ฝืนชะตาชายาหยินหยาง

บทที่ 17 ท่านอ๋องรูปงาม



บทที่ 17 ท่านอ๋องรูปงาม

บทที่ 17 ท่านอ๋องรูปงาม

ภายในห้องหนังสือ

หมิงเยว่นำถังไม้ไปตักน้ำมาหนึ่งถัง แล้วใช้กระบวยตัก น้ำรดดอกไม้ที่อยู่ในสวนของห้องหนังสือ

มีบางอย่างตัวเล็กๆ สีขาวๆเหมือนหิมะเข้ามาป้วนเปี้ยน อยู่ที่เท้าของนาง เป็นเจ้าแมวน้อยสีขาวตัวนั้นนั่งเอง

“เจ้าก้อนหิมะ?”

จ้าวหมิงเยว่เทน้ำกลับเข้าไปในถัง นั่งลงแล้วเอื้อมมือไป หาแมวตัวนั้น เจ้าก้อนหิมะทำเหมือนเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ เดินเข้าไปในมือของนางทันที นางยกมันขึ้นมาแล้วหยอก ล้อใบหน้าเล็กๆของมัน

“ต้องการจะมาหาเรื่องข้าอีกใช่หรือไม่?”

“มันชอบมาหาเรื่องเจ้าอยู่บ่อยๆอย่างนั้นหรือ?”

จ้าวหมิงเยว่หันกลับไปดูคนที่กำลังเดินมาสักพัก แล้วจึง รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและคำนับ
“ท่านอ๋องเย่น”

ฉู่จื่อเย่นเดินมาถึงตรงหน้าของนาง เด็กคนนี้ผอมมาก ความสูงก็อยู่เพียงแค่ระดับไหล่ของเขา

ใบหน้าเล็กๆดูเหลืองซีดเซียว ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะ ขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน ใบหน้าเล็กจนทำให้ ดวงตาคู่นั้นดูโต เวลามองดูผู้คนช่างดูสดใสมาก

“หมิงเยว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าชื่อจ้าวหมิงเยวใช่ไหม?”

“หม่อมฉันชื่อจ้าวหมิงเยว่”

“เจ้าก้อนหิมะ?”

“หา?”

“เมื่อกี้ข้าได้ยินเจ้าเรียกมันเช่นนั้น”

จริงๆแล้วเขาหมายถึงแมวหรอกหรือ? “หม่อมชั้นแค่รู้สึก ว่ามันเหมือนกับก้อนหิมะจึงลองเรียกเล่นๆดู
“เป็นเช่นนี้หรอกหรือ เดิมทีคิดว่าเป็นแมวของเจ้าเสีย อีก”

“ไม่ใช่ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ” หมิงเยวรีบปฏิเสธด้วยความกังวล แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองแววตาที่ดูเงียบสงบคู่นั้น แล้วจึง ก้มหน้าคำนับอีกครั้งแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แมวของหม่อมฉัน พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าเพียงแต่เห็นมันวิ่งจากตำหนักจิ้นอันมาหาเจ้าที่นี่ ดู เหมือนว่าจะคุ้นเคยกับทางเป็นอย่างดี” ว่าแล้วเขาก็ยื่น มือไปหาหมิงเยว่

หมิงเยวรีบนำแมววางลงบนมือของเขาทันที

ฉู่จื่อเย่นนำแมวน้อยสีขาวเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก มือ ที่เรียวงามเหมือนกับหยกลูบลงไปที่หลังของมันอย่าง เบามือ เมื่อเดินไปถึงทางเดินของห้องหนังสือก็นั่งลง แล้ว จึงหยอกล้อกับลูกแมวที่อยู่บนตักของเขาอย่างเงียบๆ

เขามาที่นี่ทําไมกันนะ? หมิงเยว่รู้สึกกดดัน แต่เขากลับ เลิกคิ้วขึ้นและมองนางด้วยรอยยิ้ม ดวงตาที่กำลังยิ้มดู เหมือนกับเด็กน้อยบริสุทธิ์ รู้สึกว่าเขาน่ารักกว่าแมวเสีย อีก

เขาพูดว่า: “เจ้าแมวตัวนี้มันแย่จริงๆ วันนั้นมันแอบดูข้าอาบน้ำอยู่บนต้นแพร่”

พู่ นางรู้สึกเหมือนแทบจะกระอักเลือด เป็นเพราะนาง ร้อนตัวหรือว่าเขากำลังหลอกด่า? ตอนนี้นางไม่รู้สึกว่า เขาน่ารักเลยสักนิด

“ถ้าเป็นดั่งเช่นท่านอ๋องเย่นว่า แมวตัวนี้ก็คงจะแย่จริงๆ”

“อืม แย่จริงๆเลย แมวตัวนี้” ฉู่จื่อเย่นยังคงหยอกล้อกับ แมวต่อไป

จ้าวหมิงเย่วตักน้ำรดดอกไม้ต้อด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อ กับตัว ในใจกำลังคิดว่านี่เป็นภาคต่อของหงเหมินเยี่ยนใช่ หรือไม่

หมิงเยว่หยิบไม้กวาดขึ้นมา: “ท่านอ๋อง ข้าน้อยจะกวาด พื้น เดี๋ยวจะมีฝุ่นลอยขึ้นมาจากพื้น ท่านควรจะออกไป ก่อนดีหรือไม่?”

เขาเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อย: “หมิงเยว”

หมิงเยว่หมิงเยว่ เรียกจนนางรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวแล้ว เคยคิดมาเสมอว่าคนผู้นี้เป็นคนจริงจัง “พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากำลังไล่ข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ข้าน้อยมิกล้า” หมิงเยวรีบก้มหน้าทันที

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” เขายังคงหยอกล้อกับแมวต่อไป

จ้าวหมิงเยวแอบเหลือกตาใส่เขาหนึ่งที แล้วนำถังไม้ไป ตักนํามาอีกครั้ง

กลับมา คนคนนั้นก็ยังคงเล่นกับแมวอยู่ที่เดิม ถ้าเป็น เช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นกับแมวได้ทั้งวัน ดูๆไปแล้ว คงจะรู้สึกโดดเดี่ยวมาก จ้าวหมิงเยว่เจ้าใจดีเกินไปแล้ว ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมาหยั่งเชิงดูเพื่อจะเอาผิดเจ้าในภาย หลังก็ได้ หมิงเยวีรดน้ำต้นไม้ในลาน เพื่อหวังว่าเวลา กวาดพื้น ฝุ่นจะได้ฟุ้งกระจายไม่มากนัก เพื่อหลีกเลี่ยน ไม่ให้เขาไอ

เห็นนางรดน้ำอย่างขยันขันแข็ง ฉู่จื่อเย่นจึงถามขึ้นอีก

“หมิงเยว่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“กวาดพื้นเสร็จแล้ว เจ้าจะทำอะไรต่อ?”
“จัดชั้นหนังสือ ปัดกวาดแมลง เฝ้าห้องหนังสือ!”

เขาเบ้ปากขึ้น: “งานพวกนั้นเจ้าค่อยทําได้ไหม?”

“ท่านอ๋องจะรับสั่งให้ข้าน้อยทำอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“อืม ลูกแพร์ในตำหนักจิ้นอันสุกแล้ว ข้าอยากจะให้เจ้า ช่วยเด็ดลูกแพร่ให้ข้ากินหน่อย”

หน้าตาเขาดูไม่มีพิษมีภัย จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้มีเจตนา ที่จะพูดว่าให้ไปเก็บลูกแพร์หรอก? สุดท้ายแล้วอาจเป็น ว่าตอนที่เด็ดลูกแพร์นางกับแมวน้อยเคยแอบดูเขาอาบ น้ำ

เมื่อเห็นหมิงเยว่ไม่พูดไม่จา ฉู่จื่อเย่นจึงถามเบาๆว่า “ห มิงเยว่ไม่เต็มใจช่วยข้าเหรอ?”

“สามารถช่วยงานท่านอ๋องได้ หมิงเยว่พร้อมทำด้วย ความยินดี”

ฉู่จื่อเย่นลุกขึ้น หมิงเยว่เดินตามหลังเขาเข้าไปในตำ หนักจิ้นอัน ทั้งลองยืนอยู่ใต้ต้นแพร์ แล้วเงยหน้าขึ้นไป มองผลไม้บนต้น
“ทําไมเจ้าถึงไม่ขยับ?”

“หมิงเยวปีนต้นไม้ไม่เป็นพ่ะย่ะค่ะ” ปีนต้นไม้ไม่เป็น แน่นอนว่าไม่มีทางแอบดูเขาอาบน้ำจากบนต้นไม้ได้ “แต่ ว่าท่านอ๋องวางพระทัย หมิงเยว่สามารถที่จะเก็บลูกแพร์ ได้ ขอให้ทรงรอสักครู่

นางผูกถุงผ้าเข้ากับไม้ไผ่ แล้วยื่นไม้ไผ่ออกไปที่ต้นแพร่ ใช้ถุงหุ้มที่ลูกแพร์แล้วบิด ลูกแพร์ก็หล่นลงไปอยู่ในถุง เพียงครู่เดียวก็สามารถเด็ดลูกแพร์ลงมาให้ฉู่จื่อเย่นได้ ลูกหนึ่ง แล้วจึงนำลูกแพร์ไปปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ วางใส่จาน แล้วนำมาให้แก่ฉู่จื่อเย่น ฉู่จื่อเย่นมองดูตั้งแต่ ต้นจนจบโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หมิงเยว่จึงถามว่า: “ท่านอ๋อง มีอะไรจะสั่งข้าน้อยอีกหรือไม่?”

“เจ้าไปได้แล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ถึงแม้จะเดินออกจากตำหนักจิ้นอัน หมิงเยว่ก็ยังไม่ได้ รู้สึกโล่งใจจริงๆอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ