ตอนที่ 73-5 สถานะอนุคนโปรดและชะตากรรม
พอตื่น ก็ยิ่งหิว อวิ๋นหว่านเฟยหิวจนท้องกิ่วท้องแขวน ตะโกน เรียก หญิงไปหลายครั้ง ทว่าไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม
ความมืดค่อยๆ คลี่คลุม
ไม่ถูกต้อง ดูแปลกๆ อวิ๋นหว่านเฟยลุกพรวดขึ้นยืน
อยู่ในห้องมาทั้งวัน ไม่มีบ่าวมาดูแลก็แล้วกันไป แต่ทำไม ด้านนอกไม่มีเสียงความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย อย่างไรที่นี่ก็ เป็นจวนโหว ต้องมีสาวใช้เดินไปเดินมาอยู่บ้าง
จึงย่องเบาๆ ไปที่ประตู แล้วใช้แรงเปิดกลอนประตูออก
พอประตูเปิดออก ม่านราตรีก็คลี่คลุมไปทั้งสี่ทิศแล้ว ค่ำคืนอันยาวนานได้เริ่มต้นขึ้น
อวิ๋นหว่านเฟยเพิ่งตามองขณะยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน
นางยืนตะลึงชั่วขณะ จากนั้นก็วิ่งออกไปยังลานด้านหน้าราวกับ คนบ้า ก่อนหันมองรอบๆ อีกครั้ง
ตอนคบกับทรงไท่ นางเคยไปที่เรือนของเขา แต่ที่นี่ ไม่ใช่เรือนหลังนั้น ซึ่งไม่ใช่จวนกุยเพื่อโหว
ที่นี่คือที่ไหน
ด้านนอกยิ่งเรียบง่ายกว่าด้านในอีก มีเพียงบ่อน้ำโดด เดี่ยวบ่อหนึ่ง ต้นไม้เก่าแก่ที่ใบไม้หนึ่งใบกำลังร่วงหล่นลง หัว มุมมีห้องเล็กๆ ที่สร้างจากดิน ดูไปแล้ว เหมือนเตาไฟเล็กๆ เตาหนึ่ง
“ที่นี่คือที่ไหน… มีใครอยู่บ้าง มีใครอยู่บ้าง…
อวิ๋นหว่านเฟย ใกล้สติแตกเต็มที่ นางมิได้ถูกบ่าวของจวน โหวรับเช้าจวนโหวหรอกหรือ มิใช่รอยู่หรงไม่อยู่ในห้องหอ หรอกหรือ…นี่คือสถานที่บ้าบออะไรกัน
ในที่สุด ประตูรั้วของเรือนน้อยก็เปิดออก มีเงาคนรีบวิ่ง เข้ามา พอใกล้ถึงตัวอวิ๋นหว่านเฟย ก็คุกเข่าลงร้องไห้ “คุณหนู รอง!”
เป็นปี้หยิง
“เจ้าไปไหนมา ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน… อนหว่านเฟยจ้องมองหญิงเขม็ง พลางจับไหล่นางเขย่าไปมา อย่างแรง
วันนี้พอเกี่ยวหยุด และหญิงเห็นเรือนน้อย ก็ตกใจ แม้ นางไม่เคยมาจวนโหว ก็มั่นใจว่าที่นี่ไม่ใช่จวนโหวอย่าง แน่นอน รู้สึกเหมือนบ้านของชาวบ้านที่เรียบง่ายหลังหนึ่ง แต่ ป้าจนพลันกวาดตามองมาอย่างดุดัน นางจึงไม่กล้าส่งเสียง เมื่อแต่งเข้าจวนโหว ก็คือคนของจวนโหว ไม่ว่าจะให้คุณหนู รองอยู่ตรงไหน นางก็เป็นเพียงสาวใช้ จะพูดอะไรได้
หลังจากที่นางกับป้าฉันพยุงคุณหนูรองเข้าห้องเรียบร้อย หญิงก็ถูกป้าจันลากตัวออกมาด้านนอก นางจึงรีบถามว่าเกิด เรื่องอะไรขึ้น ทำไมไม่เข้าจวนโหว ทำไมพามาที่นี่
ป้าจนกระหยิ่มยิ้มย่อง ชายตามองนาง แล้วว่า “แม้ไม่ได้ อยู่ในจวนโหว แต่ก็อยู่ไม่ไกลนักหรอก ในซอย
ข้างๆ จวนโหวนี่เอง ที่นี่เป็นเรือนที่แยกออกมาเดี่ยวๆ ไม่ ดี จะได้ไม่ต้องไปมาหาสู่กับคนในเรือนใหญ่ ใช้ชีวิตได้อย่าง อิสระ ทำอะไรไม่ต้องคอยดูสีหน้าใคร สบายดีออก ข้านะ ยัง อยากอยู่จะแย่!”
หญิงยืนตะลึง หมายความว่าอะไร นี่กำลังพูดว่าให้คุณ หนูรอง ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในเรือนหลังน้อย ข้างๆ จวนโหว ไม่สามารถเข้าจวน โหวหรือ
เช่นนี้จะต่างอะไรกับชู้นอกบ้าน
ชู้ มีสถานะต่ำกว่าอนุ อนุต้องผ่านพิธีการ มีคนเป็นสักขี พยาน สามารถอยู่กับสามีในเรือนใหญ่ได้อย่างเปิดเผย
หญิงสับสนชั่วขณะ “ป้าจีน คุณหนูรองบ้านบ่าวแต่งเข้า มาในฐานะอนุ เหตุใดจึงให้อยู่ข้างนอก ใครเป็นคนจัดการ เรื่องนี้ ท่านโหวรู้หรือไม่!
“เด็กโง่” ป้าจันเอ็ด “ยังจะมีใครจัดการได้อีก แต่งเข้ามา ในฐานะอนุแล้วไง กฎหมายข้อไหนบอกว่า อนุเหมือนพระพุทธ รูปทองคำ ต้องบูชาอยู่แต่ในบ้าน เลี้ยงไว้นอกบ้านไม่ได้บ้าง?คุณหนูรองก็อยู่ๆ ไปก่อน จวนโหว ใกล้แค่นี้เอง อีกไม่กี่วัน ถ้า ท่านโหวอารมณ์ดี ก็ไม่แน่ว่าจะเชิญคุณหนูรองให้กลับเข้าไป
หญิงยืนตัวแข็ง ป้าฉันจึงตบไหล่นาง “เจ้าก็อย่าได้คิดว่า จะตัวเองจะว่าง เมื่อเป็นสาวใช้ที่คุณหนูเจ้าพามาด้วย เจ้าก็คือ คนของจวนโหวเราแล้ว ต่อไปทุกวันต้องไปทำงานในห้องครัว จวนโหวแต่เช้าจรดเย็น พอฟ้ามืดถึงจะกลับมาที่นี่ได้ โดย สามารถนำอาหารที่พอสำหรับหนึ่งวันติดไม้ติดมือมาให้คุณหนู เจ้า”
นี่ นี่มิใช่เห็นคุณหนูรองเป็นหมูเป็นหมา แล้วเลี้ยงไว้นอก
บ้าน หญิงหายใจเอาอากาศเย็นเข้าปอด แต่ยังไม่ทันมี
ปฏิกิริยาตอบกลับ ก็ถูกป้าจันกับบ่าวอีกคนของจวนโหวลาก
ตัวไป
และนางก็เพิ่งเสร็จจากการทำงานในห้องครัวเล็กๆ ของ จวนโหวหนึ่งวันเต็มๆ ถึงได้กลับมา
อวิ๋นหว่านเฟยสำลักตั้งแต่ฟังหญิงเล่าแต่แรก จนพูดไม่ ออกไม่ครึ่งค่อนวัน พอเห็นที่แขนหญิงสะพายตะกร้าขาดๆ มาหนึ่งใบ ก็รีบเปิดออกดู เห็นกับข้าวที่กินเหลือไม่กี่จาน กับข้าวเปล่าอีกหนึ่งชาม ก็โมโหจนอยากจะปัดทิ้ง แต่ไม่ สามารถ…วันนี้ทั้งวัน ไม่มีอะไรตกถึงท้องตนเลย นี่จึงเป็น อาหารที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวของวันนี้ ถ้าปัดทิ้ง ตนก็ต้องหิ้ว ท้องอย่างโหยหิว
“คุณชายรองล่ะ เจ้าเห็นบ้างไหม เขาพูดอะไรบ้าง วันนี้… เขาไม่มาแล้วหรือ” นี่เป็นความหวังสุดท้าย
หญิงก้มหน้าลง “ตอนบ่าวเห็นคุณชายรองนั้น คุณชาย รองกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้หลังเรือน…นี่เพิ่งเป็นวันแรก ท่านโหวเพิ่งออกคำสั่ง แม้คุณชายรองอยากมาหาคุณหนูรอง
แค่ไหน ก็น่าจะให้เลยไปอีกสักสองสามวัน…
อนหว่านเฟยหัวเราะเย็นชา “ทิ้งให้ข้าอยู่ข้างนอกคน เดียวเช่นนี้ พวกเขาไม่กลัวว่าข้าจะหนีไป!” คำพูดนี้พอพูด ออกมา นางก็นิ่งไป น่าหัวต่อตัวเองจริงๆ
หน? เกรงว่าพวกเขาอยากให้นางหนีแทบไม่ทัน ก็แค่อ หนีไปคนเดียว สลัดหลุดจากตัวพอดี
ไหนเลยจะคาดคิดมาก่อนว่า คุณหนูรองจวนรองเจ้ากรม ที่สง่างามจะมีวันตกต่ำถึงเพียงนี้ อวิ๋นหว่านเฟยกล้ำกลืนฝืนทน ค่อยๆ ปิดตะกร้าลง ท่านโหวอาวุโสทรงนั่น คงเกลียดชัง ตนเองมากจริงๆ…
เนื่องจากท่านอาเข้ามาไกล่เกลี่ย ท่านโหวอาวุโสถูกบีบ จนอับจนหนทาง เมื่อเบื้องบนมีนโยบายมา เบื้องล่างก็มีวิธี รับมือ เมื่อให้ตำแหน่งอนุคนโปรดแล้ว ก็ต้องให้ตนได้ซึมซับ กับชะตากรรมของนอกบ้าน แม้แต่ประตูจวนโหวก็ไม่อนุญาต ให้เข้า
นิ้วมือที่เรียวยาวสั่นน้อยๆ อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา สุดท้ายนางก็เข้าใจแล้วว่า คำพูดของอวิ๋นหว่านชิ้นที่ว่า “ขอให้น้องมีชีวิตที่ดีในจวนโหวก็แล้วกัน” หมายความว่าอะไร
ด้านจวนสกุลอวิ๋น หงเขียนวิ่งวุ่นอยู่หลายวัน ดูทำเลไป หลายร้าน และนัดพบเดี่ยวเอ๋อร์นอกจานทุกวัน เพื่อบรรยาย รายละเอียดทําเลที่เล็งไว้ให้ฟังคร่าวๆ หรือไม่ก็เขียนจดหมาย ฝากไปให้อวิ๋นหวานชื่นโดยตรง
ซึ่งจากทําเลที่หงเขียนหามา อวิ๋นหวานชื่นก็เลือกได้ที่หนึ่ง หน้าร้านตั้งอยู่ริมถนนจนเป่าบริเวณกลางๆ ของถนนทั้ง สาย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีมาก
โดยถ้าอยู่หัวถนนจนเกินไป ลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่หยุดดู เพราะเพิ่งเดินเข้ามา แต่ถ้าอยู่ท้ายถนนจนเกินไป ลูกค้าหลาย คนก็คร้านที่จะเดินเข้าไปลึกๆ
ร้านนี้เดิมทีเป็นร้านขายของกินประเภทของแห้ง ทั้งซ้าย ขวาหน้าหลังล้วนไม่มีร้านขายเครื่องประทินผิว หรือพูดได้ว่า ไม่มีคู่แข่ง เจ้าของร้านเป็นคนชนบทรูปร่างอ้วน ตัดสินใจปิด กิจการกลับบ้านเกิด จึงต้องการโอนสิทธิการเช่าร้านอยู่พอดี
เพียงแต่เถ้าแก่อ้วนตั้งราคาขายไว้สูงมาก ให้ตาย อย่างไรก็ไม่ยอมลด ซึ่งเกินกว่างบประมาณที่อวิ๋นหวานชิ้นตั้ง เอาไว้ จึงได้แต่บอกให้หงเขียนช่วยต่อรองราคา
ซึ่งอวิ๋นหวานชื่นดูคนไม่ผิด ซึ่งเขียนคลุกคลีอยู่ในแวดวง บันเทิงมาก่อน จึงช่างเจรจาพาที ถ้าเป็นคนธรรมดามาซื้อหลายวันเข้า เถ้าแก่ก็คงคร้านที่จะฟังและคว้าไม้กวาดไล่ไปแต่ แรกแล้ว
แต่หงเขียนเป็นคนพูดเก่งและมีเสน่ห์ ทุกครั้งที่เถ้าแก่เห็น
นาง ก็จะอารมณ์ดี ต้อนรับนาง เชิญให้นั่งดื่มน้ำชา
แต่ไม่ว่าอย่างไร เถ้าแก่อ้วนก็ยังคงไม่ยอมลด
วันนี้ ซึ่งเขียนมาที่ถนนจิ้นเปาอีก แล้วตรงไปยังร้านเดิม ทันที บทพูดก็เตรียมมาแล้ว ขณะเดินเข้าร้านและกำลังคิดว่า วันนี้จะเจรจาอย่างไรนั้น เถ้าแก่อ้วนก็ไม่รอให้นางเอ่ยปาก โบกมือไหวๆ ก่อนพูดทำนองค่อนข้างเสียดาย
“แม่นาง ขออภัยด้วย เมื่อครูมีคนมาจองร้านแล้ว
หงเขียนสูดหายใจเข้า อวิ๋นหวานชิ้นถูกใจแต่ร้านนี้ร้าน เดียว ตอนนี้จึงแทบจะสิ้นหวัง แต่ต้องยึดดูอีกครั้ง
“เถ้าแก่ คนค้าขายกันทำไมทำกันแบบนี้ ข้าก็บอกท่าน แล้วว่า ข้าต้องการเช่าร้านจริงๆ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นคุยราคา มิเช่นนั้นก็คงไม่ไปๆ มาๆ ตั้งหลายวันหรอก แล้วทำไมกลับให้ คนอื่นมาตัดหน้าเล่า เมื่อวานข้ามาก็ไม่เห็นบอกสักคำ ทำไม ถึงให้คนอื่นจองเร็วขนาดนี้ ท่านไม่รักษาสัญญาเลย! ไม่ได้ ข้า มาก่อน ถ้าท่านต้องการเงินค่าจอง ข้าจะให้ทันที แต่ท่านต้อง ปฏิเสธคนคนนั้นก่อน
เถ้าแก่อ้วนไม่มีทางเลือกเช่นกัน จึงแบมือ
“แม่นาง สัญญาปากเปล่านะ นับเป็นอะไรได้ ก่อนหน้านี้เจ้าก็ไม่ได้ให้ค่าจองไว้ แต่เขาเป็นถึงข้าราชการ มาถึงก็ไม่พูด อะไรมาก ยืนตั๋วแลกเงินแบบมีเลขที่และตราสัญลักษณ์ให้ทันที ข้าข้าไม่สามารถปฏิเสธเงินน่ะ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ