ตอนที่ 15 คุณกับเขาช่างเหมาะสมกัน
ตอนที่ 15 คุณกับเขาช่างเหมาะสมกัน
ธัชชัยรอวังสาอยู่ด้านล่างเห็นเธอเดินลงมาแล้วยิ้มที่มุม ปากจากใบหน้าที่มีเสน่ห์นั้น ภาวินีที่ตามวัจสาลงมามอง มาที่ธัชชัย ผู้ชายคนนี้ฉันต้องการที่จะชนะเขา
ในสายตาของวัจสากลับเห็นธัชชัยหัวเราะเยอะเธอ ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหนีออกมาจากมือเขาได้ เธอ เกลียดจนแทบรอไม่ไหวที่จะบอกผู้ชายคนนี้เธอไม่ใช้ผู้ หญิงของเขาแล้ว
เธอให้กำลังใจตัวเองว่าจะต้องไปเป็นไร กลับไปบ้านศรี ทองหลังนั้นไปหาจุดอ่อนของธัชชัย เขาจะได้รู้ว่าเธอนั้น แข็งแกร่งแค่ไหน
“ ชายน้อย ฉันคุยกับพี่ฉันเสร็จแล้ว แต่อารมณ์เธอไม่ ค่อยดีฉันต้องการอยู่เป็นเพื่อนพี่ของฉันจนถึงบ้านของ คุณตกลงไหม ”
คุณป้าที่ส่งลูกของตัวเองไปเรียนมารยาทนั้นมันใช้ได้ จริง เป็นคนในครอบครัวที่ดูดีมีชื่อเสียง สุภาพใจดี มีคำ พูดอ่อนโยน
ธัชชัยไม่สนว่าใครไปด้วย ตราบใดที่วังสากลับมา อาการของพี่ก็จะดีขึ้น เขาตั้งใจพูดคำนึงออกมา “เพราะความตั้งใจของเธอเลยนะ “เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อ อะไรเพราะเขาไม่ได้จำ
* ถ้าแบบนั้นฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน ” รสรินที่ยืนอยู่ ข้างๆเหมือนไร้เดียงสา คนที่ฉลาดก็สามารถดูออกได้ ทันที สิ่งที่ลูกสามทั้งสามของบ้านนี้ทำคือไม่เคยแยแส อะไรเลย แต่เมื่อมองที่ธัชชัยในตาเขามีความเกรี้ยวกราด มากขึ้น
ธัชชัยเหลือบมองรสริน ผู้หญิงตั้งมากมายจะเอาไปทำ อะไร ทำไมไม่รู้จักเสน่ห์ของตัวเอง
ปยุตเห็นความผิดหวังในสายตาของชายน้อย รีบพูด ออกมาอย่างรวดเร็ว “ รสริน อย่าพูดอะไรไร้สาระ ” หลัง จากพูดกลับรสรินก็หันกลับมาพูดกลับชายน้อย “ ขอโทษ สำหรับยายตัวเล็กที่ทำให้ลำบากใจ ”
ธัชชัยพูดออกมา “ รู้ก็ดี ไปกันเถอะ ” พูดจบหันไปหาวัจ สาด้สวยสายตาเย็นชา
วัจสามองกลับไปด้วยสายตาแข็งกร้าว
สามคนนั้นเดินออกไป รสรินมองตามหลังและโกรธมาก ถามคุณพ่อเสียงดัง “ ทำไมต้องทำตัวแปลกๆด้วย เห็นได้ ชัดว่าหนูสามารถแข่งกับพี่ได้ ”
“ จะแข่งอะไร เมื่อกี้แกเกือบทำให้ครอบครัวเสียหน้ารู้ ไหม ” ภายในใจปยุตโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ ขายหน้าอะไร ” หนูก็แค่ชอบคนคนหนึ่งมันผิดด้วย หรือ
วราลีเห็นลูกคนนี้เถียงกลับปยุต กลัวว่าเขาจะตีเธอ รีบ ไปหาเธอ “ รสรินทำไมพูดกับคุณพ่อแบบนี้ ตอนนี้เธอยัง
เด็กอยู่ จะทำอะไร รีบขอโทษคุณพ่อซะ ”
” ไม่ ! หนูไม่ผิด ” รสริรพูดจบกับขึ้นไปบนบ้าน
” ผู้หญิงเอาแต่ใจจริงๆ ” ปยุตจับหน้าอกตัวเองด้วย ความโมโห ภายในใจคิดว่าอยากมีลูกชาย ลูกผู้หญิงก็ ต้องแต่งงานออกเรือนไป
วราลีรีบไปดูสามีเธอ “ คุณอย่าโกรธลูกเราเลย เธอยัง ” เด็กอยู่ไม่รู้เรื่องอะไร ”
ปยุตที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะ ” ยังเด็กหรอ นี่ไปจีบผู้ชาย ขนาดนี้ น่าเสียดายที่ลูกเราไม่ฉลาดดูก็รู้แล้วว่าผู้ชาย อย่างนั้นไม่มีวันที่จะง้อผู้หญิงเด็ดขาด ”
วราลีกำลังจ้องมองลูกสาวของเธอ “ ใช้เธอนี้มันไม่ ฉลาดจริงๆ พูดน้อยลงซักสองสามคำไม่ได้รึไงไม่เห็น หรอว่าพ่อโกรธอยู่ ”
ในขณะที่บ้านเดิมขุดทดมีปากเสียงกันแต่สามคนนั้นได้ ออกไปจากบ้านแล้ว
ธัชชัยขับรถสปอร์ตเฟอรารี่สีดำที่มีสองที่นั่งเท่านั้น เขา ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนอื่นมาด้วย เขายืนอยู่หน้ารถเพื่อดู ว่าพวกเธอจะตัดสินใจกันอย่างไร
แต่วัจสาก็พูดออกมา “ภาวินีก็เอารถของเธอออกมา ฉัน
จะนั่งกับเธอ ” ยังไงรถก็นั่งได้ไม่หมดสามคนอยู่แล้ว
ภาวีนีมองไปที่ธัชชัยแต่เขาไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือน ว่าการตัดสินใจของวัจสาจะอยู่ในความคิดเขา
ภาวินีไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่รัช ชัยแค่มองก็รู้เกี่ยวกับวัจสาทุกอย่างมันจะแปลกถ้าเธอ ยอมไปขึ้นรถของเขา
ภาวินีลดสายตาลงแล้วยอมไปที่โรงรถ
เธอขับเฟอร์รารี่เป็นสีแดง ซึ่งเหมาะสมกับรถของธัชชัย เหมือนเป็นคู่รัก
รถของภาวินีวิ่งไปข้างหน้า วัจสาไม่ต้องการพูดอะไร มากนักเมื่อเธอต้องกลับไปบ้านหลังนั้น เธอจะหดหู่ไป ทำไมในเมื่อเธอไม่ได้อยู่คนเดียว ถ้าไม่มีเงินก็ไม่มีอิสระ ในกระเป๋าของเธอมีบัตรเครดิตของภาวินี เหมือนมี ภาพที่หนักมากตกลงมาใส่มือของเธอ
หากไม่ใช้เงินสองแสนนี้ธัชชัยจะไม่มีโอกาสทำให้เธอ เสื่อมเสียเลย และไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ ทันทีที่นึกถึง เรื่องนั้นเธอรู้สึกเหมือนจะบ้า
ภาวินีที่ขับรถอยู่แต่สายตาของเธอนั้นจับจ้องไปที่รถ ของธัชชัย ตั้งตาวินาทีแรกที่ชายคนนี้ปรากฏ เธอก็รับรู้ แล้วว่าเขาคืนคนที่เหมาะสม ที่สามารถมาเป็นคู่ชีวิตของ เธอ
เธอไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลยที่นอกจากการไล่ล่าตัวเอง ตอนนี้มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะยอมแพ้ เธอปฏิเสธที่จะแต่ง งานกับวรพล แปลว่าธัชชัยจะได้กลายเป็นสามีเธอ
พระเจ้าทรงยุติธรรม คุณได้รับอะไรซักอย่างคุณก็จะ เสียอย่างอื่นที่เหมือนกันไป พระเจ้าทรงโหดร้ายเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะสูญเสียอะไร ท่านก็จะให้คุณตามหาสิ่งนั้น
“ พี่วังสา กำลังคิดอะไรอยู่ ”
วัจสาที่ถูกถามทำให้ออกมาจากภวังค์ความคิดของตัว เอง ” ไม่มีอะไรแค่เหนื่อยนิดหน่อย เมื่อคืนนอนไม่หลับ ”
เมื่อคืนเธอคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งคืนถึงเช้าจนกว่าจะหลับ คิดว่าตัวเองจะทำยังไงต่อไปสุดท้ายก็คิดไม่ออก การ แต่งงานกลับครอบครัวนี้เหมือนทำลายชีวิตเธอ
“ฉันคิดว่าธัชชัยทํากับพี่สะใภ้ไม่เลวเลย ครั้งนี้มารับ ด้วยตัวเอง ” ภาวินีเป็นคนฉลาดเธอรู้วิธีที่จะพูดออกมา ถึงเป็นหัวข้อที่เรียบง่ายแต่สามารถรู้ถึงรายละเอียดของ ชายน้อยได้ดี
วังสาไม่พูดอะไร เรื่องที่ไม่ดีในครอบครัวไม่อยาก เอาไปพูดให้คนอื่นฟังและเธอไม่อยากจะเอ่ยถึงผู้ชาย คนนั้น“ ความสัมพันธ์ทั่วไป พี่ชายน่าจะเรียกเขามารับ มากกว่า ”
“แบบนี้นี้เอง ” ภาวินีพูด ถ้าอย่างนั้นพี่รู้ไหมธัชชัยเขา ชอบผู้หญิงแบบไหน
ประโยคนี้เห็นได้ชัดมาก วังสาไม่สามารถเสแสร้งได้ เลย อีกทั้งยังก่อนหน้านี้คุณป้าเรียกเธอไปพูดเพื่อสร้าง โอกาสให้กับกาวินีและธัชชัยคิดว่าน้องคงชอบธัชชัยเข้า แล้ว
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะ “ภาวินีเป็นผู้หญิงที่ ฉลาดและสุภาพ ผู้หญิงเรียบง่ายและใจกว้าง เขาน่าจะ ชอบมาก พูดได้ว่าเธอค่อนข้างเหมาะสมกับเขา ”
คำพูดนี้พูดได้ตรงใจภาวินีทำให้เธอนั้นเบิกบานหน้า กลายเป็นสีแดง “ พี่ พูดอะไร ฉันกับเขาไม่เคยเจอกันมา ก่อน เพิ่งเจอกันครั้งแรก ”
วัจสายิ้มในใจ ฉันหาผู้หญิงเข้าไปพัวพันกับเขาได้ ดูว่า เขาจะสามารถรังแกเธอได้อีกไหม
* ไม่ พี่พูดความจริง หรือว่าน้องไม่ชอบละ ”
ภาวินีไม่ปฏิเสธและไม่ส่ายหน้า ถูกวัจสาทำให้ขายหน้า เธอรีบเปลี่ยนคําถามทันทีแต่ยังคงวนเวียนเกี่ยวกับเรื่อง ของธัชชัย
” ชายน้อยเขาชอบงานอดิเรกอะไร หรือชอบสิ่งของ อะไร หรือว่าสีอะไร”
หากคุณต้องการหัวใจใครซักคน เพียงแค่คว้าหัวใจของ เขาไว้ ตราบใดที่เขาสนใจเธอเขาก็คว้าหัวใจเธอกลับมา ภาวินีมั่นใจว่าเขาสามารถจัดการเขาได้
งานอดิเรกเธอรู้คนเลวคนนั้นเขามีงานอดิเรกอะไร ของ ที่ชอบกิน เธอจําได้ว่าเมื่อวานตอนบ่ายเธอเสียเวลา มากมายไปกับการทําอาหาร แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความ อัปยศ
ยิ่งเธอคิดเธอยิ่งโกรธจนตัวสั่น “ฉันไม่ค่อยแน่ใจ ”
ภาวินี พยักหน้า ” ที่จริงพี่เพิ่งเข้าไปบ้านเขาแค่ไม่กี่วัน ไม่ค่อยรู้ก็เป็นเรื่องปกติ ”
ดวงตาที่สวยงามกำลังมองรถเฟอร์รารี่สีดำด้านหลัง วัจ สามองภาวินีด้วยความรัก ริมฝีปากที่น่ามองนั้นทำให้เกิด รอยยิ้มที่น่าสนใจ “ น้องสาวเธอไม่ต้องกังวลไป หลังจาก นี้จะเป็นโอกาสที่เธอจะได้ค้นหาความจริงกับเขา “
คำพูดนี้ทำให้วัจสาประหลาดใจ ความหมายคืหลังจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะสามารถติดต่อกับชายน้อยได้ ” พี่สาว ที่ พี่พูดนั้นหมายถึงอะไร
” ก็หมายความว่าอย่างที่พูดนั้นแหละ ” วัจสาพูดจบก็ไม่ ได้พูดอะไรต่ออีกเลย
รถนั้นขับเร็วมากในเวลาอันสั้นจนมาถึงประตูรั้วของ ตระกูลศรีทอง
วัจสาลงรถภาวินีนั้นตามลงมา เหมือนมาถึงสถานที่ แปลกตา มีบางคนกลัวจนต้องนำมือมาประสานกับมือ ของวังสา
“ ไม่ต้องกลัว ที่นี้ไม่มีอสูรกาย ” วัจสามองดูรูปร่างสูงที่ โผล่ขึ้นมา มีแต่สัตว์ประหลาดที่ไร้ยางอายเท่านั้น
ธัชชัยถูกล้อเล่นด้วยคำพูดก็หัวเราะขึ้นมา เหมือนเอา มีดมากรีดหน้าตัวเอง เธอไม่กลัวเขาโกรธ สัตว์ประหลาที่ เธอพูดคืออะไร?เธอกำลังเยอะเย้ยเขาหรอ?
“ ใช่แล้วทีนี้ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่ต้องระแวงขนาดนั้น แต่ตอนนี้มืดแล้วขับรถกลับก็ระวังตัวหน่อย “สายตาชาย น้อยที่มองเธอนั้นมีแต่ความเฉยเมยเย็นชา
มันเป็นการไล่ที่ชัดเจนมาก มันทำให้ภาวินีดูเหมือนเป็น คนโง่เมื่อได้ยินมัน แต่เธอยังไม่อยากกลับ เธอไปดึงชาย แขนเสื้อของวังสาขอความช่วยเหลือ
วัจสาจะให้ภาวินีกลับไปง่ายๆแบบนี้ไม่ได้
* ตอนนี้มันดึกแล้วให้ภาวินีนอนกับฉันที่นี้แค่โทรหาคุณ ลุงก็โอเคแล้ว ” ตาที่โตของภาวินีกำลังจ้องมองธัชชัยโดย
ไม่เกรงกลัว
“ ที่นี้ไม่มีห้องรับแขกมากนัก ”
วัจสากรีดร้องในใจ ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอาย บ้านหลังใหญ่ ทำไมไม่มีห้องหรอ ข้ออ้างนี้มันฟังไม่ขึ้น
“ภาวินีนอนกับฉันบนเตียงได้ ”
” เธอมีห้องหรอ เธอต้องอยู่กับพี่ฉัน จะให้น้องเธอไปอยู่ บนเตียงกันสามคนหรอ ” เสียงขอรัชชัยดังขึ้น
วัจสาหน้าแดงก่ำ ผู้ชายคนนี้พูดได้แย่มาก
ภาวินีไม่สามารถทนได้ ไม่คิดว่าชายน้อยจะร้ายเพียงนี้ แม้แต่น้ำซักแก้วยังไม่ให้เธอเข้าไปดื่ม
” พี่สาวฉันกลับก่อน ไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ”
พูดเสร็จเธอรีบเดินไปที่รถ วัจสาจับมือเธอ “ ภาวินี ”
ร่างที่เรียวสูงเดินไปจับมือวัจสา จับแน่นเหมือนแม่เหล็ก แน่นจนรู้สึกเจ็บปวด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ