พลิกชะตาฟ้า

บทที่ 1 ของบริจาค



บทที่ 1 ของบริจาค

โรงผลิตยาสมุนไพรของตระกูลจ้าว สืบทอดกันมาหลาย ชั่วอายุคน นับว่าเป็นแหล่งผลิตยาสมุนไพรที่สําคัญของ เมืองเชียงหยาง ผู้คนต่างเล่าขานกันปากต่อปาก ว่ายา สมุนไพรของตระกูลจ้าวนั้นมีสรรพคุณดีกว่ายาขนาน อื่น เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านในเมืองเรื่อยมา ยิ่งกว่านั้น จ้าวเฉินเหยา เปรียบเสมือนผู้ถือศีลในร่างของพ่อค้ายา สมุนไพร ทุกหนึ่งปีตระกูลจ้าวจะมีการเฉลิมฉลองระลึก ถึงบรรพบุรุษ ด้วยการแจกจ่ายอาหารและสมุนไพรให้กับ ผู้คนที่ยากไร้ รับไปประทังชีวิต

“พี่ไป๋เซียน ทางนั้นเขาแจกอาหารกัน เราไปกันดูกัน เถอะ” เด็กหญิงอายุราวสิบขวบผมยาวจรดหลัง ดึงมือพี่ สาวเดินไปยังหน้าจวนตระกูลจ้าว พลางชะเง้อคอมมอง ฝ่าฝูงชนเข้าไป เห็นชาวบ้านนับร้อย ต่างเรียงแถวเข้าไป รอรับสิ่งของบริจาคจากตระกูลใหญ่ด้วยสีหน้ามีความ หวัง บ้างไร้เรี่ยวแรง บ้างเสื้อผ้าขาดวิ่น บ้างพิการ หากแต่ พวกเขาเหล่านั้นก็เข้าแถวอย่างมีระเบียบ ไม่เบียดเสียด แก่งแย่งกัน

“พี่ไป๋เซียน ท่านไปรับของพวกนั้นมาให้ข้าทีสิ” เด็กหญิง ในวัยสิบขวบนึกอยากสนุก อยากรู้ว่าในห่อผ้าที่ตระกูล จ้าวบริจาคนั้นมีอะไรอยู่ข้างใน จึงหันมาสั่งพี่สาวด้วย ความเอาแต่ใจ ไป่เซียนในตอนนั้นมีอายุราวสิบสามปี หัน มองผู้คนที่ยากไร้เหล่านั้นอีกครั้ง ก่อนก้มหน้าทบทวน ด้วยท่าทีลังเล
“ข้าสั่งท่าน ท่านมิได้ยินฤๅ” เฉิงหนิงผู้เป็นน้องสาว หน้างอ พลางยกมือขึ้นกอดอก เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะขัดใจ

“เฉิงหนิง เราอย่าไปแย่งพวกเขาเลยนะ” ไป่เซียนหัน มาจับมือน้องสาวแน่นพร้อมกับแววตาขอร้อง ก่อนจะให้ เหตุผลต่ออีก

“อาหารพวกนั้น ตระกูลจ้าวเอาไว้แจกจ่ายให้กับผู้ ยากไร้ เรามิควรไปแย่งพวกเขา เจ้าดูสิ ชายผู้นั้นเสื้อผ้า ขาดหลุดลุ่ยและดูหิวโหย ส่วนหญิงชราผู้นั้นก็พิการตาม องไม่เห็น ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไปแย่งของบริจาคเหล่า นั้นมา” หลิวไปเซียน ค่อย ๆ อธิบายบอกน้องสาว ให้ เข้าใจอย่างคนใจเย็น

เฉิงหนิงทอดสายตามองผู้คนเหล่านั้น ตามที่พี่สาวบอก ก่อนจะถูกไป่เซียนดึงมือออกจากบริเวณนั้น

“เราไปกันเถอะ” พี่สาวพูดพร้อมรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าเฉิง หนิงเข้าใจแล้วจะพากันหันหลังกลับ ทว่าเดินออกมาได้ เพียงสามก้าว นางก็สะบัดมือออก แล้วรีบวิ่งไปต่อแถว รวมกับชาวบ้านในทันที คําตักเตือนของไปเซียนไร้ความ หมายในทันที

หญิงสาวทอดสายตามองร่างบางวิ่งเข้าไปแทรกผู้คน อาศัยตัวเป็นเด็กจึงไม่มีใครว่า ไป๋เซียนไม่อาจทนได้จึงตัดสินใจวิ่งตามน้องสาวไปในทันที

“เฉิงหนิง ออกมา” ไป่เซียนดึงมือนางออกจากชาวบ้าน ทว่านางยังคงดื้อดึงไม่ฟังพร้อมสะบัดแขนออก

“เฉิงหนิง ถ้าเจ้ายังทำเช่นนี้ ต่อไปข้าจักไม่พาเจ้าออกมา เดินเล่นอีก” ไป่เซียนหมดความอดทนแล้วขึ้นเสียงใส่

“ถ้าท่านไม่หาข้ามา ข้าก็จักหาเรื่องให้ท่านโดนท่านพ่อ ทำโทษอยู่เรื่อย ๆ เช่นนั้นอยากลองดีกับข้าฤๅ” คนตัว เล็กกอดอก พลางทำตาแข็งใส่ อย่างเอาเรื่อง ทำให้ไป เซียนจะค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากร่างเล็ก หมดหนทางที่ จะกล่าวห้ามนางได้อีก

ทุกครั้งที่เฉิงหนิงพูดขู่ ไม่ว่าด้วยเรื่องอันใดก็ตาม ไป่ เซียนไม่อาจขัดใจนางได้ หญิงสาวชะงักนิ่งมองดูน้องสาว อย่างเงียบ ๆ พลันภาพของมารดาในอดีตที่เคยฝากฝัง นางไว้ ก็วาบเข้ามาให้หญิงสาวรู้สึกท้อใจ

“แม่ฝากดูแลน้องสาวของเจ้าด้วย อย่าให้นางเอาแต่ ใจไปมากกว่านี้ ชีวิตของนางยังอีกยาวไกลนัก หากไม่มี ใครคอยช่วยชี้แนวทาง อาจทำให้เฉิงหนิงเสียคนได้” ไป เซียนมองดูร่างบางที่ยืนเบียดเสียดกับชาวบ้านพร้อม ความผิดหวัง
“ท่านแม่ นับวันเฉิงหนิงยิ่งไม่ฟังข้ามากขึ้น ยิ่งกว่านั้น เป็นข้าเองที่จะหมดแรงไปเสียก่อน ถ้าท่านยังอยู่ นางคง ไม่เป็นเช่นนี้” หญิงสาวอายุสิบสามปีในตอนนี้ ทำได้เพียง ทอดสายตามองเฉิงหนิงอย่างท้อแท้

ไม่นานนักน้องสาวจอมเอาแต่ใจ ก็เดินออกมาพร้อม กับห่อผ้าขนาดย่อม พร้อมกับปลาแห้งอีกจำนวนหนึ่ง ใบหน้าสวยยิ้มย่องออกมา พลางแกะหอในมือด้วยความ อยากรู้ ก่อนจะเข้มองอาหารด้วยสีหน้าเหยียดหยาม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ