ตอนที่ 2 ทั้งร่างกายของเธอมีส่วนไหน ที่ฉันยังไม่เคยเห็นอีก
ตอนที่ 2 ทั้งร่างกายของเธอมีส่วนไหนที่ฉันยังไม่เคยเห็นอีก
วันต่อมา แสงแดดสว่างสดใส แต่ว่าภายในใจของฉัน หลิน กลับไม่สดใสเลย
ตอนที่ฉินหลิน หอบกระเป๋าออกจาก ตระกูลฉิน ในใจก็ ยังคงเศร้าโศก ที่นี่คือสถานที่ที่หล่อนเติบโตมาตั้งแต่เด็ก สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำ ทั้งทุกข์ ทั้งสุข ทั้งดีใจ หรือเสียใจ
จากห้องจนมาถึงประตู ทำให้หล่อนเริ่มคิดถึงเรื่องราวที่ เคยเกิดขึ้น การจากไปคราวนี้ ทำให้ภายในใจของหล่อนเศร้า จนอธิบายเป็นความรู้สึกไม่ถูก
“ฉินหลิน ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ถ้าแกกล้าก้าวขาออก ไปจากประตูนี้ นับจากวันนี้แกไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลฉิน อีก ต่อไป สมบัติมรดกที่ให้ไปจะถูกเอากลับคืนทั้งหมด แกคิดให้ ดีก็แล้วกัน!”
คำพูดของพ่อราวกับยังคงก้องอยู่ในหูของหล่อน ฉัน หลินพยายามที่จะไม่นึกถึง ไม่ใส่ใจมันอีก
แต่ว่าจะไม่ให้ใส่ใจได้ยังไงล่ะ?
หล่อนลืมไม่ลง ตอนที่หล่อนต้องจำใจไปอยู่กับผู้ชายบาร์ โฮสนั่น แม่ยิ้มอย่างเยือกเย็น เสแสร้งทำเป็นรั้งหล่อนไว้
แม่ ฉันทำอะไรให้แม่เกลียด แม่ถึงอยากไล่ให้ฉันออกไป จากบ้านขนาดนี้?
ฉินหลิน ไม่รู้แล้วว่า ในเวลานี้หล่อนควรจะต้องทำ อย่างไร ถึงแม้ว่าจะสกุลฉันเหมือนกัน แต่ว่าตั้งแต่เด็กจนโต หล่อนต้องคอยประจบแม่และน้องสาวด้วยความอึดอัดมา ตลอด ถึงขนาดที่ว่าบางครั้งเห็นแม่กับ หลันซู อยู่ด้วยกัน หล่อนไม่กล้าแม้แต่ที่จะเข้าไปรบกวน ราวกับตัวเองเป็น คนนอก ฉินหลินเหมือนมีสถานะเป็นแค่คนคอยเฝ้าดูคน ภายในบ้านอย่างห่างๆ
ในฉากๆนั้น ไม่ว่าหล่อนจะพยายามมากเพียงใด ก็ไม่ สามารถเข้าไปร่วมอยู่ในฉากได้เลย
ฉินหลิน เกิดความสับสนขึ้นมากมาย หล่อนเป็นลูกของ แม่จริงๆ ใช่ไหม?
หล่อนสะบัดหัวไปมา พยายามที่จะไม่ให้ตัวเองคิดไปเรื่อง พวกนี้ฉินหลิน หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาโม่อว: “ฉันออกมา แล้ว นายไปรอฉันที่สำนักงานเขตเลย
บริเวณข้างนอกของสำนักงานเขต ไม่อและฉินอีหลิน ทั้งสองกำลังก้มหน้าลงมองใบทะเบียนสมรสที่เพิ่งจะได้มาสดๆร้อนๆ
จู่ๆฉินหลินก็นึกถึงตอนที่ถ่ายรูปคู่กัน ช่างถ่ายภาพ เอาแต่พูดว่าให้สองคนทําท่าทางสนิทกัน ให้เป็นธรรมชาติ ตลอดเวลา
หล่อนยังจำตอนที่ไม่อจับหล่อนเข้าไปกอดในอ้อมแขน ร่างกายแข็งทื่อ หล่อนสาบานเลยว่า เวลานั้นแม้ว่าหล่อนมอง ไม่เห็นว่าเขาแสดงสีหน้าอย่างไร แต่หล่อนได้ยินเสียงเขาหัว เราะเบาๆอย่างแน่นอน
ฉินหลินไออะแฮ่มๆสองสามที่เพื่อปกปิดความรู้สึกอึดอัด เขินอายของตัวเอง หลังจากนั้นก็เอาใบทะเบียนสมรสของตัว เองใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วก็หยิบบัตรธนาคารขึ้นมา พร้อมพูด ด้วยน้ำเสียงปกติ: “ในนี้มีอีกสองแสนห้าหมื่น หลังจากที่พวก เราหย่ากันแล้วฉันจะค่อยให้นาย
โม่อ พอเห็นผู้หญิงด้านหน้าหยิบบัตรธนาคารชูขึ้นมาก็ อึ้งไปสักพัก
แต่ไหนแต่ไร เป็นเขาที่ให้เงินผู้หญิง แต่นี่กลับเป็นผู้หญิง ที่เอาเงินมาให้เขาแทน
ตรรกะนี้ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว ในขณะที่กำลังจะพูดอะไร จู่ๆก็คิดขึ้นมาได้ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คิดว่าตัวเองเป็น บาร์โฮสไปแล้ว เรื่องแต่งงานระหว่างเราสองคนก็เป็นแค่เกม เป็นแค่ธุรกิจ
ค่าตอบแทนที่ฉินหลิน ให้ตัวเอง ก็สมน้ำสมเนื้อ
โมอวีชายตามองบัตรธนาคารนั้น ครั้งแรกที่รับเงินจาก ผู้หญิง มันเป็นความรู้ที่แปลกจริงๆ เขายื่นมือไปรับด้วยความ ฝุ่นและเกร็ง ในขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าสัมภาระที่ ด้านหลังของฉินหลิน
โมอก็ยกคิ้วถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “นี่คือของที่คุณ เตรียมมาฮันนีมูนกับผม?”
“ไม่ใช่…คำพูดของโม่อวี่ทำให้หน้าของฉันอีหลินแดง ขึ้น แต่พอคิดแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ถูกจริงๆ ตัวเองหอบข้าวของ มาแท้ๆ จะให้คนคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง
เพื่อที่จะไม่ให้โม่อเข้าใจผิด ฉินหลินก็พูดขึ้นอย่าง ตะกุกตะกัก “เอ่อ เพราะว่าเรื่องแต่งงานนี้ ก็เลยถูกพ่อไล่ออก มาจากบ้าน
พอฉินหลินพูดจบก็นึกถึงรอยยิ้มเยือกเย็นของแม่และ ท่าทาง โกรธของพ่อตอนอยู่ที่ตระกูลฉิน
“อย่าบอกนะว่าคุณติดใจผมตั้งแต่คืนนั้น?”
ลีโม่อปียกสองมือกอดอก สายตากวาดมองใบหน้าของ
ฉินหลิน: “แล้วถ้าไม่ใช่ผมจะไม่แต่งงานด้วย
ถึงแม้ว่าใบหน้าของโม่อจะดูเหมือนอยากรู้ แต่ในใจ กลับแอบคิดว่า ถูกไล่ออกมาเหรอเนี่ย?
นั่นแสดงว่าตระกูลฉินไม่ให้สมบัติและมรดกหล่อนอีกต่อไปแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ไม่อวี่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเดาว่าบัตร ธนาคารที่หล่อนให้กับตัวเองก่อนหน้านี้เป็นเงินทั้งหมดของ หล่อนที่มีอยู่แล้ว
ผู้หญิงคนนี้ถูกไล่ออกมาก็มีเงินเหลือใช้อยู่ที่ตัวไม่เยอะ แล้วยังเอาเงินทั้งหมดมาใช้แบบนี้อีก อย่างกับลูกแกะตัว น้อยๆจริง
“ตามผมมาสิ”
โม่อเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสัมภาระ แต่ก็พบว่าผู้หญิง ที่อยู่ตรงหน้ายังคงเหม่อลอยไม่มีทีท่าจะขยับตัว คิ้วขมวดเล็ก น้อย อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นอะไร? ยังกลัวโดนผมกินอีกอย่างนั้นเหรอ? ทั้งตัว คุณตั้งแต่หัวจรดเท้ายังมีที่ไหนที่ผมไม่เห็นอีกเหรอ ทำก็ทำแล้ว ยังต้องกังวลอะไรอีก
ลีโม่อโค้งเอวลงมาสบตากับ ฉินหลิน คำพูดนั้นทำให้ ฉันอีหลินเรียกสติกลับมา หล่อนหายใจไม่ค่อยสะดวกชั่วขณะ หนึ่ง
ฉันอีหลินที่หน้าแดงเบี่ยงหน้าไปทางอื่น แล้วก็นึกได้ว่าตัว เองถูกระงับบัตรเครดิตอยู่ หล่อนใช้ได้แค่เพียงเงินสองแสนห้า หมื่นที่ให้โม่อไปแล้ว ที่ตัวตอนนี้เหลือแค่เพียงพันกว่าหยวน เท่านั้น พอคิดไปคิดมา ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของโม่อ
ฉินหลินเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าอย่างจริงจัง พอคิดถึงที่ของลีโอแล้ว หล่อนพูดขึ้นว่า “ฉันจะอยู่ หรอก เรื่องงานบ้านฉันจัดการให้เอง ถือซะค่า เช่าบ้านก็แล้วกัน
พออีหลินและโม่อมาถึงอพาร์ทเม้นท์เดี่ยวเก่าหลัง หนึ่ง หล่อนก็สัมผัสว่าอารมณ์ความของคนข้างเปลี่ยน ไป
“เอ้ย เธอไม่ใช่มาเมื่อไรล่ะเนี่ย
คุณลุงยามเฝ้าประตูเอ่ยปากถามขึ้น พอได้ยินเสียงกด กริ่งประตู ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยโม่อไม่ได้เจอกันหลายปี ทำให้คิดถึงตอนชายหนุ่ม คนนี้วันๆมาเล่นหมากรุกที่ห้องยาม จากนั้นเหลือบเห็น หญิงอยู่ข้างหลังของ
พาภรรยากลับมาด้วยเหรอกลับมาแล้ว แต่งงาน แล้ว หลังจากนี้ทำอะไรต้องจริงจังแล้ว หลายแล้วได้ กลับเธอรีบไปสักหน่อยแล้วกัน ทำความ สะอาดห้องกรอบ
โม่อเปลี่ยนจากท่าทางที่เหมือนปีศาจกลายเป็นคนละ คน ขึ้นอย่างอ่อนน้อม“ครับ ผมเก็บของเสร็จมา
โม่อที่ท่าทางอบอุ่น แบบน่าเสน่ห์มากกว่าไม่อก่อนหน้านี้เสียอีก หล่อนเอาแต่จ้องมองร่างกายที่ผอมบางของ เขา ฉินหลินก็เริ่มเหม่อแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ในเวลาแค่ชั่วขณะ ฉินหลินถึงขนาดที่รู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ ข้างๆคนนี้กำลังสวมหน้ากากอยู่ไม่น้อย ไม่อที่เห็นก่อนหน้า นี้ก็สวมหน้ากากปีศาจ
แล้ว โมอในตอนนี้ ใช่เขาจริงๆ ใช่ไหม?
“เป็นอะไรไป? หรือว่าจู่ๆก็เพิ่งรู้ตัวว่าสามีของคุณหล่อ มากๆ ผมก็รู้ตัวนะว่าผมหล่อมาก แต่ว่าถ้าคุณยังเดินเหม่อ ลอยอยู่แบบนี้พวกเราก็จะเดินเข้าห้องผิดนะ
หลังจากที่ไม่อเดินออกมาจากคุณลุงแล้ว ก็เริ่มกลับไป เป็นชายปีศาจคนนั้นอีก เขามองฉันอีหลินที่เอาแต่เดินใจลอย ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ก็เลยพูดขึ้น
ฉินอีหลินที่ยังคงใจลอย ก็ถูกโม่อเรียกตื่น ก็เลย ทำให้ดึงสติกลับคืนมา
หล่อนเดินเข้าไปในห้องที่ใกล้กับตัวเองที่สุด พอเดินจน ไปถึง ชายด้านข้างก็หัวเราะเสียงดังทำให้หล่อนรู้สึกได้ว่าตัว เองโดนแกล้งแล้ว
พอนึกได้ว่าตะกี้โม่อพูดว่าคำว่า “สามี” หน้าของหล่อน ก็แดงขึ้น
ลี่โม่อวี่เปิดประตูเสร็จแล้วฉินหลินก็เดินตามมาข้างหลัง พอเข้าไปในห้อง หล่อนก็พบว่าของที่อยู่ในห้องถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาวทั้งหมด ฝุ่นเกาะจนหนา ทั้งห้องเต็มไปด้วยฝุ่น
ฉินหลินเอามือขึ้นมาปิดจมูกไว้ ไอไม่หยุด! “ฝุ่นเยอะ ขนาดนี้ นานแค่ไหนแล้วเนี่ยที่ไม่มีคนอยู่?
เงียบไปสักพัก ไม่มีเสียงตอบกลับ: “โม่อ?”
ฉินหลินเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย มองไปยังผู้ชายที่ ยืนอยู่ที่ประตู แต่กลับพบว่าเขาเอาแต่ยืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ตาจ้องมองไปยังที่ที่หนึ่ง
พอมองตามไป ฉินหลิน ก็พบว่าที่บนรองเท้ารองเท้า แตะคู่รักวางอยู่สองคู่ ถึงแม้ว่าบนผ้าจะเต็มไปด้วยฝุ่น แต่ว่า ของรองเท้านั้นยังคงเห็นได้อย่างชัดเจน
กระต่ายสีฟ้าขาว ถึงจะดูแล้วหน่อมแน้มไปนิดแต่กลับดู
อบอุ่นอย่างมาก
“คุณอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน กุญแจสำรองอยู่ในลิ้นชักที่สองด้าน ล่างโทรทัศน์”
โม่อวี่ ดูไม่มีพิษไม่มีภัยต่างจากปกติ แล้วก็ไม่ได้มี ท่าทางออดอ้อนต่อหน้าฉันอีหลินแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่พูด สองประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แล้วก็เดินออกไปไม่แม้แต่จะ หันมามองห้องนี้อีก
ฉินหลิน ยืนมองเงาของเขาที่เดินออกไปไกลเรื่อยๆ หล่อนเริ่มรู้สึกว่าจริงๆแล้ว ไม่อคงรู้สึกเหงาไม่น้อย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ