ตอนที่ 7 ความขัดแย้งระหว่างพ่อลูก
หลังจากได้ยินแบบนี้ ฉันเยี่ยก็หัวเราะอยู่ในใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้า เช็ดเช็ดอีมานมนาน ตอนนี้คิดถึงเรื่องของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว สินะ
“ถงถง เธอเป็นผู้หญิงนะ จะมาทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!” ตู้โป๊ เหวินชี้แจงเหตุผลเรื่องเพศอย่างชัดเจน “วันนี้เธอต้องไปกับฉัน
พูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปจับแขนของเฉียวอวถึง “พวกเราไปกัน เถอะ”
“โปเหวิน!”
“โอ๊ย!” ตู้โป๋เหวินกล้ำกลืนความเจ็บปวด
เสี่ยวจิ่นกัดแขนของตู้โป๊เหวินอย่างแรงและไม่มีทีท่าว่าจะ
ปล่อย
เฉียวอวถงตกตะลึง ในที่สุดก็รีบอุ้มเสี่ยวจีนออกไป แต่แขน ของตู้โปเหวินเลือดออกซิบๆเสียแล้ว
“คุณพาเขากลับไปที่ห้อง!” เธอพยายามใช้น้ำเสียงที่เต็มไป ด้วยความอดทนแม้จะโกรธแสนโกรธ! “หยาบคายเกินไปแล้ว!”
“ฉันจะไปเอากล่องยา” แผลที่แขนของตู้โป๋เหวิน ทำให้เธอ รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ เพราะเธอเองก็มีส่วนที่ทำให้เพื่อนสนิทของเธอ ได้รับบาดเจ็บ
ตู้โปเหวินหยุดเธอเอาไว้ “ไม่ต้องหรอกถงถง เธอตัดสินใจ
แบบนี้จริงๆ ใช่ไหม? พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าเขาใจสลายเพียงใด เมื่อต้องเห็นเฉียวอ ถงอยู่กับผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง เพราะเขายังมีลูก
ติดมาด้วย
เขายอมรับว่า รูปร่างหน้าตาของฉันลี่เยี่ยนั้นเหนือกว่า แต่นี่ ไม่อาจปิดบังความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถมอบชีวิตที่มีสุขสบาย ให้แก่เฉียวองได้ แถมตอนนี้ยังลำบากจนต้องมาขออาศัยอยู่ ในบ้านของเฉียวองด้วยซ้ำ
“อืม ฉันคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ สามารถใช้ฉัน ลี่เยี่ยหลอกตระกูลฉิน และยังได้ดูแลเสี่ยวจีนด้วย
โป๊เหวินพยักหน้า “ได้ แต่คุณต้องดูแลตัวเองให้ดี แล้วถ้ามี
อะไรเกิดขึ้นต้องรีบติดต่อฉันทันที”
เขาดูเหมือนจะตัดสินใจได้แล้ว ริมฝีปากของเขายกโค้งขึ้น อย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก
เสี่ยวจีนอารมณ์ไม่ดี
เฉียวอวถงเองก็ตระหนักได้ว่าน้ำเสียงของเธอออกจะแข็งไป หน่อยสําหรับเด็ก
“ขอโทษนะ ตอนนั้นสถานการณ์มันพาไป”
เพิ่งทำข้อตกลงกับฉินลี่เยี่ยไปเมื่อวานนี้เอง วันนี้ก็มาทำพลาด เองเสียแล้ว
“อืม”
เฉียวอวถงรับประกันความจริงใจของเธออย่างแน่นอน แต่ค่ ตอบของเขาทําให้เธอไม่สบายใจ อย่างน้อยก็ควรตอบรับอย่าง สุภาพไม่ใช่หรือ? เขาทำแบบนี้ช่างไม่เหมาะสมเอาเสียเลย
ไม่ถูกต้องตามหลักจิตวิทยาเลยจริงๆ
“ฉันจะไปดูเด็ก”
แต่คราวนี้เธอไม่สามารถเปิดประตูได้
“เสี่ยวจิ๋นเปิดประตูหน่อยสิ แม่มีอะไรจะคุยกับหนู!” เฉียวอวถึงพูด แต่ว่าใครก็ไม่ได้รับสิทธิที่จะเข้าประตูไป
ฉันเยี่ได้ยินเข้าก็ร้อนใจ “คุณว่าอะไรนะ! ตอนนี้เสี่ยวจีนยัง ตัวเองอยู่ในห้องงั้นเหรอ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นั่นก็เป็นเพราะคุณไม่ ดูแลเขาให้ดี!”
ไม่น่าเชื่อว่าฉันเยี่ยจะย้อนมากล่าวหาเธออีก
“ปล่อยให้เขาใจเย็นลงก่อนแล้วกัน ส่วนพวกเราก็มาคุยกัน หน่อย”
เฉียวอวถงบอกว่าเธอมั่นใจว่าเสี่ยวจีนจะไม่เป็นอะไร แต่จะให้ เขาพูดยังไง เขาเลี้ยงลูกชายของเขามาสามปีแล้ว จะไม่ให้เขา กังวลได้อย่างไร?
“แต่…” เฉียวอวถงยังลังเล ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกเสียใจกับเรื่อง ที่เกิดขึ้น
ในห้องนั่งเล่น เจียวองไม่มีสมาธิเลยสักนิด ความสนใจ ทั้งหมดของเธออยู่ที่เสี่ยวจีน
ฉินลี่เยี่ยหรี่ดวงตาที่ทรงเสน่ห์มองดูเฉียวอางที่ใจไม่อยู่กับ เนื้อกับตัวอย่างชั่วร้าย น่าเสียดายที่เฉียวอวถึงไม่ทันได้สังเกต เห็น
“พวกเรามาแต่งงานกันเถอะ”
“อะไรนะ?” เฉียวอวี่ถงคิดว่าเธอหูแว่วไปเอง เพราะการ แต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“พวกเรามาแต่งงานกัน!!
“ไม่มีทาง!”
“คิดซะว่าผมไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”
การสนทนาระหว่างคนสองคนจึงสิ้นสุดเพียงเท่านี้
เฉียวอวถุงเดินไปหน้าประตูห้องของเสี่ยวจีนอีกครั้ง
เธอนั่งลงที่หน้าประตู ท่าเหมือนพูดอยู่กับตัวเอง แต่นั่นไม่จริง เลย เพราะเสี่ยวจีนได้ยินสิ่งที่เธอพูด ฉันเยี่ยเองก็ได้ยินเช่นกัน
แต่ประตูยังคงปิดอยู่
ตกเย็น คนทั้งคู่ก็ไม่มีความอยากอาหาร
“เสี่ยวจีนยังไม่ออกมากินข้าวอีกเหรอ? ทำไงดี? เขาจะหิวมาก มั้ย?” เฉียวองถูกกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่ออกมา อย่างสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะได้อยู่กับเสี่ยวจีนแค่ช่วงระยะเวลาไม่ ถึงสัปดาห์ก็ตาม คนอย่างคุณยังนับได้ว่าเป็นพ่อคนได้อยู่หรือ ไง!”
“ผมบอกแล้วว่าเขาจะออกมาเมื่อเขาใจเย็นลง”
เสี่ยวจีนมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุของเขา ถ้าเขาเปราะ บางมากขนาดนั้นคงไม่ใช่ลูกชายของฉันเยี่ย
เฉียวอวี่ถงพูดไม่ออก
“เอาเถอะ คุณไปพักที่ห้องของผมก่อนแล้วกัน ผมจะนั่งรออยู่ที่ ห้องนั่งเล่น ถ้าเสี่ยวจีนหิว ผมจะได้ทำอะไรให้เขากิน”
แม้ว่าเธอจะทำเป็นแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น แต่เดี๋ยวจีนก็ ชอบมันมาก ความรู้สึกภาคภูมิใจแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆก็ สามารถทำให้เกิดขึ้นได้
ฉินเยี่ยยืนนิ่ง เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ
มีเหตุผลตั้งมากมายที่จะไม่ให้พวกเขาสองพ่อลูกมายุ่งเกี่ยว กับเธอ แต่ตอนนี้เธอกลับมานั่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเสี่ยว
“คุณนั่นแหละไปพัก พรุ่งนี้ฉันเข้ากะบ่าย คืนนี้คุณไปพักซะ เถอะ ถ้ายังไม่อยากให้เจ้านายไล่คุณออก!!
พูดจบ เธอก็ผลักฉินลี่เยี่ยเข้าไปในห้องของเธอ
ที่จริงแล้ว ในห้องของเธอก็ไม่ได้มีความลับอะไร เพียงแต่มัน รกเท่านั้นแหละ เธอจึงรีบออกไป จะได้ไม่อารมณ์เสียเมื่อมอง เห็นมัน
หลักจากที่พลิกหนังสืออ่านไปได้ไม่กี่หน้าอย่างเบื่อหน่ายแล้ว ครู่หนึ่งเดียวอางก็เผลอหลับไป หนังสือเล่มนี้ช่างมีมนต์ขลัง เพราะตั้งแต่ตอนที่ซื้อมาจนถึงตอนนี้ เธอก็อ่านได้ไม่เคยเกินยี่สิบ หน้าเท่านั้น ทำไมถึงรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตทุกครั้งที่อ่านมันก็ ไม่รู้
ตกดึก
ประตูห้องนอนของเสี่ยวจีนก็ถูกเปิดออก
ร่างเล็ก ๆ ยืนอยู่ที่ประตู จ้องมองเฉียวอางที่กำลังขดตัวอยู่ บนโซฟา
ด้านหลังของเขามีฉินลี่เยี่ยยืนอยู่
“ป่า พวกเราจะพาหม่ามกลับบ้านมั้ย?”
“ไม่!” เพราะเฉียวอวี่ถงปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขาอย่างไม่ ไว้หน้า เขาจะต้องตอบแทนเธออย่างสาสม
คนตัวน้อยอารมณ์เสียมากขึ้น เบ้ปาก “ทำไมล่ะ?”
“เพราะพ่อไม่ชอบเธอ!”
“แต่เสี่ยวจิ๋นชอบหม่ามี้!” เสียงของเสี่ยวจิ่นถึงแม้จะไม่ได้ดัง มากนัก แต่เขาก็ตัดสินใจแล้ว!
“ผมจะอยู่ที่นี่ ถ้าป่าปีไม่พาหม่ามีกลับบ้าน ป่าปีก็กลับไปคน เดียวละกัน!”
ฉินลี่เยี่ยพยักหน้า “ลูกชายฉันเรียนรู้ที่จะข่มขู่ฉันแล้วสินะ!” เสี่ยวจิ่นยืดอกขึ้น! “ผมไม่ได้ข่มขู่ ผมพูดจริง!”
“เสี่ยวจีน! หนูออกมาแล้วเหรอ หิวรึเปล่า? แม่จะต้มบะหมีกึ่ง สําเร็จรูปให้กินนะ!”
เฉียวอวถุงกำลังสลึมสลือครึ่งหลับครึ่งตื่น จึงไม่ทันได้สังเกต ว่าฉันลี่เยี่ยก็ยืนอยู่ด้วย!
“เฉียวอวี่ถง!”
“อ๊ะ!” พอได้ยินเสียงตะโกนของฉันเยี่ย ความง่วงงุน อันตรธานหายไปในทันที
เมื่อเห็นเฉียวอวถึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบเช่นนั้น ฉินเยี่ยก็โกรธ มากขึ้น
“ไม่ใช่สิ เสี่ยวจิ่น เดี๋ยวแม่ทำอาหารให้กินนะ”
“ผมจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!” เสี่ยวจีนจ้องหน้าฉันเขี่ยแล้ว ตะโกนเสริมว่า “หม่ามี้ ผมจะเอาแบบใส่ไข่สองฟอง!”
เฉียวอวถงลอบสังเกตสีหน้าของฉันเยี่ยทางหางตา ไม่รู้ว่า คําขอของเสี่ยวจิ่นจะได้รับอนุญาตหรือไม่?
“ตกลงว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะ!”
สีหน้าของฉันลี่เยี่ยปกคลุมได้ด้วยหมอกควันดูแย่ลงเรื่อยๆ”ห้ามกินอาหารขยะ!”
“ผมจะกิน!”
เฉียวอวถึงไม่รู้เลยสักนิดว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้สองพ่อลูก ทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้
เกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันนอนอยู่กันนะ? เฉียวอวถึงกุมขมับ พยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแต่ก็นึกอะไรไม่ออกเลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ