ภารกิจลับจับใจชีค

ตอนที่ 5 เลขาส่วนตัว



ตอนที่ 5 เลขาส่วนตัว

มารีญาได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมอง แม้ในใจ อยากจะเห็นหน้าค่าตาของผู้เป็นเจ้าของตำหนักนี้เต็มที เพราะอีกฝ่ายจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายนับจากวินาทีนี้ เป็นต้นไป

“กระหม่อมนำข้าหลวงคนใหม่มารายงานตัวพ่ะย่ะค่ะ” ราทีฟเอ่ยพร้อมทั้งโค้งคำนับเจ้าชายที่กำลังนั่งทรงงาน อยู่บนโต๊ะ

ชีคหนุ่มวางปากกาแล้วเงยขึ้นมาอย่างช้า ๆ สายตาคม จับจ้องไปยังผู้มาใหม่ทั้งสอง คิ้วเข้มดกดำขมวดเข้าหา กันเพราะรู้สึกสะดุดตากับหนุ่มน้อยที่เอาแต่ก้มหน้ามอง พื้น แม้จะมองไม่ถนัดนักแต่พอดูออกว่าอีกฝ่ายมีเค้า ความงามเกินชายทั่วไป

“เรากำลังรอพอดี ขอบใจท่านมากที่พามาส่งด้วยตัวเอง เชิญนั่งก่อนสิ”

“กระหม่อมขอประทานอภัย พอดีมีธุระต้องไปทำต่อ แค่ มาส่งข้าหลวงสองคนนี้ให้เจ้าชายแล้วก็จะกลับพ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าเช่นนั้นก็ขอบใจท่านมาก เชิญไปทำธุระต่อเถอะ ทางนี้เราจัดการเอง”

“ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอทูลลา” ราทีฟโค้งคำนับเจ้าชาย หนุ่มหล่อ แล้วหันมามองคนทั้งสอง “ตั้งใจทำงานล่ะ อย่า ให้เจ้าชายทรงต้องเคืองพระทัยเป็นอันขาด

“รับทราบครับคุณราทีฟ” มารีญาตอบ

นายข้าหลวงใหญ่โค้งคำนับชีคหนุ่มอีกครั้ง แล้วเดิน ออกไปอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้มารีญาและราชิดต้อง เผชิญความกดดันเพียงลำพัง

“เงยหน้าขึ้นมาซิ” เสียงเข้มออกคำสั่ง ขณะนั่งไขว่ห้าง อยู่บนเก้าอี้ มือหนายกขึ้นมาลูบปลายคางราวกับกำลัง คิดบางอย่างอยู่ในใจ

ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ แม้จะยังสวมผ้าคลุม ศีรษะอยู่แต่ทว่าชีคหนุ่มหล่อกลับเห็นดวงหน้าคนทั้งสอง ได้อย่างชัดเจน ความสวยเกินชายทั่วไปของมารีญาส่งผลให้เขาถึงกับตะลึง กะพริบตาซ้ำ ๆ เพื่อเพ่งมอง ให้ถนัดว่าหนุ่มน้อยผู้นี้เป็นชายหรือหญิงกันแน่

“แนะนำตัวให้ฉันรู้จักสั้น ๆ ทีละคน เริ่มจากทางซ้ายมือ ก่อน”

“กระหม่อมชื่อราชิด มาจากเมืองมุนเดาะห์ เรียนจบด้าน คอมพิวเตอร์พ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อม อมาร์ติน มาจากประเทศไทย เรียนจบด้าน ภาษาอาหรับพ่ะย่ะค่ะ”

“ประเทศไทยงั้นเหรอ เป็นคนไทยแท้หรือไม่” ชีคหนุ่ม เอ่ยถามเพื่อคลายความสงสัย เพราะใบหน้างามนั้นไม่ เหมือนคนไทยแท้ที่เขาเคยเห็นมาก่อน

“กระหม่อมมีแม่เป็นชาวอัลดาฮุสพ่ะย่ะค่ะ”

“คิดไว้ไม่มีผิด” เจ้าชายหนุ่มหล่อเปรยออกมาเบา ๆ

มารีญาอยากเห็นใบหน้าของชายที่กำลังสนทนาด้วย เหลือเกิน แต่ทว่าที่นี่มีกฎห้ามจ้องตากับเชื้อพระวงศ์ทุก พระองค์หากไม่มีความจำเป็น ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าหล่อนจะ เงยหน้าขึ้นมาแล้วแต่กลับวางสายตาไว้ที่ปลายเท้า กลัว ว่าจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
“ราชิด!”

คนถูกเอ่ยชื่อสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เพราะหลังจาก ที่เงียบไปพักใหญ่ จู่ ๆ เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ก็เอ่ยเรียกชื่อ

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ฉันจะให้นายไปทำงานในห้องควบคุมระบบของตำหนัก หากมีอะไรเพิ่มเติมจะสั่งอีกทีละกัน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ออกไปหน้าห้องแล้วบอกให้องครักษ์ที่ชื่อฮารีซพาไป ยังห้องควบคุมระบบตอนนี้เลย”

“พ่ะย่ะค่ะ” ราชิดโค้งคำนับแล้วหันไปมองหน้าเพื่อน ส่ง ซิกเป็นการบอกลาจากนั้นเดินถอยหลังสองสามก้าว แล้ว หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง

ตอนนี้มีเพียงความเงียบงัน แม้แอร์ภายในห้องจะเย็น ฉ่ำ แต่ทว่ากลับมีเม็ดเหงื่อไหลลงผ่านแก้มขาวเนียนเป็น ระยะ เจ้าหล่อนกำลังลุ้นว่าตัวเองจะได้ทำงานในตำแหน่ง อะไร และกังวลว่าชีคหนุ่มคนนี้จะมีนิสัยเป็นอย่างไรบ้าง จะร้ายกาจเหมือนข่าวลือที่ได้ยินมาไหม
ช็คหนุ่มเดินตรงเข้ามาใกล้ สายตาคมจับจ้องมองร่าง บอบบางในชุดกันดูร่าตัวโคร่งอย่างจับผิด ความสูงผิด แปลกจากชายหนุ่มที่เคยเห็นทั่วไป ทำให้ชายหนุ่มต้อง ก้มมองคนที่ยืนอยู่ รับรู้ได้ถึงความประหม่า เสียงลม หายใจดังแรงขึ้น แถมยังตัวสั่นราวกับเจ้าเข้าอีกต่างหาก

“รูปร่างบอบบางอย่างนายควรจะทำงานอะไรที่มันสบาย ๆ ไม่ต้องใช้แรงอะไรมาก

“จะ…จะให้กระหม่อมทำอะไรงั้นเหรอ” มารีญาพยายาม ควบคุมตัวเองไม่ให้ประหม่า แต่กลับทำไม่ได้ กลิ่น น้ำหอมที่หนุ่มอาหรับชอบใช้โชยเตะจมูกจนต้องกลั้น หายใจ เธอเกลียดกลิ่นนี้เป็นที่สุด

“เลขาส่วนตัวฉันไง”

“หา! เลขาส่วนตัวงั้นเหรอ” มันเกินความคาดหมายเมื่อ ได้ทำงานในตำแหน่งนี้ แล้วอย่างนี้เธอจะมีเวลาตามหา เบาะแสของมารดาได้อย่างไร คงต้องตัวติดกับเจ้าชาย หนุ่มคนนี้ตลอดเวลาเป็นแน่

“ใช่! มีอะไรข้องใจงั้นเหรอ”

“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด”
“ถ้าเช่นนั้นเดินตามฉันมา

อัสซามาสเดินนำออกไปจากห้องทำงานโดยมีเลขาส่วน ตัวคนใหม่ตามมาติด ๆ มุ่งหน้าไปยังห้อง ๆ หนึ่งซึ่งต้อง เดินขึ้นไปอีกชั้น

ระหว่างทางมารีญาก็อดไม่ได้ที่จะสำรวจมองสองข้าง ทาง เพื่อชมความงดงามของตำหนักแห่งนี้ และเป็น เหมือนทุกครั้งที่มองไปทางไหนก็พบแต่ทองคำและ อัญมณีล้ำค่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ