ตอนที่ 12 พระเอกแห่งความงาม
ตอนที่ 12 พระเอกแห่งความงาม
วังสาเช็ดน้ำตาออกจากบนใบหน้าของเธอ แต่น้ำตาแห่ง ความละอายใจยังคงอยู่ “ป่าอ้อยไม่…ไม่ต้องเป็นห่วง” วัจ สาไม่สามารถพูดในสิ่งที่ธัชชัยทำกับเธอได้ เธอเพียงแค่ อยากจะออกไปจากที่นี้
ขณะที่เธอร้องไห้วิ่งหนีออกจากบ้าน ทิ้งให้ป้าอ้อยเป็น ห่วงและกังวล
บนชั้นสองธัชชัยกำลังมองดูวัจสาวิ่งออกไป ด้านหนึ่ง เขาช่างเย็นชาไม่ใส่ใจ ยิ่งผู้หญิงคนนี้ออกไปจากที่นี้ไกล เท่าไหร่ยิ่งดี แต่อีกด้านหนึ่งเขาเศร้าและไม่สบายใจ
พ่อบ้านที่เห็นเข้ายังอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้ “ชายน้อยจะ ไม่ตามเธอไปจริงๆหรอครับ” ท้องฟ้ากำลังมืด เธอเป็นผู้ หญิงตัวคนเดียวอาจจะพบกับคนไม่ดี ต้องการให้ผมออก ไปตามหาเธอไหม
ไม่รู้ว่าชายน้อยทำอะไรให้นายหญิงโกรธ เขาทำหน้า เศร้าๆและรอคำตอบจากธัชชัย
ในที่สุดร่างชายสูงโปร่งก็พูดออกมา”ผู้หญิงแบบนั้น ทำไมต้องกังวล ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าผู้หญิงอย่างเธอน่าจะชอบออกไปข้างนอกตอนกลางคืน พ่อบ้านอย่ากังวล ไปเลย”
ขายน้อยแต่คุณจสาไม่ใช่คนแบบนั้นอย่างที่คุณคิด เธอถูกบังคับให้แต่งงาน และเธอเป็นผู้หญิงที่ดีแน่นอน ตอนผมไปรับเธอ เธอยืนอยู่อย่างนั้นคนเดียวเงียบๆ คุณ รู้จักชีวิตของเธอจริงๆรึเปล่า?
คําพูดของพ่อบ้านนั้นต้องหยุดชะงักเพราะดวงตาที่จ้อง มองมา “ฉันไม่ได้สนใจชีวิตของเธอ พ่อบ้านก็อย่าไป หลงกลเธอภายนอกอาจะดูธรรมดาแต่จริงๆเธออาจจะ เป็นพวกผู้หญิงขายบริการ เธอเสนอราคามาให้ฉัน สอง แสน”ส่วนเนื้อเรื่องที่เหลือธัชชัยไม่สามารถพูดออกมาได้
“แต่ว่า…คุณวัจสาเป็นภรรยาของคุณ ไม่สามารถปล่อย เธอออกไปคนเดียวได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา…
“หยุดพูดได้แล้ว ไม่ต้องมีใครไปตามทั้งนั้น และอย่าเอา เรื่องไปบอกพี่ชายของฉัน ไม่เช่นนั้นอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น กับพวกเธอ
พ่อบ้านได้แต่ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ไม่คิดว่าชายน้อย จะทำเรื่องแบบนี้กับสิ่งที่เขาเข้าใจผิด เนื่องจากตอนเด็ก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้เขาตื่นตัวต่อทุกสิ่งที่อยู่รอบ ข้างเขาทำให้เขาเป็นคนโหดร้าย แต่ตอนนี้พูดอะไรไปก็คงไม่ฟังหรือต้องคิดหาวิธีออกไปช่วยนาย หญิง
ธัชชัยกลับไปที่ห้องตัวเอง หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงนอน แต่ในหัวยังคิดแต่เรือนร่างผู้หญิงคนนั้น รอยยิ้มที่ขี้อาย รูปร่างที่น่าอาย การทะเลาะที่รุนแรงและน้ำตาบนใบหน้า ของเธอ
เขานอนลงบนเตียงได้กลิ่นหอมจางๆแตะบริเวณปลาย จมูก กลิ่นนี้คือกลิ่นของเธอ
ธัชชัยลุกขึ้นมาจับเส้นผมที่หล่นอยู่บนเตียงอย่างไม่ สบายใจและคว้ากุญแจรถ
ท้องฟ้าค่อยๆมืดไม่มีแสงจันทร์หรือแสงดาวทำให้รู้สึก
อ้างว้าง
วัจสาออกไปข้างนั้นสวมแค่เสื้อชุดกระโปรงผ้าฝ้าย บางๆ ลมกลางคืนที่พัดผ่าน ถึงแม้จะเป็นกลางคืนในช่วง ฤดูร้อนแต่มันก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ รู้สึกถึงความละอา ใจในหัวใจของเธอ
รู้สึกขยะแขยงจริงๆ
เธอมองไปบนท้องฟ้าที่มืดมิดและน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างช้าๆ
ทําไมพ่อกับแม่ไม่พาเธอไปด้วยนะ? หรืออยากจะให้ ทุกข์ทรมานกับโลกที่โหดร้ายใบนี้?
เมื่อตอนเธอเด็กๆเธออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ต้องเจอกับสายตาที่เย็นชาและไม่ยุติธรรม เธอถูกคุณลุง รับมาเลี้ยงดู ถูกลูกสาวทั้งสามคนด่าทอและดูถูกสารพัด หลังจากนั้นเธอได้กลายเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งในบริษัท ของคุณลุง
ตอนนี้ของขวัญชิ้นนี้ได้ถูกเปิดออกมาด้วยความอัปยศ อดสู รู้สึกโดดเดี่ยว การแต่งงานกับตระกูลศรีทองกลาย เป็นฟางเส้นสุดท้าย
แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
แค่รู้ว่าตัวเองยังไม่ตายก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป
นี้คือเหตุผลของคุณดนิตาบอกกกับเธอ
“ชีวิตคนไม่มีสิ่งใดราบรื่น ถ้าอยากเจออะไรที่ดีกว่า จง ล่องเรือไปตามทะเลสาบ” บทกวีนี้เป็นประโยคเตือนใจ โดยครูใหญ่ดนิตาซึ่งอยู่ในไดอารี่หน้าแรกของเธอและ เธอยังได้เรียนรู้แง่ดีของครูใหญ่ด้วย
วัจสาเดินอย่างไร้จุดหมายไปยังสถานที่ที่เยือเย็น หาก ความหิวในท้องของเธอไม่ร้องออกมา เธอยังคงเดินต่อไป
แต่ตอนออกมาเธอไม่ได้น่าอะไรติดตัวมาเลยแถม อาหารที่ทําตอนบ่ายนั้นก็ไม่ได้กินซักค้า
เธอคิดถึงการกระทำของชายคนนั้น วัจสาคิดว่าเธอโง่ มากที่คิดจะให้คนอย่างเขาช่วยเหลือ
เธอไม่อยากกลับไปที่บ้านนั้นอีก ให้เขาคนนั้นทำให้รู้สึก อายอีกครั้ง อดตายบนถนนดีกว่ากลับไปเจอครอบครัวที่ เลวร้ายกำลังเยาะเย้ยเธอ
วัจสารู้ถึงสถานการณ์ที่แปลก แต่ก็สายเกินไปแล้ว ด้าน หลังของเธอมีอันธพาลสองคนดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุ้น เคยกับที่นี้ดี
“เห้อ ไอต่อ เธอคนนี้สวยจริงๆ ไม่เคยเห็นใครสวยแบบ นี้มาก่อนวันนี้ฉันคงจะมีความสุขแล้ว” เขาสวมเสื้อลาย แฟนซีปากของเขาคาบไม้จิ้มฟันพรางยิ้มอย่างมีเลศนัย
พวกอัธพาลก็แสดงความปารถนาออกมา “พี่สาว ไปเล่น ด้วยกันไหม พวกผมจะพาไปในที่ที่สบาย ” ต่อทั้งพูดทั้ง เดินเข้ามาหาวัจสา
วัจสากำลังหวาดกลัว แต่จะให้กรี๊ดร้องก็ไร้ประโยชน์ ใน ตอนนี้เธอต้องคิดวิธีหนีเท่านั้น
ตรงนี้มีสองคนแต่ร่างไม่สูงใหญ่แถมยังผอม หากให้พวก เขาแย่งชิงกันขึ้นมาบางทีอาจจะมีโอกาสหนีรอด
ในขณะที่วังสาคิดแผนการ มีรถเชฟโลเลตสีดำขับไป
ซ่อนตัวอยู่แถวสนาม ชายหนุ่มที่อยู่ในรถคือธัชชัย เขา มองเห็นวัจสาและสงสัยว่าเธอคนนี้กำลังจะทำอะไร
“น้องชายฉันคิดว่าคนเสื้อส้มก็ไม่เลวนะ คุณคิดว่าไง ละ?”
ต่อไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ มองดูที่อัธพาลเสื้อส้มและ หัวเราะเย้ยหยัน “คนสวย เธอคิดว่าเขามีอะไรดีกว่าฉัน งั้นหรอ หล่อกว่าฉันหรือสนุกกว่าฉัน เรื่องแบบนี้ต้องลอง แล้วค่อยพูด ฉันสามารถทำให้คุณรู้สึกอยากตายได้นะ”
“เห้ย ไอต่อ เป็นอะไรวะ แค่ผู้หญิงคนเดียวต้องพูดกัน แบบนี้เลยหรอวะ” อัธพาลเสื้อส้มมองไม่เห็นความภาค ภูมิใจของตนเอง
“งั้นแกก็เอาผู้หญิงคนนี้มาให้ฉัน” ต่อพูดอย่างไร้ มารยาท
“ทำไมฉันต้องให้แก แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร” เสื้อส้มพูด ด้วยความไม่พอใจ
ไม่รู้ว่าใครนั้นเริ่มก่อนแต่สองคนนี้กำลังสู้กันอยู่ บนถนน มีรถผ่านไปมาและเธอคิดจะไปตรงที่มีคนอยู่ วังสาคิด เสร็จก็ค่อยๆยกเท้าเดินไปข้างหน้า
เสื้อส้มตะโกนขึ้นมาว่า “เลิกสู้ได้แล้ว ผู้หญิงวิ่งไปแล้ว”
ต่อตะโกนออกมาว่า “โธ่เว้ย นางผู้หญิงสารเลว ” จากนั้น เขาก็เอามีดพกออกมาจากเอว
วัจสารีบวิ่งโดยไม่ดูทางทำให้สะดุดกิ่งไม้ ไม่ช้าอันธพาล สองคนนั้นก็ตามมาทัน
ทั้งสองมองที่วัจสา “นางสารเลวมารอรับพวกฉัน หรอ”ฉันจะละเลงสีบนหน้าเธอ ที่ทำให้พวกฉันนั้นต้อง
สับสน
ต่อดึงผมยาวๆของวัจสา เธอหลับตาและจะกัดลิ้นตัวเอง ฆ่าตัวตายดีกว่าจะทนถูกกลั่นแกล้งแบบนี้
แต่อย่างไรมันไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้จะได้ยิน เสียงกระแทกสองทีและความรู้สึกหวาดกลัวที่หายไป
วัจสาลืมตาทั้งสองออกมา พวกอันธพาลได้ลมลงอยู่บน พื้น เธอได้เห็นคนคนหนึ่ง ปากของเธอซีด ความเกลียด ชังในชายคนนี้มากกว่าอันธพาลทั้งสองคนรวมกันซะอีก
ธัชชัยคือคนที่มาช่วยเธอ เห็นสายตาของเธอที่มองมา ในชั่วขณะหนึ่ง “ผู้หญิงคนนี้รังเกลียดเขาแล้วใช่ไหม” ไม่รู้ทำไมหัวใจรู้สึกถึงการกีดกัน
วัจสายืนขึ้นและไม่มองหน้าเขา แต่ยังยืนตั้งหลักไม่ได้ ก็ล้มลงไปอีกรอบเพราะปวดข้อเท้าอย่างมากเนื่องจาก ตอนที่สะดุดล้มหนีอันธพาล
* คุณโอเคนะ “ธัชชัยพูดออกมาจากจิตใต้สำนึกแต่กลับ ถูกผลักออกไป
วัจสาก้าวถอยหลังและตะโกนออกมา “ อย่ามาแตะต้อง ตัวฉัน ”
บนถนนมีรถแท็กซี่มาพอดี เธอจึงขึ้นไปนั่งบนรถด้วย
อาการเจ็บเท้าและรถค่อยๆเคลื่อนตัวไปตามความมืด
ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะตั้งใจหรือเป็นเหตุบังเอิญ เธอรู้สึก เกลียดชังเขาอย่างมาก อย่าคิดที่จะไปขอบคุณเขา ถ้า ไม่ใช่เพราะเขา เรื่องคืนนี้คงไม่เป็นแบบนี้
ธัชชัยมองบนพื้นที่มีสองอันธพาลและระบายความเจ็บ ปวดออกมา จนเกือบจะทำให้พวกนั้นคนตาย
เมื่อเขาต่อยเสร็จเขากดโทรศัพท์แล้วส่งหมายเลขไป “ ตรวจสอบตำแหน่งทะเบียนรถร978654แล้วส่งมาให้ฉัน ”
ไม่นานหลังจากที่เขาได้รับข้อความ ธัชชัยขับรถด้วย ความเร็วจนเจอเจอวัจสาที่กำลังลงจากแท็กซี่จนกระทั้ง เข้าบ้านเดิมขุนทด ธัชชัยถึงขับรถกลับ
ในใจเขารู้สึกว่างเปล่าไม่รู้ทำไม คิดถึงใบหน้าของ เธอกลับอารมณ์ไม่ดี รู้ตั้งแต่แรกน่าจะนำสองคนนั้นมา จัดการ
ในบ้านเดิมขุนทดที่กำลังสว่างไสว
ปยุตเพิ่งกลับมาจากการเดินทาง วราลีนั่งอยู่บนโซฟา ถามปยุตเส้นผมที่อยู่บนสูทของคุณคือของผู้หญิงที่ไหน
เขาตอบสีหน้าเรียบเฉย เขาเป็นแค่พนักงานบนเครื่อง บินแครนั้น ทำไมคุณถึงไม่เชื่อผมละ”
“พนักงานเครื่องบินเขาคุณภาพดีขนาดนั้น คงไม่ให้ ผมตกลงมาบนเสื้อใครได้หรอก อีกทั้งคุณยังอายุมาก หน้าตาก็ไม่ได้ดี ไม่มีใครเอาคุณหรอก ” วราลีพูดเธอ ” ปยุตไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
ในเวลาเดียวกัน วังสาผลักประตูเข้ามา ปยุตเห็นเธอเข้า เหมือนว่าเธอช่วยชีวิตเขาเอาไว้และ ต้อนรับเธอ “ วัจสาก ลับมาแล้วรีบเข้าบ้านเร็ว “
วัจสาก้มหัวเล็กน้อยและไม่อยากให้พวกเขาเห็นสภาพ
แบบนี้ “ ค่ะ ”
วราลีรู้สึกแปลกใจเลยเข้าไปดู ” ทำไมเสื้อผ้าเธอ สกปรกแบบนี้ ไม่ใช่โดนคนตระกูลศรีทองทำร้ายมานะ
คำพูดนี้ทำเอาวัจสาคิดถึงที่ธัชชัยและอันธพาลทั้งสอง ทําร้ายเธอ ทำให้ตัวเธอแข็งทื่อ
วราลีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ” ไม่กี่วันที่ผ่านมาจะมาเอา เงินจากฉัน แต่ไม่ให้เลยโดนทำร้าย ? น่าสมเพชจริงๆ “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ