ยัยเซ็กซี่ที่เร้าใจของฉัน

ตอนที่ 5 ผู้หญิงปากร้ายคนนั้นให้ฉันบนคนจัดการ



ตอนที่ 5 ผู้หญิงปากร้ายคนนั้นให้ฉันบนคนจัดการ

อาคารธุรกิจเอลล่า

นารา เดินเข้าในห้องโถงสำนักงาน ที่ประดับ ประดาตกแต่งสวยงามอย่างมีระดับ สายตาเธอเปล่ง ประกาย ด้านบนเพดานรูปทรงเรขาคณิต สะท้อนแสง ลงอย่างมีมิติ แสงนุ่มนวลสาดส่องเข้ามาในห้องโถง หลังฉากตกแต่งด้วยพื้นหินอ่อน ตรงกลางสลัก เป็น ชื่อ สำนักงานกฎหมายยุติธรรม แสงไฟส่งสว่างไสว บวกกับตัวอักษรที่ทรงพลังระยิบระยับฉายด้วยไฟส ปอตไลท์

ดวงตาเปล่งประกายของเธอหยุดมองไปที่ตัวอักษร พวกนั้น ปะทะเข้ากับเงาดำมืด ไม่รอให้ได้เธอโต้ตอบ เสียงที่อ่อนโยนดังชัดเข้ามาในหู ดึงเธอเข้ามาในอ้อม กอด “ยินดีต้อนรับกลับประเทศ”

นาราขมวดคิ้ว ผลักเขาออกห่างอย่างรังเกียจ เสียง ชัดเจนและทรงพลัง “คุณทนายยุต พวกเรารักษาระยะ ห่างกันไว้หน่อยก็ดีนะ”

สายตาห่างเหิน ทั้งน้ำเสียงและสีหน้า ไม่ได้มีท่าทีพูด เล่นแต่อย่างใด

ไวทยุตเหมือนจะชินกับนิสัยเย็นชาของเธอ ยก ไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ยิ้มมุมปาก ดูแล้วอบอุ่นยิ่งกว่าดวง อาทิตย์เดือนมีนาคม ตบไหล่เธอเบา “ไปกัน ผมพาคุณ ไปดูห้องทำงาน”
“โอเค” นาราเดินตามหลังไป

ห้องทำงานออกแบบผสมผสาน สวยงามเข้า บรรยากาศ ใช้พื้นได้อย่างเหมาะสม โต๊ะทำงานจัด วางอยู่ส่วนกลาง ใช้แผ่นกระจกเป็นฉากกั้น เพื่อให้ พนักงานทํางานได้อย่างละเอียดรอบคอบ

ทั้งสองเดินไปทางระเบียง เป็นพื้นไม้สีกาแฟเข้ม

เดินเหยียบลงไปมีเสียงดังออกมาเล็กน้อย ด้านขวา จัดเรียงด้วยชั้นหนังสือ แบ่งแยกพื้นที่รับแขกออกมาได้ อย่างสวยงาม หนังสือทุกชนิดถูกวางไว้บนชั้นหนังสือ นอกจากนี้ยังตกแต่งของโบราณ ได้กลิ่นอายความหอม ของหนังสือ ฝ้าเพดานฉาบด้วยปูน ประดับตกแต่งด้วย แสงไฟเรียงราย แสงสว่างล้อมรอบตึก ทำให้สำนักงาน สว่างไสวดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

สไตล์การตกแต่งที่พิถีพิถันใส่ใจรายละเอียด คงใช้ เวลาไม่น้อยในการออกแบบตกแต่ง ทั้งสองเดินไปห้อง ท้ายสุดของสำนักงาน หยุดลง สุภาพบุรุษอย่างไวทยุต เปิดประตูให้เธอ

กลิ่นหอมอ่อนๆของเนื้อไม้ ลอยปะทะเข้ามาที่ใบหน้า คล้ายกับกลิ่นผงธูปบางๆ ทำให้คนยากที่จะลืม

เธอเดินเข้าไปช้าๆ ค่อยค่อยเหยียบลงไปบนพรมสี น้ำตาลเข้ม มีแสงไฟอบอุ่น ในห้องทำงานไม่ใหญ่มาก นัก ได้จัดวางได้อย่างเป็นระเบียบ แบ่งเป็นพื้นที่รับแขก และพื้นที่ทำงาน ฝั่งซ้ายห่างจากโต๊ะทำงานไม่ไกลนักมีหน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากเพดานถึงพื้น ได้รับแสง จากดวงอาทิตย์ที่ส่งเข้ามา

อ้อมผ่านโต๊ะทำงานใหญ่ เธอนั่งลงบนเก้าอี้หนา หัน ไปทางซ้ายมองเห็นภาพของเมืองกีธร์นทั้งเมือง ตึกสูง ที่เรียงราย สวยงาม

ดวงตาสวย เลื่อนมองไป ใบหน้าเคร่งขรึมผิดปกติ

ที่นี่คือ เมืองกีธูร์น

5 ปี ในที่สุดฉันก็ได้กลับมา

ก่อนที่เธอจะจากไป เธอเคยพูดเอาไว้ ในวันที่เธอ กลับมา มันคือเวลาของการแก้แค้น เธอใช้ที่นี่เป็นจุด เริ่มต้น และค่อยค่อยทำให้ตระกูลหันมณีพังพินาศยับ เยิน

ไวทยุต ก้าวเข้าไปข้างหน้า เอนหลังพิงเก้าอี้ มองหน้า อันเหม่อลอยของเธอ เหมือนในใจกำลังคิดอะไร อยู่ ชั่วครู่ กล่าว “ห้องทำงานนี้ผมเป็นคนจัดเตรียมให้คุณ โดยเฉพาะ” นั่งพิงกำแพง บดบังแสงแดดที่ทอดยาว มาเหนือศีรษะ จากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงออกมาอย่าง เจิดจ้า “เป็นไงบ้าง ถูกใจคุณไหม?”

เขาพูดไปด้วย เปรียบเทียบนี่นั้นไปด้วย อย่างมีหลัก การ
นาราเรียกสติกลับมา มองไปยังเขา ยิ้มตาหยี่ “ฉันว่า คุณเปลี่ยนหาชีพไปทำเกี่ยวกับฮวงจุ้ยดีกว่านะ

ดวงตาเคลื่อนมองไปที่แสงสว่าง พูดเบาๆ “บรรยากาศแวดล้อมที่นี่ดีมาก ก่อนที่ฉันจะรู้จักคุณ ฉัน เคยอาศัยอยู่ที่ห้องมืดใต้ดินที่นิวยอร์

ไวทยุตนึกขึ้นได้ทันทีตอนแรกที่เจอเธอในอเมริกา

ใบหน้าเธอเศร้าหมอง ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ร่างกาย ซูบผอม แค่ลมพัดผ่านตัวก็ปลิวแล้ว ความเจ็บปวดผ่า ลงตรงกลางใจ รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ผมหาห้องพัก ไว้ให้คุณแล้ว เดี๋ยวสักพักจะพาคุณไปดู”

“ขอบคุณนะคะ เห็นแล้วว่าคุณกลับมาจากประเทศมา ไม่กี่เดือนนี้จัดการไปหลายเรื่อง” นารากล่าวขอบคุณ อย่างจริงใจ แต่ระหว่างเขา เธอกลับรู้สึกไม่สนิทเท่าที่ ควร

หรือบางที นี่อาจเป็นนิสัยมาจากที่เธอต้องปกป้องตัว เองมานาน

นารา ลุกขึ้นยืน เดินไปที่ริมหน้าต่าง นอกหน้าต่าง มีแสงแดดจ้า ส่องลงไปบนตึกสูงที่เรียงราย เปล่ง ประกายออกมาเหมือนทองคำ

แสงแดดที่กรองผ่านสาดแสงอุ่นๆลงมาบนใบหน้าอัน สวยงามของเธอ ราวกับปกปิดด้วยม่านที่ลึกลับ
ดวงตาที่สวยงามของเธอฝังเอาไว้ด้วยความเยือก เย็น เม้มปากเป็นเส้นตรง เหมือนใบมีดอันแหลมคมที่ สามารถตัดทำลายกระจกได้

หน้าตาอันมืดมนแบบนี้ของนารา 1 ปีที่ อยู่ด้วยกัน ในอเมริกา ไวทยุตเองก็ชินแล้ว เขารู้ว่าในใจของเธอมี ความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ความลับที่เธอแบกมันเอาไว้

แต่เขากลับไม่เคยเค้นถามความจริงจากเธอ เขารู้ดี เธอไม่มีทางบอกเขา

หลบซ่อนสายตาอันเปลี่ยวเหงา ไวทยุต ก้าวไปตรง หน้า “ผมกำลังจะหาผู้ช่วยให้คุณ คุณต้องการอะไร ไหม?”

นาราปรับเปลี่ยนดวงตาที่เยือกเย็นเป็นดวงตาที่สดใส “ว่องไว ฉลาดหลักแหลม อย่ามาเป็นตัวถ่วงของฉันก็ พอ”

ไวทยุต รับทราบ พยักหน้า “ไม่มีปัญหา”

พอดีกับที่บุณวัตน์รีบร้อนเข้ามา หมวดคิ้ว มองไปทาง ไวทยุต กล่าว คุณทนายยุตครับ “ภรรยาเก่าของคุณ ธนภัทร์มาโวยวายอยู่ที่ห้องโถงสำนักงานครับ เอะอะ โวยวายเสียงดังต้องการที่พบคุณอยู่ด้านนอกครับ!”

ไวทยุตได้ยินแล้ว สีหน้าเริ่มเปลี่ยน

นารา หันไปมองที่เขา ยกคิ้วขึ้นถาม “ใช่คดีฟ้องหย่าที่คุณเคยพูดให้ฉันฟังก่อนหน้านี้ไหม?”

ไวทยุต ขมวดคิ้ว ตอบ “ใช่ครับ พวกเราชนะคดี ผู้ หญิงคนนั้นไม่ได้เงินสักบาทเดียว แม้แต่เด็กก็ไม่ใช่ลูก ที่แท้ๆของลูกความผม

นาราเข้าใจชัดแล้ว นัยน์ตาชอบใจ “ผู้หญิงปากร้าย คนนั้นให้ฉันเป็นคนจัดการเถอะ”

เธอพูดแล้วเชิดหน้าเดินออกไป

ไวทยุต เหลือบมองแผ่นหลังอันมีเสน่ห์ของเธอ ยิ้ม เบาๆ | คนที่มั่นใจอย่างนาราแบบนี้แหละที่เขาชอบ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ