4
“มีชุดนักเรียนอยู่แค่ชุดเดียวเหรอถึงต้องรีบซัก” เหม
ราชเอ่ยถามนึกสงสารมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเด็กน้อย พูดเช่นนั้น
“ค่ะ มีคนใจดีบริจาคให้หนูนานแล้ว” เด็กน้อยเอ่ยตอบ
“อย่างนี้นี่เอง” เหมราชรับคำก่อนจะพยักหน้าให้นายสน ขับรถไปยังบ้านของบิดามารดา พลับพลึงมองตามพี่ชาย ใจดีที่เดินลัดเลาะออกไปตามทางเล็กๆ เพื่อไปยังรถที่ จอดอยู่ตรงถนน บ้านของเธอไม่มีทางออก เรียกว่าเป็น ที่ดิน ตาบอด จึงต้องอาศัยเดินผ่านที่ดินของคนอื่น รถจึง เข้ามาไม่ถึง นอกจากพวกจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์คัน เล็กๆ เท่านั้น
เมื่อพี่ชายใจดีกลับไปแล้ว พลับพลึงจึงรีบผลัดเปลี่ยน เสื้อผ้า เธอสวมเสื้อยืดตัวเก่าๆ ย้วยๆ กับกางเกงสีซีดผูก เอว จัดการซักชุดนักเรียนชุดเดียวที่มีอยู่แล้วทำงานบ้าน เล็กๆ น้อยๆ ตามหน้าที่ของตัวเอง ร่างเล็กๆ เดินไปที่ชาย ป่าหลังบ้านก่อนจะลากไม้ฟื้นมาผ่าเพื่อทำเชื้อเพลิง ก่อน ขนน้ำขึ้นมาใส่ตุ่มเอาไว้บนบ้าน
พลับพลึงเดินไปแกะถุงขนมใบโตที่เหมราชให้มาอย่าง ตื่นตาตื่นใจ ด้านในมีขนมปังห่อใหญ่ นมอีกหลายแพ็กขนมหลายอย่างที่ดูแปลกตาไม่เคยกินมาก่อน เธอกอด ขนมอย่างมีความสุข อย่างน้อยก็ทำให้อิ่มท้องไปได้อีก หลายวัน
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” เหมราชไหว้บิดาและมารดา เมื่อเดินทางมาถึงบ้าน กำนันเหิมยิ้มหน้าบานที่ลูกชายคน เดียวกลับมาเยี่ยม ส่วนคุณนายจำปานั้นสั่งให้แม่บ้านรีบ ปรุงอาหารหลายอย่างต้อนรับในทันที
“คิดถึงจริงๆ เลย”
“ผมก็คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่ครับ”
“แล้วไม่เรียนพิเศษหรือไง”
“หยุดพักสมองน่ะครับ เลยมาเยี่ยมคุณพ่อกับคุณแม่ ผม เรียนเจ็ดวันเลยนะครับ แทบไม่ได้พักเลย” คนพูดหนุน ตักมารดาอย่างอ้อนๆ
“ดูสิพี่กำนัน โตเป็นหนุ่มแล้วยังขี้อ้อนอยู่อีก”
“ปีหน้าก็เรียนจบแล้ว จะเรียนอะไรต่อล่ะ” คนเป็นพ่อ เอ่ยถาม
“คุณยายจะให้เรียนบริหารธุรกิจครับ”
“ก็ดีนะ กิจการบ้านเราเยอะแยะ” คุณนายจำปายิ้มแย้ม เห็นด้วยกับลูกชาย กำนันเพิ่มพยักหน้าเห็นด้วย
“หิวหรือยัง ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าวกินปลากัน
“ครับ” เหมราชหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ก่อนจะเข้าห้อง ไปอาบน้ำอาบท่า เขานึกถึงเด็กหญิงที่ช่วยเหลือชีวิตเอา ไว้ หลังรับประทานอาหารจึงขอบิดามารดาออกไปข้าง นอก นึกเป็นห่วงเลยอยากออกไปดูสักหน่อยว่าเด็กน้อย ทำอะไรอยู่ได้กินข้าวกินปลาหรือยัง
“นั่นจะไปไหนเหรอลูก” คุณนายจำปาเอ่ยถามลูกชาย
“ไปเที่ยวแถวนี้ครับ”
“แล้วนั่นหอบอะไรไปเยอะแยะ”
“เอาของไปแจกเด็กๆ ครับ”
“เย็นแล้ว ค่อยไปพรุ่งนี้ไหมลูก”
“ไปเย็นนี้ดีแล้วครับ” คนพูดไม่รอฟัง รีบเดินออกไป พร้อมนายสนทันที
“ลูกเรานี่ใจดีเกินไปไหมคะพี่กำนัน”
“ปล่อยไปเถอะ ดีเหมือนกัน เลือกตั้งสมัยหน้าคะแนน เสียงจะได้เป็นของพี่อ๊ก อีกอย่างของที่เอาไปแจกก็ของ เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง”
เหมราชเดินทางมาถึงบ้านของเด็กน้อยที่เขาได้ช่วย เหลือชีวิตเอาไว้แต่ปรากฏว่าในบ้านเงียบกริบ ก่อนจะ เห็นเด็กน้อยเดินมาจากหลังบ้านกำลังปาดเหงื่อที่ผุดขึ้น มาทั่วใบหน้า
“ทําอะไรอยู่น่ะ”
“เก็บใบตองจ้ะพี่เหม” เด็กน้อยเอ่ยตอบ ในมือถือไม้ไผ่ ด้ามยาวๆ ที่ส่วนปลายมีอันมีดเล็กๆ แหลมๆ เสียบเอาไว้
“เอาไปทำอะไรเหรอ” เหมราชเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เอาไปขายจ้ะ พรุ่งนี้มีตลาดนัด แม่ค้าที่ทำขนมจะมาซื้อ ใบตองไปทำขนมค่ะพี่เหม
“อ้อ…. นี่พี่เอาของมาให้” เขายื่นถุงใบโตให้เด็กน้อย พลับพลึงรับไปมองก่อนจะตาโต
“พี่เหมเอาข้าวสารมาให้พลับพลึงเหรอคะ มีปลากระป้องด้วย แล้วนีบะหมี่นี่คะ” เธอหยิบมาลูบๆ คลําๆ ดีใจจน น้ำตาไหลเพราะที่บ้านไม่มีข้าวสารกรอกหม้อมาหลายวัน แล้ว
“ร้องไห้ทำไม”
“ดีใจจังเลยค่ะ ที่บ้านของพลับพลึงไม่มีข้าวสารหุงมา หลายวันแล้ว พี่ใจดีจังเลย ขอบคุณนะคะ” เธอพูดทั้ง น้ำตา ยกมือไหว้เขาอย่างซาบซึ้งใจ
“แล้วอยู่บ้านคนเดียวเหรอ” เหมราชมองไปรอบบ้านแต่ ไม่เห็นมีใครอยู่นอกจากเด็กน้อย
“อยู่กับพ่อค่ะ แต่พ่อคงออกไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ใน หมู่บ้าน
“อ้อ…” เขาร้องขึ้น มองเด็กน้อยที่กำลังสอยใบตองไม่
วางตา
“ขายยังไงเหรอ”
“มัดละสามบาทค่ะ” คำตอบของเด็กน้อยทำให้เด็กหนุ่ม ขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ทำไมมันถูกจังครับ เงินสามบาทจะซื้ออะไรได้
“ใบตองไม่ต้องซื้อแค่เราออกแรงสอยเท่านั้นเอง เขา ช่วยซื้อหนูก็ดีใจแล้วค่ะ ถ้าขายแพงๆ เขาก็ไม่เอาค่ะ” เด็กน้อยพูดแล้วยิ้ม เธอปาดเหงื่อเบาๆ ตามใบหน้า เหม ราชมองเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเก่าๆ ย้วยๆ ของเด็กน้อย แล้วครุ่นคิด
“พรุ่งนี้พี่จะมาหาอีกนะ ค่ำแล้วต้องกลับแล้วล่ะ”
“ขอบคุณพี่มากนะคะ” พลับพลึงยกมือไหว้อีกครั้ง เหม ราชจึงวางมือบนศีรษะของเด็กน้อยและโยกเบาๆ อย่าง เอ็นดู
เย็นวันนั้นเธอหุงหาอาหารและทำกับข้าวรอบิดาอย่างมี ความสุข ได้ยินเสียงท่านโวยวายมาแต่ไกล ก่อนจะเดิน ขึ้นบันไดมาแล้วตะโกนเรียกเธอ
“นางพลับพลึง อยู่ไหนวะ”
“หนูอยู่นี่จ้ะพ่อ”
“ครูใหญ่มึงบอกว่าจะให้ทุน ไหนล่ะทุนที่บอกว่าจะให้ กู เห็นเงียบกริบไม่มีเลยสักบาท”
“หนูไม่รู้จะพ่อ”
“หรือว่าเอาไปอมหมดแล้ว พวกครูๆ นี่ก็ไว้ใจไม่ได้ คน เมาทิ้งตัวลงนอนก่อนจะด่าทอโวยวายตามประสา
“พ่อหิวข้าวไหมจ๊ะ” เด็กน้อยเดินเข้าไปถาม เอาผ้า ขนหนูผืนเก่าๆ เล็กๆ มาเช็ดหน้าให้บิดา
“ข้าวที่ไหน กูไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว”
“วันนี้มีพี่ชายใจดีเอาข้าวสารมาให้ด้วยจ้ะ
“คราย…วะ” คนเมาเอ่ยถาม ดวงตาแดงก่ำ
“ชื่อพี่เหมจ้ะ เหมราช” เธอจำชื่อพี่ชายใจดีได้ขึ้นใจ
“คราย… กูไม่รู้จัก” คนที่เมาทุกวันไม่ทำงานทำการอะไร โวยวายอีกครู่ก่อนจะหลับไป
เด็กน้อยรีบกางมุ้งให้บิดาเพราะกลัวยุงกัดโดยการต่อ เก้าอี้เก่าๆ ขึ้นไปผูกเชือกเอาไว้จนตรงตะปูที่ตอกเอาไว้ กับเสา มุ้งหลังเล็กๆ เก่าๆ มีรู เธอจึงรีบไปหาหนังยางมา มัดรูพวกนั้นเอาไว้เพื่อกันยุง ก่อนจะเดินไปนั่งลงกินข้าว กับยำปลากระป๋อง โดยการใส่ผักชีฝรั่ง ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดงและบีบมะนาวลงไป ทำให้รสชาติอร่อยขึ้น
“อร่อยจัง” เด็กน้อยตักกินแล้วอมยิ้ม มองอาหารแห้งอีก หลายอย่างที่เหมราชเอามาให้แล้วมีความสุข รอยยิ้มได้ เดียงสาของเด็กน้อยผุดขึ้นมาจากใบหน้าเล็กน่ารักนั้น
พอรับประทานอาหารเสร็จ เธอก็เก็บจานชามไปล้าง วัน นี้เป็นวันแรกที่เธอกินอาหารอิ่มท้องและรู้สึกว่ามีกับข้าวที่ อร่อยมากๆ กว่าวันอื่นๆ แม้จะเป็นแค่ปลากระป๋องก็ตามที
เด็กน้อยมุดเข้ามานอนขดตัวหนุนหมอนเล็กๆ เก่าๆ อีก ด้านหนึ่งของมุ้ง ในขณะที่บิดาหลับไปแล้วด้วยความเมา และไม่กินข้าวกินปลาอีกเช่นเคย
ตอนย่ำรุ่งเธอรีบตื่น เพื่อไปขายใบตองที่ตลาดนัด เด็ก น้อยรีบเดินไปตลาดสดอย่างแข็งขัน เท้าเล็กๆ ไร้รองเท้า สวมใส่เพราะรองเท้าแตะคู่ล่าสุดนั้นขาดไปเรียบร้อย แล้วแต่เด็กน้อยก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่ย่อท้อ
“ป้าจ้า ซื้อใบตองหนูด้วยนะจ๊ะ”
“ไม่ซื้อแล้ว ซื้อของคนอื่นไปแล้ว” แม่ค้าที่ซื้อใบตองมัด ใหญ่ของคนอื่นไปแล้วเอ่ยตอบเด็กน้อยอย่างไม่สนใจ พลับพลึงหน้าเศร้า เลยเดินไปขายกับเจ้าอื่น แต่วันนี้เธอ มาสายแม่ค้าเลยซื้อของเจ้าอื่นไปหมดแล้ว
“พี่เหมาหมดนั้นเท่าไหร่เหรอ” เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้ พลับพลึงหันไปมอง
“พี่เหม” เด็กน้อยยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่ชายใจดี
“พี่ซื้อทั้งหมดนั่นเลยครับ
“พี่เหมจะซื้อไปทำไมเหรอคะ”
“ซื้อไปทำขนมครับ วันนี้พี่จะให้แม่ครัวทำขนมแจกเด็กๆ ในหมู่บ้านน่ะครับ เอาเป็นว่าพี่เหมาหมดเลยนะ” เขาบอก เด็กน้อย โยกศีรษะเล็กๆ ไปมาเบาๆ
“หนูคิดแค่ยี่สิบบาทค่ะ”
“เอาพี่ให้ห้าสิบบาท
“แต่มันเกินราคานะคะ” เด็กน้อยบอกอย่างเกรงใจ
“เอาไปเถอะครับ จะได้มีเงินไปโรงเรียนไง วันนี้ไปเที่ยว บ้านพี่ไหม จะพาไปกินขนมอร่อยๆ” เหมราชเอ่ยชวน อย่างใจดี
“ไปได้เหรอคะ” พลับพลึงเอ่ยถามอย่างเกรงใจ
“ไปได้สิ แม่พี่ใจดีนะ” เหมราชจูงมือเด็กน้อยไปขึ้นรถ บ้านของเหมราชใหญ่โตเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ที่มี อาณาบริเวณกว้างขวาง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ