ยัยเซ็กซี่ที่เร้าใจของฉัน

ตอนที่ 3 คุณแพ้แล้ว



ตอนที่ 3 คุณแพ้แล้ว

5 ปีผ่านไป เวลาเดินไป อย่างรวดเร็ว

เมืองกีธร์น ศาลฎีกาชั้นสูง

บรรยากาศที่เงียบขรึมภายในชั้นศาล ทำให้ผู้คนที่อยู่ ภายในห้องแทบไม่กล้าหายใจเสียงดัง บวกกับคำพูด ถ้อยคำและวาจาที่ฉะฉานของทนายหญิงคนนั้น ยิ่งเพิ่ม ความตึงเครียดยิ่งเข้าไปอีก

“Mohimwong เป็นเกมส์แนวใหม่ที่บริษัทเทคโนโลยี เซนซี จำกัดของเราเปิดตัวขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ความนิยม ของเกมในขณะนั้นมีมากพอที่จะเทียบเคียงได้กับเกม Arena Of Valor ในยุคปัจจุบัน จำนวนการดาวน์โหลด และหัวข้อในแต่ละค้นหาพอร์ตนั้นขึ้นติดอันดับแรกของ รายการ

“จากนั้นฉันขอถามบริษัทคุณนิมนต์ ผลิตรายการวา ไรตี้เกมที่มีชื่อว่า Jungle Adventure ในรูปแบบของ เกมและโปสเตอร์โฆษณานั้น มีความคล้ายคลึงกัน กับ Mohimwong ถึง 80 % เหมือนกันอย่างน่าอัศจรรย์เช่น นี้ บริษัทของคุณได้รับอนุญาตจากบริษัทเทคโนโลยี เซนซีจำกัดถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ?

ซักถามอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาอันแหลมคม เหมือนลูกศร ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยแรงกดดันไม่น้อย ไปกว่าผู้ชาย
เครื่องแบบที่ถูกตัดให้พอดีกับตัว ผมที่ยาวม้วนเป็น ลอนมัดไว้บนศีรษะ บวกกับความมุ่งมั่น บนติ่งหูอันขาว เนียนใสนั้นประดับด้วยต่างหูเพชรที่หายาก ใครก็ตาม ที่เห็นก็ไม่สามารถละสายตาไปได้

นิมนต์ ตัวแทนบริษัท เหี้ยมอี้ มีเดีย จำกัด ที่นั่งนิ่ง ไม่ไหวติง ในระยะเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เขาก็รู้สึกได้ถึง ความยอดเยี่ยม ร้ายกาจ ของทนายหญิงผู้นี้ หน้าผาก ของเขาเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา กังวลใจอยู่ไม่สุข หันไปดู ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องไม่ไกล

เจ้านายใหญ่ของเขา ธีมนต์ ประธานบริหาร เอส ซี กรุ๊ป

ข้อพิพาทนี้เป็นเขาที่ทำมันขึ้นมาเอง หากแพ้คดีล่ะก็ นั่นเขา……

“คุณนิมนต์ เชิญคุณตอบคำถามของฉันด้วยความ สัตย์จริงด้วยค่ะ นาราไม่เปิดโอกาสให้เขาหลบหลีก แม้แต่น้อย สายตาเยือกเย็นจ้องมองเขา ทะลุไปถึง หัวใจ

“ไม่ครับ ไม่มี!” คุณนิมนต์ขวมดคิ้วตอบกลับอย่างจน ปัญญา มองดูสีหน้าท่าทางนาราเต็มไปด้วยความมั่นใจ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

คำตอบของเขา ทำให้นาราพอใจเป็นอย่างมาก ริม ฝีปากสวยงาม ยกยิ้มเบาเบา พูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัด ขึ้นมาอีกครั้ง “บริษัท เจี้ยมอี้ มีเดีย จำกัด ผลิตและเปิดตัว ลอกเลียนแบบโหมดเกมของ Mohimwong โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และยังใช้ชื่อ “Mohimwong” จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อ เปิดรายการกิจกรรมออฟไลน์ …”

“ไม่ใช่นะ พวกเราก็แค่….. ด้วยความตื่นตัว นิมนต์ ไม่ เคารพกติกาของศาล ขัดคำพูดของนาราเสียงดัง

“โปรดอยู่ในความสงบ” ทนายฝ่ายโจทก์ดำเนินการ ปิดคดีต่อไป หัวหน้าผู้พิพากษาขมวดคิ้วเหลือบมอง นิมนต์อย่างไม่พอใจ

นารา ยิ้ม พูดต่อ “Mohimwong” เวอร์ชันภาษา อังกฤษ เครื่องหมายการค้าภาษาอังกฤษนี้ควรตกเป็น ของบริษัท เทคโนโลยีเซนซี จำกัด ด้วย ดังนั้น ทาง บริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัดฟ้องร้อง บริษัท เหี้ยมอี้ มีเดีย โดยใช้ชื่อ “Mohimwong” ทำการลอกเลียนรูป แบบของเกมโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และ ละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้าแข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรม ฉะนั้นแล้วจึงขอให้บริษัท เหี้ยมอี้ มีเดีย ชดใช้เป็น จํานวน 500 ล้านหยวน”

นาราพูดสรุปปิดคดีจบ สายตาของทุกคนในห้องมอง ไปที่เธอ ทั้งสรรเสริญยกย่อง ทั้งประหลาดใจ

ภายนอกที่ดูเย็นชา เผชิญหน้ากับทนายความระดับ เหรียญทองของประเทศ อย่างไม่เกรงกลัว ตามมา ด้วยเสียงปรบมือชื่นชม ที่ทุกคนได้เห็นการ ‘ต่อสู้’ ที่ สมบูรณ์แบบและยุติธรรม
แสดงให้เห็นถึง พลังแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง เสน่ห์ที่โดดเด่นในตัวของเธอ ดึงดูดให้คนหันมาจ้อง มองด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ

ทนายของฝ่ายจำเลย ขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟังคำพูด แต่ละประโยคของเธอมีเหตุและมีผล ลูบไปมาที่ขา แว่นตาของตัวเอง มองดูสายตาที่สงบนิ่ง ของเธอ ดู เหมือนว่าตัวเขาเองจะพ่ายแพ้เสียแล้ว

หันมองกลับไป ทางนายจ้างคุณธีมนต์ที่นั่งอยู่ไม่ไกล นั่งนิ่งไม่ขยับตั้งแต่เริ่มเปิดคดีจนถึงตอนนี้ ไม่แสดง อารมณ์ใดใดออกมา แต่กลิ่นอายที่เยือกเย็นบวกกับ ความสง่าของเขาไม่สามารถมองข้ามไปได้

ทนายฝ่ายจำเลย ยิ่งเครียดและกดดันมากขึ้น ทนไม่ ไหวเช็คดูนาราที่อยู่ไม่ไกลเป็นระยะ

ทั้งนาราและเขาจ้องหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร เธอ กระพริบตา พร้อมกับยิ้มมุมปากเยาะเย้ย ราวกับพูดว่า คุณแพ้แล้ว!

พลังและอำนาจก็เหมือนกับคลื่นที่อยู่ใต้น้ำ เมื่อเวลา แปรเปลี่ยนไปชัยชนะและความพ่ายแพ้ก็ค่อยค่อย ชัดเจนขึ้น

ผู้พิพากษาที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ประกาศด้วยเสียง สุขุม หนักแน่น “หลังจากสมาชิกผู้พิพากษาทุกคน ที่ ได้ประชุมหารือกันแล้วและตัดสินอยากเป็นเอกฉันท์ ว่า บริษัทเหี้ยมอี้ มีเดีย จำกัดได้ ละเมิดสิทธิในการจัดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้า และลอกเลียน รูปแบบเกมของบริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัด โดย ไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 47 กฎ ข้อ ที่ 1 บรรทัดที่ 6 ห้ามมิให้บริษัท เจี้ยมอี้ มีเดีย ใช้คำ ว่า “Mohimwong” และยุติกิจการเชิงพาณิชย์ทั้งหมด พร้อมชดเชยค่าเสียหายให้ทางเศรษฐกิจให้กับบริษัท เทคโนโลยีเซนซี จำกัด เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 310 ล้านหยวน

เสียงค้อนดังขึ้น “ปก ปก” สิ้นสุดคำตัดสินของศาล

ทุกคนถอนหายใจออกมา มองไปทาง นารา จนบาง คนเริ่ม กระซิบกระซาบ สอบถามข้อมูลส่วนตัวของเธอ

“ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกัน คำพูดคำจาช่างคมคายนัก ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนในวงการนักกฎหมาย

“หน้าใหม่ ได้ยินคนบริษัทเทคโนโลยีเซนซี เรียกเธอ ว่า ป๊อบปี้ ตามข้อมูลบอกว่าเธอเพิ่งบินกลับมาจากต่าง ประเทศ”

ป๊อบปี้ นารา!

ธีมนต์ จับจ้องไปทางหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล หายไป นาน 5 ปี ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว

ตัวแทนของบริษัท เทคโนโลยีเซนซี จำกัดที่ได้รับชัยชนะ มีสีหน้าที่รอยยิ้มเต็มเปี่ยม ดีใจจนปิดไม่ มิด เดินเข้ามา แสดงความขอบคุณนาราอย่างจริงใจ “คุณ ป๊อบปี้ ขอบคุณมากนะครับที่ยอมบินกลับมาจาก นิวยอร์กเพื่อนำชัยชนะและความยุติธรรมกลับคืนมาให้ บริษัทพวกเรา

“คุณก็พูดเกินไป ฉันไม่ได้ทำแล้วไม่หวังผล ค่า ทนายความของฉันจะเรียกเก็บไม่ให้ขาดสักบาทเดียว น้ำเสียงที่ไพเราะ ดวงตาที่เยือกเย็นสงบนิ่งของเธอ ดู แล้วมีเสน่ห์ยิ่งนัก

“คุณ ป๊อบปี้ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เงินค่าทนายความ ของคุณผมกลับไปถึงบริษัทแล้วจะให้ทางบัญชีจัดการ โอนเข้าบัญชีของคุณทันทีเลยครับ”

พักนึง ก็มีนามบัตรบรอนทองปรากฏขึ้นที่ตรงหน้า ของเธอ ขณะที่เธอกำลังเก็บเอกสารอยู่ก็หยุดชะงักไป ชั่วครู่ กวาดสายตามองชื่อบนนามบัตรแผ่นนั้น ธีมนต์

มือเรียวยาวที่ถือนามบัตร ขาวจนมองเห็นกระดูก ชัดเจน พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยดังขึ้นข้าง หูของเธอ “คุณป๊อบปี้ ยินดีด้วยนะครับ”

“บุณวัตน์ เก็บของเสร็จยัง” นาราเลือกที่จะเมินเฉย ถามผู้ช่วยเสียงเรียบ

บุณวัตน์ เหลือบมองไปยังชายตรงหน้า “เสร็จ เรียบร้อยแล้วครับ”
“งั้นไปกัน” นาราหยิบกระเป๋าเอกสารสำนักงานขึ้นมา หันหลังกลับเดินไปอย่างรวดเร็ว บุญวัตณ์เดินตามเธอ ออกไปอย่าไม่รอช้า

ธีมนต์ยกยิ้มมุมปาก ดึงนามบัตรเก็บไว้ จ้องมองตาม หลังสวยงามของนารา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ