พลิกชะตาฟ้า

บทที่ 7 ลูกสาวตระกูลหลิว



บทที่ 7 ลูกสาวตระกูลหลิว

“ท่านไม่ต้องมองข้าเช่นนั้น ข้าไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่ท่านว่า เป็นใคร ข้าแค่เดินผ่านมาแล้วพบท่านนอนหมดสติอยู่ผู้ เดียวจึงช่วยไว้” นางตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่ เขาพยักหน้าขึ้นลง

“ขอบใจเจ้ามาก” ชายหนุ่มพยายามประคองตัวเองอีก ครั้ง โดยมีหญิงสาวคอยช่วยไม่ห่าง ใบหน้างดงามนั้นยิ่ง ทําให้เขาประทับใจมากขึ้น

“เจ้ามีนามว่าอะไร”

“ข้านามว่า หลิวเฉิงหนิง เป็นบุตรสาวของหลิวฟู่ชุน”

“เจ้าเป็นลูกสาวตระกูลหลิวเช่นนั้นฤๅ” ชายหนุ่มเบิก ตากว้าง เพราะโรงผลิต ซื้อสมุนไพรจากตระกูลหลิวมา เป็นระยะเวลายาวนาน ไม่คิดว่าบุตรสาวของหลิวฟู่ชุนจะ งดงาม อ่อนหวานถึงเพียงนี้ เขาทอดสายตามองอยู่นาน จนหญิงสาวเขินอายพลางเบี่ยงหน้าหลบ

“ที่แท้ ก็เป็นคุณหนูตระกูลหลิว ข้าไม่คิดว่าจะมีโอกาส ได้พบ” หญิงสาวก้มหน้ายิ้มเล็กน้อย

“แล้วท่านล่ะ มีนามว่ากระไร เป็นคนเชียงหยางหรือว่า เดินทางมาจากเมืองอื่น” ชายหนุ่มสายศีรษะพร้อมปล่อย ยิ้มออกมา
“ข้ามีนามว่าชวี่อิน”

“ชวี่..อิน” เฉิงหนิงทวนคำ ด้วยนึกคุ้นชื่อ ก่อนจะดวงตา เบิกกว้างเมื่อนึกบางอย่างได้

“ท่านคือ จ้าว วี่อินเช่นนั้นฤๅ” ดวงตากลมโตทําให้ชาย หนุ่มหลุดยิ้มออกมา ก่อนพยักหน้าขึ้นลง

“แล้วเหตุใดท่านจึงมานอนตรงนั้นเพียงผู้เดียว คน ติดตามท่านล่ะ อยู่ที่ใด” คำถามมากมายทำให้ชายหนุ่ม ตอบไม่ทัน

“ข้าแอบหนีออกมาเที่ยวเล่นกับชางอิน แต่วันนี้โชคร้าย เสียหน่อยที่ถูกกลุ่มอันธพาลตามมารีดไถ แต่ก็โชคดีที่ เจ้าช่วยข้าไว้” สายตาคมสบมองเฉิงหนิงอย่างมีความ หมาย ก่อนหญิงสาวจะนึกบางอย่างได้ จึงรีบขอตัว ลากลับ

“เห็นทีข้าต้องกลับก่อนแล้ว”

“เหตุใดจึงรีบ”

“ไม่มีเวลาแล้ว ป่านนี้ท่านพ่อคงโกรธที่ข้าออกมาเที่ยว เล่นนานเกินไป”
“แล้วเราจะได้พบกันอีกถ้าไม่” คำถามของชายหนุ่มรูป งามกล่าวถาม ขณะที่ร่างบางกำลังจะหายลับไป เฉิงหนิง ชะงักพลันหันมอง วี่อินครู่หนึ่ง

“หากชะตาต้องกัน เราต้องได้พบกันอีก” นางพูดจบจึง ก้าวเท้าวิ่งตรงไปทางทิศเหนือ หัวใจของชายหนุ่มสั่นไหว อย่างบอกไม่ถูก นางเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกตัวเบา หวิวคล้ายจะลอยได้ แม้ร่างกายจะเจ็บปวด ทว่าความ รู้สึกภายใน กลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะเลื่อน สายตาไปเห็นบางอย่าง

“ปิ่นปักผมเช่นนั้นฤๅ” ชวี่อินพูดออกมาอย่างบางเบา พลางเอื้อมมือไปหยิบปิ่นนั้นขึ้นมา พร้อมใบหน้างดงาม ของนางยังคงประทับเป็นความทรงจำถึงตอนนี้

ผ่านมาแล้วหนึ่งปี เขายังคงจำทุกช่วงเวลาได้ไม่มีวัน ลืม ยังคงเก็บฝิ่นปักผมไว้แทนใจเสมอมา แม้รู้ว่านางเป็น ลูกสาวของตระกูลหลิว แต่ด้วยธรรมเนียมแล้ว เขาทำได้ เพียงแต่รอคอยวาสนาที่จะได้พบกับนางอีกครั้งหนึ่ง เท่านั้น

หลังจากขบวนของสามีภรรยาตระกูลจ้าว มุ่งหน้าตรง ไปยังทิศเหนือของเมืองเชียงหยาง เพื่อไปทำการเจรจา ค้าขายเกี่ยวกับสมุนไพรนานาชนิดนั้น ชางอินยืนมอง ขบวนรถม้าที่กำลังหายลับไปอย่างโล่งใจ พลางรีบรุดเข้า มาในจวนตามหาพี่ชายในทันที
“เจ้าหยุดก่อน” เขาตะโกนเรียกสาวใช้นางหนึ่ง

“มีอันใดกับข้าฤๅเจ้าคะ”

“เจ้าเห็นพี่ชายข้าบ้างฤาไม่

“คุณชาย วอินคุมโรงผลิตที่ใต้ต้นท้อเจ้าค่ะ” ชายหนุ่ม พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะละจากสาวใช้ แล้วหันตัวกลับไป ยังโรงผลิตสมุนไพรในทันที

ตอนนี้ชางอินมีอายุราวสิบเจ็ดปี เขาเป็นชายหนุ่ม ที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างจากพี่ชายพอสมควร ด้วย เพราะชอบสนุกสนาน หาความสำราญใจอยู่เสมอ แม้ จะเกียจคร้านอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังได้รับความรักจาก ครอบครัวเท่าเทียมกับพี่ชายเสมอมา

“ท่านพี่ ขบวนบนสมุนไพรของท่านพ่อกับท่านแม่ ออก ไปแล้ว คราวนี้ท่านพร้อมจะออกไปเที่ยวเล่น เป็นเพื่อน ข้าได้ถ้าไม่” น้ำเสียงตื่นเต้น ทำให้ชวี่อินรีบเก็บของบาง อย่างใส่ซอกเสื้อไป ทันให้หางตาของชางอินเหลือบเห็น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ