ตอนที่ 6 ฉันชอบคนที่ใช้สมองทํางาน
ห้องโถงสำนักงานใหญ่ บนพื้นกระจัดกระจายไปด้วย เอกสารและอุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน ดูรกวุ่นวาย ไม่ สะอาดเรียบร้อยเหมือนตอนที่เธอเดินเข้ามา
ผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆ 30 กว่าปี มากับเด็กผู้ชาย นั่ง ลงที่ห้องโถงรับแขกอย่าถือดี ตะโกนโวยวายเสียงดัง “คุณไวทยุตออกมาเดี๋ยวนี้นะ คุณรับเงินใจดำจากธน ภัทร์มาเท่าไหร่ เพื่อช่วยเหลือคนผู้นั้นรังแกพวกเราสอง แม่ลูก”
ดวงตาเธอสั่นด้วยความโกรธ มองขวางไปทางผู้คนที่ อยู่ในห้อง กล่าวด้วยความโกรธ “พวกแกทำงานอาชีพ นักกฎหมายล้วนแล้วแต่ไร้ซึ่งคุณธรรม ความผิดชอบ ชั่วดี แค่มีเงิน ต่อให้ต้องฆ่าแกงกัน พวกแกก็เต็มใจที่จะ
“คุณแม่ฮะ” เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยมองเห็นแม่ของ เขาในลุคแบบนี้ หวาดกลัวฉุดดึงชายเสื้อของเธอเอาไว้
ผู้หญิงคนนั้นก้มลงมองลูกชาย ทันใดนั้นน้ำตาไหล พรากออกมา กอดลูกชายร้องไห้เสียงดัง
“ปวีร์ หนูดูคนพวกนี้ไว้ให้ชัดนะลูก พวกเขาช่วยพ่อ ของหนูรังแกพวกเรา ไล่พวกเราออกจากบ้าน………….
นารา ได้ยินเสียงร้องไห้อันเศร้าโศกของเธอ ขมวด คิ้วแน่น เดินตรงไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เหลือบเห็นข้างกายมีพนักงานถือแก้วน้ำอยู่ในมือ
ดึงแก้วออกมา เดินไปตรงหน้าผู้หญิงคนนั้น “ฮัลโหล” สาดน้ำเข้าไปเต็มๆที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น
“ว้ายยย” หญิงคนนั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ น้ำตาและน้ำผสมเข้าด้วยกัน เหล่ตามองไปทางคนที่อยู่ ตรงหน้าอย่างโกรธแค้น
ดวงตาบวกกับฟันที่ขาวใส ใบหน้าที่ปกคลุมน้ำค้าง หญิงคนนั้นจ้องมองนาราที่อยู่ตรงหน้าอย่างระวัง ด้วย ความโกรธ “แกเป็นใคร มีสิทธิอะไรมาสาดน้ำใส่ฉัน?”
นาราหยิบนามบัตรออกมา 1 ใบ ขว้างมันลงไปตรง หน้าของเธอ กล่าวเสียงเบา “ฉันเป็นทนายความของ สำนักงานแห่งนี้ เธอเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย พูดด้วย น้ำเสียงถากถาง “สาดน้ำใส่คุณ เผื่อมันจะทำให้คุณ ได้สติ ไม่เรียก รปภ มาลากตัวคุณออกไป ก็บุญแค่ไหน แล้ว”
ผู้หญิงคนนั้นโกรธจนตัวสั่น กวาดสายตาไปยังผู้คน โดยรอบ กล่าวด้วยความโกรธแค้น “พวกแกทุกคน ก็เห็นแก่ตัวเหมือนกันหมด สบคบกับไอ้ธนภัทร์บีบ บังคับเราสองแม่ลูกจนหมดหนทาง คนที่ไม่มีคุณธร เธรรม จริยธรรม อย่างพวกแก สักวันจะต้องโดนประณาม”
นาราเดินเข้าไปใกล้เธอ ดึงเอาความเยือกเย็นออกมา ทำให้ผู้หญิงคนนั้นตกใจถอยหลังหนี
ดวงตาที่แหลมคมจ้องมองเธอ ขมวดคิ้วจนเห็นรอย ชัด คารมคมคาย “เป็นเพราะคุณไม่อยากโดดเดี่ยวจึง หาผู้ชายผิวขาวหน้าตาดี แล้วยังไปมีลูกกับชายอื่นอีก”
พฤติกรรมของคุณฝ่าฝืนข้อบังคับ “กฎหมายการ แต่งงาน”ระหว่างสามีภรรยาที่ต้อง จงรักภักดีและ ซื่อสัตย์ต่อกัน หากสถานการณ์ที่มีความผิดร้ายแรง เกี่ยวเนื่องจากการแต่งงานซ้อน ต้องโทษจำคุกอย่าง น้อง 2 ปีหรือกักขังไว้ชั่วคราว คนฉลาดจะไม่แตะต้อง ขอบเขตทางข้อกฎหมาย เป็นเพราะคุณมองข้ามและ เหยียบย้ำมัน ก็โทษใครไม่ได้”
หญิงคนนั้น ใจสั่น มองคนตรงหน้าอย่างมั่นใจ จ้อง จับผิดทนายความหญิงของตัวเอง รู้สึกผิดไปชั่วครู่ แต่ผ่อนคลายไปสักพัก แผ่นหลังตั้งตรง บวกกับแรง กระตุ้นของผู้หญิงปากร้ายอย่างเธอก็ฟื้นกลับมา “เธอ คิดว่ามีแค่ฉันที่ทำอย่างนี้เหรอ? ธนภัทร์ ก็มีผู้หญิงอื่น ฉันก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง เหตุใดทรัพย์สินทั้งหมดจึงตกเป็น ของเขา แต่ฉันกลับไม่ได้อะไรเลย ฉันยังต้องเลี้ยงดูลูก แล้วหลังจากนี้ฉันจะทำยังไง”
นาราขี้เกียจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับเธอ ยิ้มเยือก เย็น “หากคุณไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล คุณขอ ยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ถ้าคุณยังมาสร้างความวุ่นวายที่ สำนักงานอีก ฉันจะแจ้งคุณข้อหา ฝ่าฝืนกฎระเบียบ ความสงบเรียบร้อยในสังคม คิ้วหนากระดกขึ้น สายตา แหลมคม “ขอเตือนคุณอีกอย่าง ถ้าสถานการณ์ร้าย แรง คุณจะถูกจำคุก 10 วันขึ้นไป คุณแน่ใจว่าสร้าง ความวุ่นวายที่นี่อีก?”
ผู้หญิงคนนั้นได้ยิน ในใจเริ่มหวาดกลัว แต่ก็ยังมีท่าที โกรธเคืองไม่ยอม กินฟันพูด “อย่าคิดที่จะเอากฎหมาย มาขู่ฉัน แกคิดว่าฉันจะ…….……..
บุณวัตน์ น้ำเสียงเด็ดขาดของนาราขัดจังหวะพูดของ
เธอ “โทรแจ้งความ “ได้ครับ” บุณวัตน์รีบหยิบเอาโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน
กดเบอร์โทรออก
หญิงคนนั้นเห็นการเคลื่อนไหวที่แท้จริงของพวกเขา ลุกลี้ลุกลน กลืนน้ำลายลงคอ ชี้ไปที่พวกเขา “ แก พวก แก ฝากไว้ก่อนนะ ฉันจะกลับมาที่นี่อีก”
พูดจบ อุ้มลูกน้อยของเธอรีบเดินจากไปโดยไม่หัน กลับมา
มองดูเธอจากไป สายตาที่เย็นชาก็ค่อยค่อยคลายลง
ไวทยุตจับตามองอยู่ด้านนอกอย่างเงียบๆ ปรบมือ และเดินออกมามองเธออย่างชื่นชม
“นารา เก่งจริงๆ!”
นารามองมาที่เขาเล็กน้อย ไม่เอ่ยอะไรออกมา
ไวทยุต เดินไปตรงหน้าของเธอ เรียกประชุมทุก คนในสำนักงาน แนะนำอย่างจริงจัง “บุคคลท่านนี้คือ ทนายนารา เพิ่งบินกลับมาจากนิวยอร์ก ต่อไปนี้จะทํางานร่วมกับสํานักงานกฎหมายของเรา ทำงานร่วมกับ พวกเราทุกคน”
“ยินดีต้อนรับค่ะ ครับ คุณทนายนารา”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ