พิชิตใจนายปีศาจ-2

ตอนที่ 1 การบุกรุกของชายแปลกหน้า



ตอนที่ 1 การบุกรุกของชายแปลกหน้า

ตอนที่ 1 การบุกรุกของชายแปลกหน้า

“แต่งงาน”

จันวิภาตกตะลึง สายตาถลึงมองไปยังสตรีวัยกลางคนที่ ร่างกายสวมใส่ชุดกี่เพ้าอันหรูหราอยู่ต่อหน้า แม่เลี้ยงของ เธอ….มะลิวัลย์

“ใช่แล้ว” มะลิวัลย์พูดอย่างน่าเบื่อหน่าย “พ่อของเธอเห็น ว่าอายุอานามเธอก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว น่าจะต้องหาคู่แต่งงานที่ เหมาะสมได้แล้ว”

“ให้ฉันหาคู่แต่งงานปีนี้ฉันพึ่งจะอายุยี่สิบปีเต็มเองนะ” จัน วิภาร้องตระโกน คาดไม่ถึงเลยว่าตนเองที่พึ่งจะได้กลับบ้าน มานั้น จะถูกมะลิวัลย์มอบ “ของขวัญ” ให้ชิ้นใหญ่ขนาดนี้เสีย แล้ว

ตกลงเธอมีแผนอะไรกันอยู่

จันวิภาพูดถากถาง “งั้นน้ามะลิกำลังพูดว่า พ่อหาคนแบบไหน ให้ฉันหรือควรจะพูดว่า น้ามะลิช่วยหาคนแบบไหนให้ฉันกัน”

มะลิวัลย์ยิ้มแล้วพูดอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่กลัวที่จะบอกเธอ หรอก คู่หมั้นของเธอก็คือประธานของบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดท่านสุมิตรด้วยฐานะของพวกเรา ที่ได้แต่งงานเข้าบ้านวิบูลย์ ธนภัณฑ์ได้ มันเป็นเกียรติของเรานี่นะ พ่อของเธอต้องใช้ ความพยายามมากมายขนาดไหนถึงจะสามารถตะกายขึ้นไป หาคู่แต่งงานอย่างนี้ได้ เธอควรจะรักษาโอกาสนี้ไว้ซะนะ”

หึ ถ้าหากว่ามีเรื่องดีอย่างนี้จริงๆ มะลิวัลย์จะยกให้เธอง่ายๆ แบบนี้หรือเกรงว่าในนั้นยังมีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่อีก

“ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ฉันจะไม่แต่งงานด้วย”

“เธอจะไม่แต่งงานเกรงว่าจะเป็นพ่อเธอคนแรกที่ไม่เห็นด้วย ตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์ไม่ใช่ว่าเธออยากจะแต่งก็แต่ง ไม่อยาก แต่งก็ไม่แต่งได้นะ ผลที่ตามมาจากการถอนหมั้น มันไม่ใช่สิ่ง ที่เด็กสาวอย่างเธอจะสามารถรับผิดชอบได้ไหว

“ในเมื่อฉันรับผิดชอบไม่ไหว งั้นฉันจะไปพูดกับพ่อด้วยตัว เอง” หลังจากจันวิภาพูดจบ จึงยกเท้าขึ้นเพื่อต้องการที่จะก้าว เดินออกไป

“ตอนนี้พ่อของเธอกำลังพักฟื้นร่างกายอยู่ ไม่ควรที่จะไป รบกวน ยิ่งกว่านั้นสภาพร่างกายของพ่อเธอไม่ได้ดีเหมือนเมื่อ ก่อนอีกแล้ว ถ้าเธอยังกตัญญูอยู่ล่ะก็ อย่าไปทำให้พ่อของเธอ โกรธนักเลย อย่างนี้จะทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูได้เร็วยิ่ง ขึ้น หากว่าเธอไม่แต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะโกรธจนอาการ ทรุดลงไปอีก เมื่อถึงเวลานั้นพวกเธอสองพ่อลูกจะแยกจากกัน ตลอดกาล แล้วอย่ามาโทษฉันที่ไม่เตือนเธอก็แล้วกัน”
“คุณน้าขู่ฉันหรอ” จันวิภาโกรธเสียแล้ว

“หึ ฉันขู่เธอแล้วยังไงถ้าเธอไม่แต่งงาน ฉันจะทำให้เธอไม่ได้ เห็นหน้าพ่อเธออีกเลย เอาล่ะ ฉันขี้เกียจที่จะพูดกับเธอแล้ว ตอนนี้เธอยังมีเวลาเหลืออยู่สามวันในการที่จะแต่งงานเข้า ตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์ เธอคิดทบทวนดูสักหน่อยแล้วกัน”

พูดจบ มะลิวัลย์จึงได้แยกตัวออกไป

จันวิภายังคงยืนงุนงงอยู่ที่เดิม เหลือเวลาอยู่เพียงแค่สามวันก็ จะต้องแต่งงานเข้าตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์แล้วหรือ

รีบร้อนอะไรเช่นนี้ ภายในนั้นจะต้องมีแผนการร้ายอะไรซ่อน อยู่อย่างแน่นอน

บาร์เฟลิร์ท ติ้ง

เมื่อคิดว่าตนเองจะต้องแต่งงานกับคนแปลกหน้าแล้ว ก็เกิด ความรู้สึกไม่สบายขึ้นมาในจิตใจของจันวิภา เธอนั่งดื่มเหล้า อย่างกลัดกลุ้มอยู่คนเดียวที่เคาท์เตอร์บริการเครื่องดื่มในบาร์ และรอเพื่อนซี้กนกอรกับพัชรีที่กำลังเดินทางมา จู่ๆเธอก็รู้สึก ทั่วทั้งตัวไม่มีแรงขึ้นมาซะอย่างงั้น……

ไม่ ความรู้สึกเช่นนี้มันผิด
จันวิกาออกแรงจนรู้สึกได้ถึงแสงวูบวาบที่อยู่ในหัว คิดขึ้น มาได้ทันทีว่าแก้วไวน์ที่อยู่ด้านข้างแก้วนั้นไม่ใช่แก้วของ เธอ…..เป็นของใครกันใครกันที่ใส่ยาให้เธอดื่ม

ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรมากมาย จันวิภาจึงได้หลบหนีออก จากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ไปยังโรงแรมที่อยู่ชั้นบนของบาร์ และต้องการห้องพักห้องหนึ่ง

พึ่งจะเข้าไปถึงห้องพัก ยังไม่ทันที่จะได้เปิดไฟ จันวิภาก็รู้สึก ได้ถึงอาการร้อนลุ่มไปทั่วทั้งตัว เมื่อกำลังครุ่นคิดอยู่ จึงได้ยิน เสียง “เอี๊ยด” ประตูของห้องพักได้ถูกคนจากข้างนอกเปิดเข้า มาเสียแล้ว จากนั้นก็ได้มีเงาคนคนหนึ่งแฉลบตัวเข้ามา

“ใครกัน” จันวิภาที่ได้ยินเสียงกระโดดอย่างตกใจ

ใครบุกเข้ามาในห้องพักของเธอกัน

“เธอ……”

เสียงที่ทุ้มต่ำและยั่วยวนเสียงหนึ่งดังตามมา คนคนนั้น ขยับเข้ามาประชิดใกล้ แล้วจับจันวิภาเข้ามาสู่อ้อมกอดของ ตนเอง…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ