ตอนที่ 5 คนที่ซ่อนฐานะ
ตอนที่ 5 คนที่ซ่อนฐานะ
“หากท่านยังโกรธเคือง ข้าจะขอชดเชย…”หลินซีนเยียนมอง ไปยังกลุ่มคนที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ จึงพูดอย่างลำบากใจ
สักพักชายแก่จึงเรียกสติคืนมา เขากลืนน้ำลายลงคอ แล้ว เริ่มเปิดปากพูด น้ำเสียงของเขาเย็นสงบความตกตะลึงหาย ไปหมด แค่เรื่องเล็กน้อย
หลินซีนเยียนพยักหน้ารีบประสานมือคำนับให้ชายแก่ “กำไล ข้อเท้านี้ ข้าขอประกอบใส่มันคืนให้ท่านได้หรือไม่”
“ประกอบใส่มันคืน “ทีนี้ชายแก่ไม่ได้พูด แต่คนติดตามที่ อยู่ด้านหลังเขาสีหน้าเปลี่ยนทันที
ชายแก่หันไปมอง คนติดตามคนนั้นก็รีบก้มหน้าลงต่ำไม่กล้า พูดขึ้นมาอีก
“ไม่ต้อง คุณชายแค่มอบกำไลข้อเท้าคืนให้ข้าก็พอแล้ว”ชาย แก่ยื่นมือออกมา หลินซีนเยียนก็ส่งกำไลข้อเท้าคืนให้เขา อย่างนอบน้อม
เสี่ยวอวี่ที่แต่งกายเป็นชายเดินออกมาจากลานหลังพอดี หลินซีนเยียนได้ประสานมือคำนับเชิงกล่าวลา จากนั้นก็หันหลังมาและพาเสี่ยวอวี่เดินกลับไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะ
ชายแก่กลุ่มนั้นได้จ้องห้องที่ดีที่สุดของโรงเตี๊ยมแล้วก็พากัน ไปด้านลานหลัง พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก คน ติดตามคนหนึ่งก็พูดอย่างตื่นเต้น นายท่าน พวกเราเปลืองแรง เดินทางมาเกือบครึ่งหนานเยว่ ก็ยังตามหาคนที่เปิดกำไล สวรรค์ ไม่ได้ ไม่คิดว่าจะมาพบที่นี่ แม้แต่สวรรค์ก็ยังเมตตา นายท่านเลย!
ชายแก่กำลังเล่นกำไลข้อเท้าที่อยู่ในมือ สายตาเคร่งขรึม กําไลสวรรค์นี้เป็นแค่งของเล่นฝีมือยอดเยี่ยมสําหรับคน ธรรมดา แต่สำหรับเขาแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ผนึกวิชาวรยุทธ ของเขา สองปีมานี้ เพราะกำไลสวรรค์นี้ ชีพจรของเขาได้ หมุนทวนกระแสกลับมาหลายครั้ง ซึ่งทำให้เขาเกือบก้าว เข้าไปเหยียบแดนในปรโลก โดยเฉพาะหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เขาแม้จะเดินก็ยังไม่มีแรงเลย
คิดไม่ถึงเลยว่าได้มาอย่างง่าย
“ได้ถอดกำไลสวรรค์นี้ออกมาแล้ว คุณชายนั้นยังคิดที่จะ ประกอบใส่มันให้ท่านอีก เมื่อครู่ข้าน้อยตกใจแทบแย่ “คน ติดตามนั้นอายุ 20 กว่าปี ตัวสูงใหญ่หน้าซื่อๆ ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความดีใจ
“ซานป่าย เจ้ายังอ่อนเหมือนเดิมอีก “แม้จะพูดตักเตือน ชายแก่ก็ทนไม่ได้ที่จะหันหน้ากลับไปมอง
หลินซีนเยียนนั่งทานอาหารกับเสี่ยวอวี่ที่มุม นางเงียบสงบ เหมือนตอนแรก ดูไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือมีสิ่งใด เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
“ข้าน้อยอดไม่ไหวแล้ว สอง ปีนี้ เราออกเดินทางมาไกล แสนไกลเพื่อปลดกําไลสวรรค์ คิดไม่ถึงเลยคุณชายตัวเล็ก นั้น เพียงแค่สัมผัสเล็กน้อยก็สามารถเปิดออกแล้ว ข้าน้อย ดีใจยิ่งนัก “ซานป่ายหันหน้ากลับไปมองศิษย์น้องที่อยู่ด้าน หลัง ” พวกเจ้าคิดว่าที่ข้าพูดถูกหรือไม่ หรือว่าพวกเจ้าไม่รู้ สึกดีใจ”
ทุกคนพยักหน้า ใบหน้าของทุกคนล้วนแสดงความตื่นเต้น และดีใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ จนถึงตอนนี้ พวกเขายังมีความ รู้สึกว่ามันไม่เรื่องจริง
เดิมคิดว่าเรื่องที่ต้องลงทุนลงแรงไปมาก ทันใดนั้นก็มีคนพลั้ง มือแก้ไขไปแล้ว ความรู้สึกแบบนี้มัน…
“พอแล้ว ซานป่าย ไปสืบเรื่องของสองคนนั้นมา”ชายแก่ละ สายตากลับมาและเข็นรถเข็นเข้าไปในห้อง
“ขอรับ!”
ตอนกลางคืน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้าน ส่องแสง พร่างพราวกลมกลืนกับดวงจันทร์
หลังจากทั้งสองคนทานอาหารเสร็จแล้วก็กลับไปด้านล่าหลัง ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว
เสี่ยวอวี่จุดเทียนในห้อง กลางแสงเทียนที่สั่นไหวไปมา หลิน ซีนเยียนหยิบกระดาษและพู่กันมาวาดอะไรสักอย่าง เมื่อเสี่ย วอวี่เข้ามาดูใกล้ ๆ รู้สึกแปลกประหลาดชอบกล “คุณหนู นี่คือ ภาพวาดอะไรเจ้าค่ะ”
“อาวุธที่เพิ่งเห็นมา ยากนักที่จะได้เห็นสิ่งของที่งดงามและ ละเอียดอ่อนเช่นนี้ ข้าจึงรีบวาดเก็บไว้ ต่อไปหากมีโอกาสข้า จะลองทำมาเล่น ๆ “หลินซีนเยียนหยิบกระดาษขึ้นมาเป่าให้ หมึกแห้ง
“คุณหนู นี่เป็นเครื่องประทับชัดๆ ทำไมถึงบอกว่าเป็นอาวุธ เจ้าค่ะ”เสี่ยวอวี่ไม่เข้าใจ
หลินซีนเยียนยิ้มเล็กน้อยอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและมั่นใจ “ ใน กําไลข้อเท้ามันซ่อนคันธนูไว้อยู่ เพียงไปสัมผัสที่กลไก คัน ธนูนั้นก็จะยิงลูกธนูขนาดเล็กออกไป”นางชูนิ้วโป้งออกมาเชิง เปรียบเทียบ นี่ไง ยาวประมาณนี้”
“หา…”เสี่ยวอวี่ส่งเสียง อย่างไม่เชื่อ “คุณหนู พูดเล่นหรือ เจ้าค่ะ…
หลินซีนเยียนถอนหายใจ “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เจ้า หากมี โอกาสจะทำมาให้เจ้าได้ป้องกันตัวสักอัน เพียงแต่ข้างในนี้มัน มีกลไกที่ข้ายังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรกันแน่ น่าเสียดายที่เป็น สิ่งของผู้อื่น ข้าไม่สะดวกที่จะศึกษานานไปเกิน
นางถอนหายใจอีกครั้งแล้วพับกระดาษที่ใช้วาดภาพไป
“เอ๊ะ ทําไมหิมะตกอีกแล้ว”เสี่ยวอวี่เดินไปที่หน้าต่างและ กำลังจะปิดหน้าต่าง ทันใดนั้นก็มองเห็นเงาคนอยู่ที่ไกล ๆ จึง เกิดความสงสัย” ต้นปีนี้ คนแปลก ๆ เยอะจริง หิมะตกหนัก ขนาดนี้ยังจะมีคนเดินเล่นที่สวนอีก”
หลินซึนเยียนมองไปตามสายตาของเสี่ยวอวี่ คิ้วเริ่มขมวด ติดกัน พลันลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก “เสี่ยวอวี่ ข้าจะ ออกไปสักหน่อย เจ้านอนไปก่อนเลย”
เสี่ยวอวี่คิดอยากจะพูดอะไร แต่หลินซีนเยียนเดินเร็วมาก ตอนนี้ก้าวเดินออกห้องเข้าไปในกลางหิมะที่โปรยปรายแล้ว
ในสวนมีต้นเหมยหลายสิบต้นที่กำลังออกดอก ชายแก่หนึ่ง คนกำลังยืนอยู่ใต้ต้นเหมย ไม่รู้ว่าเขาจ้องมองอะไรอยู่ สายตา ล่องลอยไปไกล รู้สึกว่าด้านหลังที่คนกำลังเดินเข้ามาใกล้ ร่างกายของเขาแข็งทื่อชั่วขณะ แล้วผ่อนตัวลงทันที
“คุณลุง”หลินซีนเยียนเดินเข้าไปใกล้ หยุดยืนและส่งยิ้มเล็ก น้อยอยู่ข้าง ๆ เขา “ หิมะตกหนักขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เข้าไป หลบในห้อง ”
ชายแก่หมุนตัวและประสานมือคำนับ “น้องเล็กก็ไม่หลบหิมะ ที่ตกหนักไม่ใช่หรือ
หลินซีนเยียนชะงักไปครู่หนึ่ง “ ก็จริง ก็แค่หิมะเท่านั้น”
หากในใจได้เย็นชาไปแล้ว นับประสาอะไรกับแค่ความเย็น ของหิมะ
“ท้องฟ้ายามหิมะตก ยามนี้ควรจะดื่มสุราอุ่น ๆ เป็นที่สุด ข้า ได้นำสุรามาด้วย หากน้องเล็กไม่ถือสามาร่วมดื่มกันสักแก้ว เถอะ”ตอนที่ชายแก่พูดขึ้น สายตากลับเปล่งประกาย ไม่เข้า กับใบหน้าที่สะสมรอยย่นมาก
หลินซืนเยียนพยักหน้า ชายแก่ก็รีบโบกมือเรียกให้ชั้นสอง เพียงไม่กี่นาที ซานป่ายก็ย้ายโต๊ะเล็กๆลงมาวางที่ใต้ต้นเหมย
ชายแก่จุดเตาไฟด้วยตนเอง จากนั้นก็วางหม้อสุราที่ทำจาก โลหะตั้งบนเตาถ่าน เพียงไม่กี่นาที กลิ่นหอมของสุราก็อบอวล ไปทั่ว
กลิ่นหอมของสุราที่โดดเด่นทำให้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่า หลินซีนเยียนสูดดมกลิ่น ทนไม่ไหวจนส่งเสียงร้องออกมา สุราดี!
เมื่อก่อน ตอนที่ทดสอบอาวุธได้สำเร็จ เพื่อนร่วมงานทั้งหมด ก็ดื่มฉลองกันอย่างเต็มที่อยู่ในห้องทำงานทั้งคืนภาพเรื่อง ราวในชีวิตที่แสนสุขสำราญนางยังจำได้ชัดมาก แต่ตอนนี้ นางเป็นคนที่มีฐานะต่ำต้อยที่สุดในสังคมศักดินา
“น้องเล้กเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุยิ่งนัก สุรานี้ข้าหมักมาสิบ ปีแล้ว”
รอสักพัก ชายแก่ก็เทสุราให้สอง แก้ว แก้วหนึ่งวางตรงหน้า ของนาง ดอกเหมยหนึ่งตกลงมาในแก้วสุราพอดี ทำให้สุราใน แก้วเกิดระลอกคลื่นไม่หยุด
“งามยิ่งนัก มองดูภาพนี้ หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม อย่างอบอุ่นขึ้นมา หยิบดอกเหมยในแก้ววางข้าง ๆ นางใช้มือ สองข้างกระดกสุราในแก้ว ดื่มจนหมด
นางไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของนาง ได้ปรากฏเป็นภาพเข้าไปใน ดวงตาของชายแก่ ช่างงดงามอย่างมาก
ชายแก่กระดกสุราในมือเป็นนานๆจนลืมวางลงมา เขาขมวด คิ้ว สายตามองไปที่ลูกกระเดือกตรงคอของหลินซีนเยียน เกิดความสงสัยขึ้น เป็นชายแท้ ๆ ทำไมถึงยิ้มได้งดงามกว่า สตรีอีก
“ดื่มอีกแก้ว! “หลินซีนเยียนดื่มสุราหมดเกลี้ยง ก็ยื่นแก้วไป ด้านหน้าและหางตาเหลือบมองมือของชายแก่
มือนั่น ข้อนิ้วชัดเจน เรียวยาวเหยียดตรง ไม่มีรอยย่น ไม่มีริ้ว รอยเหี่ยวย่น
นี่ไม่ใช่มือของชายแก่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ