดึกมากแล้ว”

ข้าโบกมือเป็นสัญญาณให้นางกลับออกไป แล้วจึงพิง ไปกับหัวเตียงอย่างใจลอย

ข้าเข้ามาอยู่ในวังเป็นเวลาเจ็ดปี และเหตุเพราะข้า เป็นผู้เดียวที่มีรูปโฉมมิคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลี ใน เวลาเจ็ดปีนี้ ลู่เซียวจึงปฏิบัติต่อข้าราวกับหนึ่งวัน ด้วย เหตุนี้ ข้าจึงคิดว่าสนมทุกนางในวังแห่งนี้ล้วนเป็นตัวแทนขององค์หญิงหลีทั้งสิ้น ถ้าหากวันหนึ่งลู่เซียว หมดความสนใจในตัวพวกนาง พวกนางก็คงจะถูกนํา ตัวไปขังไว้ที่ตำหนักเหลิ่งกง แต่ทว่าข้ากลับมิเคยคิด มาก่อนว่า ในสายตาของลู่เซียว แม้แต่ตัวแทนขององค์ หญิงหลีข้าก็มิได้เป็นด้วยซ้ำ

ทุกคนล้วนรู้ว่าตำหนักจาวเหอมีอายุเก่าแก่ที่สุด แต่ แท้จริงแล้ว พวกเขาก็รู้ว่า ตำหนักจาวเหอคือตำหนักเห สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในวังแห่งนี้

แต่ไหนแต่ไรมา ข้ามิเคยได้รับความโปรดปราน ดัง นั้นข้าจึงมิเคยถูกทอดทิ้งเช่นกัน

และเหตุเพราะข้ามิเคยถูกทอดทิ้ง ข้าจึงกลายเป็น ศัตรูรของสนมทุกนางในวังแห่งนี้

ข้ามิคิดว่าฮองเฮาองค์ใหม่จะหาตัวข้าพบแต่รวดเร็ว ถึงเพียงนี้ เพลานั้น ข้ากำลังเดินย่ำหิมะเฟ้นหาดอกเหม ยในสวนเหมย เพื่อนำมาตากแห้งและทำถุงหอมวางไว้ที่ ข้างหมอน แต่ทว่า ฮองเฮาหลินหลิ่วเอ๋อแห่งแคว้นตงหลี ที่เพิ่งจะถูกขุนนางหาบเกี้ยวเขามาที่วังเมื่อวานนี้ กลับ นำคนรับใช้มาล้อมรอบนางไว้ทุกด้าน

ข้าอยากจะหลีกหนีก็หนีมิพ้น จึงทำได้เพียงคุกเข่า ลงครึ่งหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อนาง “ถวายบังคม เพคะพระฮองเฮา”

หลินหลิ่วเอ๋อองอาจผึ่งผาย นางมิได้เห็นข้าอยู่ใน สายตาเลยแม้แต่น้อย “ เจ้าน่ะหรือคือซูชิงหลีแห่งตำหนักจาวเหอ? เหตุใดเจ้าพบข้าแล้วจึงไม่หมอบ กราบ?”

แต่ไหนแต่ไรมา ฝูเชว่ก็มิถูกชะตากับผู้ที่ชอบรังแกผู้ อื่นเช่นนี้ “ พระนางสนมเอกของพวกเขาน้อยมีโรคปวด ขาเรื้อรังเพคะ พระราชารับสั่งเป็นกรณีพิเศษว่านางมี จำเป็นจะต้อง…..

นางยังมิทันเอ่ยจบ ก็มีเสียง “เพี้ย” หนึ่งเสียงดังขึ้น “ มิเจียมตัว! เจ้านายกำลังพูดคุยกัน ทาสเยี่ยงเจ้ากล้าดี อย่างไรมาเอ่ยสอดแทรก?”

เป็นเสียงของนางสนมที่อยู่ข้างกายของหลินหลิ่วเอ๋อ

ทันทีหลังจากนั้น ข้าก็เงื้อมฝ่ามือขึ้นพลางตบเข้าที่ ใบหน้าของนางโดยมิต้องคิด แล้วจึงเอ่ยประโยคที่นาง พูดเมื่อครู่ย้อนคืนไปให้นาง “เจ้าก็มิใช่ทาสเช่นกันหรือ? ที่นี่มีพื้นที่ให้เจ้าเอ่ยสอดแทรกที่ใดกัน? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ