ภรรยาจอมป่วน สะดุดรักสามีอป้อ

บทที่ 4 สวรรค์บนดิน



บทที่ 4 สวรรค์บนดิน

“ข้าบอกเจ้า อย่าคิดว่าข้าเป็นฝ่ายรุกก่อนแล้วจะ สามารถยอมรับเจ้าได้นะ! ข้าแม่งไม่ใช่ภรรยาของเจ้า วัน ข้างหน้าเจ้าอย่าเรียก ข้าจะกระทืบเจ้า!!

11 ” ริมฝีปากของเหลิ่งเชียนเย่ว์ที่อยู่บนเตียง ขยับอีกครั้ง เหมือนเป็นภรรยาตัวน้อยๆที่ต้องทนกับ อารมณ์

หมัดของอวี้หนานกำแน่น รู้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า นั้นไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว ทว่านางไม่มีทางยอมรับเขา ต้องไม่มี ทางเป็นไปแน่นอน เพราะว่า……..

เขาเหมือนคนๆนั้นมาก

“ภรร….……….….

นัยน์ตาเลือดเย็นของนางถลึง เขาจึงได้กลีบเก็บคำ พูดด้านหลังลงไปในท้อง

ก๊อกๆๆ!

ข้างนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ซื่อจื่อเตี้ยนเซี่ยะ ชื่อจื่อเฟยเตี้ยนเซี่ยะ นี่ก็ใกล้ เที่ยงแล้ว ถึงเวลาไปน้อมทำความเคารพหวังเฟยแล้ว เพคะ” เสียงอ่อนหวานและขับของบางลำบ้าดังขึ้น
อวหนานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วนึกถึงเมื่อคืนที่ ฮองเฮาคนนั้นและพระชายาคางอ๋องคิดแผนการจัดการ นาง นางจึงเอ่ยพูดด้วยเสียงอดกลั้น “รู้แล้วน่ะ”

พวกเจ้ารักใคร่และเอ็นดูเหมิ่งเชียนเย่ว์ที่สุดใช่หรือ ไม่? ดี งั้นข้าจะแก้แค้นจากตัวของเขาก่อน!

จู่ๆก็ผิดปกติไป อวี้หนานยิ้ม ท่าทางเปลี่ยนไปมาก มองจนเหลิ่งเชียเยี่ยนทำนัยน์ตาเคล้าด้วยป้องกันตัว

“มา สามีที่รัก ภรรยาใส่เสื้อผ้าให้เจ้า”

” เหลิ่งเชียนเย่ว์ปล่อยให้นางดึงอย่างเชื่อฟัง แล้วปล่อยให้นางกลั่นแกล้ง

นางกํานัลนอกประตูได้ยินเสียงแบบนี้ส่งมาจากใน เรือน แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดยิ้มตรงมุมปาก พลันเดินไป ประจบพระชายาคางอ๋อง

ลมกลางคืนที่พัดโชยมาเบาๆ ไม้ไผ่ส่ายไปส่ายมา ใต้ แสงเทียน เป็นเงาไม้ไผ่ที่มีเสน่ห์

รองเท้าบูทยาวสีขาวเงินกำลังเหยียบอยู่บนเงาของ ไม้ไผ่ ชดคลมขาวสีพระจันทร์เสี้ยวกำลังร่ายรำไปตามลมตอนกลางคืน

ชายที่มีเรือนร่างสูงยาวกำลังเผชิญหน้ากับแสง จันทรา หน้ากากจิ้งจอกที่ทำจากเงินเปล่งประกายแสงอัน หรูหรา ในมือของเขามีขลุ่ยหนึ่งอัน แล้วกำลังใช้ปลายมือ จับเบาๆ ทำให้เกิดเสียงอันเสนาะหูในระดับต่างๆ

“นายท่าน” จู่ๆข้างหลังของเขาก็มีเรือนร่างสีดำ โผล่ออกกมา แล้วก้มหัวพลางเรียกด้วยความเคารพ

นิ้วมือหยุดชะงักลง เสียงขลุ่ยก็หยุดลงด้วย

“นายท่าน ผ่านไปสองวันเหมือนแค่นิสัยที่เปลี่ยนไป

มาก”

“อืม” เขาตอบกลับด้วยเสียงเรียบ กลับไม่ได้พูด อะไรต่อ

“นายท่าน ต่อไปล่ะ?”

“ต่อ” คำพูดเดียวนั้นแผ่วเบามาก ถึงแม้จะพูดด้วย เสียงเบา กลับมีพลังอย่างมาก ไม่นาน เรือนร่างที่ไร้เสียง นั้นก็ถอยไป แล้วมีลมพัดผ่าน ตรงส่วนลึกของป่าต้นท้อ และเงาไม้ไผ่ที่ขยับไปมา……
เสื้อตัวในสีขาวโคลน และกางเกงตัวในสีขาวบริสุทธิ์ ตัวนั้น บนเท้าของเขา มีถุงเท้าข้อยาวคู่หนึ่งที่ดูใส่สบาย มาก เหลิ่งเชียนเย่ว์ทำสีหน้าที่ทำตัวไม่ถูกแล้วกอดหมอน หนึ่งใบและผมห่มพลางยืนอยู่บนพื้นหินตาหลีสีนิล

“ภรรยา……” เขาเรียกด้วยเสียงอ่อนปวกเปียก เท้า ทั้งสองข้างต่างก็เหยียบอยู่บนเท้าของต่างฝ่าย แล้วกำลัง มองอวี้หนานที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงนุ่ม และไม่รู้ว่ากำลัง วาดและเขียนอะไรด้วยท่าทางที่น่าสงสาร แค่เห็นเธอเงย หน้าอย่างเกียจคร้าน ทำให้เขาตกใจจนก้มหน้าลงต่ำ แล้ว ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

“ทำไมเจ้าถึงจะไม่ออกไปอีก?” อวี้หนานรู้สึกทนไม่ ไหว ไม่รู้ว่าจะเตือนไอ้หมอนี่ไปนอนในห้องทรงอักษรยัง ไง?

“ภรร……ภรรยาบอกเองว่าวันข้างหน้าพวกเรานอน ด้วยกัน” เหลิ่งเชียนเย่ว์ทำหน้าแดง

แล้วจับจ้อองไปยังอวี้หนาน เหลิ่งเชียนเย่ว์จึงปู ที่นอนบนพื้นด้วยความไม่พอใจ

ในเรือน แสงเทียนสลัวถูกลมพัดจนส่ายไปส่ายมา

“นี่ เจ้าซื่อบื้อ” อวี้หนานเดินไปตรงข้างกายเหลิ่งเชียนเย่ว์ แล้วเรียกเขาด้วยเสียงต่ำ นี่สังเกตเห็นว่าเขา หลับไปแล้ว มืออันเรียวยาวกอดผ้าห่มเอาไว้ใบหน้าน่า เกลียดน่าชังและหล่อเหลานั้นกำลังมุดอยู่ใต้ผ้าห่ม

ดั่งที่คาด เจ้าชื่อบื้อไม่มีผิด!

อวหนานถีบแขนของเหลิ่งเชียนเย่ว์เบาๆ แล้วพึมพำ ขึ้น เจ้าหมอนั่นก็พึมพำเสียงเดียว ใบหน้ามุดเข้าไปใน ผ้าห่ม

ท่าทางตอนนอนนั้นน่าเกลียน่าชัง เหมือนเป็นหนุ่ม โตที่เชื่อฟัง

น่าเสียดาย……

คนๆนี้ทำให้นางนึกถึงคนๆหนึ่ง

ฉีกหนึ่งเสียง อวี้หนานก็คลุมเสื้อคลุมแล้วเดินไปตรง

ประตู

ในกลางดึกอันเงียบสงบ ลมแรงเล็กน้อย กิ่งไม้ถูกลม พัดจนเกิดเสียงซู่ๆ อวี้หนานกระชับเสื้อคลุมบนเรือนร่าง นัยน์ตาเคล้าเหลือบตาไปรอบๆ เธอรู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองน่าจะ มองไม่ผิด ข้างนอกประตู……
เหมือนจะมีคนนี่?

โจร? หรือว่ากำลังแอบมองนางกับเหลิ่งเชียนเยี่ย? งั้นก็คงจะบ้าระห่ำเกินไปหรือเปล่า?

สติของบอกนางว่าต้องรีบกลับเรือน ทว่าไม่รู้ทำไม นางกลับอยากไล่ตามออกไป

ตอนกลางคืน เป็นตอนกลางดึกจริงๆ

ดั่งที่อวหนานคาดเดา ประตูวังหลวงส่วนมากก็ถูกปิด ให้แน่น นางยังคงเหมือนตอนกลางวันที่เดินๆหยุดๆตลอด ทาง นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ แล้วมองไปรอบทิศ

แล้วกำลังเดินอยู่บนถนนใหญ่หินสีนิลอย่างช้าๆ บน ถนนเส้นเล็กที่เงียบกริบ ถนนนี้ไม่รู้ว่าสามารถทะลุไปทาง ไหน กลับได้ยินเสียงน้ำไหล

สวนพฤกษา? หรือว่า…….

จากนั้นก็เห็นตรงหน้าน่าตกตะลึงมาก นัยน์ตาของ นางถลึงโตทันที

……..นี่มันสวรรค์บนดินหรือ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ