ตอนที่ 8 ท่านอ๋องกําลังเข้าห้องหอ
อารมณ์ของเป่ยจื่อห้าวในเวลานี้สามารถใช้คำว่า “ ความโกรธปะทุขึ้นท้องฟ้า ” มาบรรยายได้
ในชั่วพริบตาที่เขาเปิดผ้าคลุมหน้า และเห็นว่าไม่ใช่ จางยวี่โหร่วแต่เป็นใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้านั้น สมองของเขามึนงงในทันที
ถึงแม้จะบอกว่าเมื่อเห็นจางยวี่โหร่วจะทำให้เขารู้สึก สะอิดสะเอียนและยังต้องฝืนยิ้มอย่างมีความสุข แต่ หากไม่ใช่จางยวี่โหร่ว เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเขาเสียแรงไป โดยเปล่าประโยชน์และทุกอย่างจบลงแล้วหรือ?
ภายใต้ความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเป่ยจื่อห้าว หลิน จือก็ไม่ตื่นตระหนกอย่างที่คิด และอธิบายอย่างใจเย็น ว่า เดิมทีแล้วตัวเองควรจะแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิง แต่กลับไม่คิดว่าจะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวผิด
แต่ในเมื่อได้คำนับเทวดาฟ้าดินกับองค์ชายสามแล้ว เช่นนั้นก็กลายเป็นผู้หญิงของเขา
เฮอะ…แค่ลูกสาวที่มาจากตำแหน่งสี่ฝิ่นเซ่าเจียนเล็กๆ คนหนึ่งจะคู่ควรเป็นพระชายาของเป่ยจื่อห้าว? แน่นอน ว่าเขาไม่ยอม ปฏิกิริยาอย่างแรกก็คือไปที่ตำหนัก อ๋องชิงผิงอย่างรีบร้อนและแลกเปลี่ยนตัวจางยวี่โหร่วก ลับคืนมา
ส่วนหลินจือ หลังจากที่แกล้งร้องไห้โวยวายไปครั้งหนึ่งพอเห็นว่าไม่ได้ผล นางก็หนีกลับบ้านไป
ในขณะที่เป่ยจื่อห้าวกำลังรับมาที่ตำหนักอ๋องชิงผิง ในใจกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก และยังเป็นกังวล
เหตุใดถึงเป็นอ๋องชิงผิง บุคคลนี้ที่ทำให้ทุกคนหวาด กลัว
อ๋องชิงผิงหินยี่ฉี เป็นคนที่มีความพิเศษมากคนหนึ่งใน หนานหมู่
เขาแทบจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของราชสำนัก และแต่ควบคุมกองกำลังทหาร ได้รับความสำคัญจาก เสด็จพ่ออย่างลึกซึ้ง เมื่อขุนนางทุกคนพบเจอเขาก็ต่าง หวาดกลัวจนตัวสั่น
องค์ชายทุกคนต้องการโน้มน้าวเขาแต่กลับไม่มีความ กล้า เห็นราสีแห่งความตายกระจายทั่วบนร่างกายของ เขามาแต่ไกล และยังมีหน้ากากหมาป่าอันน่ากลัวเช่น นั้น จึงทำได้เพียงแค่หลีกเลี่ยงจากที่ไกลๆเท่านั้น หาก สามารถได้รับความช่วยเหลือจากเขา จางไท่ซือจะไป มีค่าอะไร ท้ายที่สุดผู้ใดที่มีอำนาจในการควบคุมทหาร ผู้นั้นถึงจะเป็นคนที่มาอำนาจมากที่สุดอย่างแท้จริง แต่ เรื่องนี้เป่ยจื่อห้าวทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น
คนที่แม้แต่เสด็จพ่อยังต้องไว้หน้า แน่นอนว่าเขาก็ ไม่กล้าจะลงมือทำอะไร ตอนที่มายังเตรียมของกำนัล เล็กๆน้อยๆมาเพื่อมอบให้ตอนที่รับตัวจางยวี่โหร่วกลับ คืน
ถึงแม้เป่ยจื่อห้าวจะกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่กล้า บุกรุกเขาไป ทําได้แค่อดทนรอให้ไปแจ้งข่าว แต่ใน ใจกลับกังวลแทบตายไม่รู้ว่าตอนนี้จางยวี่โหร่วจะเป็น อย่างไรบ้าง
สมควรตาย เขาต้องแลกตัวนางกลับมาอย่างราบรื่น ให้ได้ นางเป็นอาวุธที่จะช่วยให้เขาแย่งชิงบัลลังก์
แต่กลับคิดไม่ถึงว่ารอมาสักพักใหญ่ กลับรอแค่ ประโยคเดียว “ ท่านอ๋องกำลังเข้าเรือนหอ รับสั่งว่าไม่ ให้ใครมารบกวน ”
เป่ยจื่อห้าวรู้ถึงเหมือนถูกน้ำเย็นสาดตั้งแต่หัวจรดเท้า เยือกเย็นไปทั่วทั้งหัวใจ
ตอนนี้เขาควรจะรู้สึกอย่างไร? ทุกสิ่งที่ตัวเองทุ่มเท วางแผนมาทั้งหมด ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง!
ก่อนหน้านั้นเพื่อที่จะเอาชนะใจของจางยวี่โหร่ว เขา ใช้ความพยายามมากมาย ตอนนี้กลับทำชุดแต่งงาน เพื่อให้กับคนอื่น
ไม่เพียงแต่สิ้นหวังในราชบัลลังก์ ภรรยาที่เพิ่งจะ แต่งงานก็ถูกพาตัวไปและสวมหมวกสีเขียวให้เขา เขา เป่ยจื่อห้าวไม่ใช่ว่าจะตกต่ำไปเป็นตัวตลกของทุกคน หรอกหรือ
เขาซักถามอย่างไม่เต็มใจเล็กน้อยว่า “ เป็นไปได้ อย่างไร เจ้าไม่ได้บอกเรื่องเจ้าสาวผิดคนกับท่านอ๋องหรอก คนที่ถูกพาตัวมายังตำหนักชิงผิงนั้นควรจะเป็น เจ้าสาวของข้า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ”
ทหารองครักษ์คนนั้นหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “ ข้า บอกท่านไปแล้วว่าท่านอ๋องกำลังเข้าเรือนหอ ผิดพลาด ไม่ผิดพลาดอะไรกัน เมื่อแต่งงานและเข้าเรือนหอกับ ท่านอ๋องก็ถือว่าเป็นผู้หญิงของท่านอ๋องแล้ว แม้จะพาก ลับไปแล้วจะทำอย่างไรได้?
ทหารองครักษ์คนหนึ่ง กลับกล้าแสดงท่าทางพูด กับเขาที่เป็นองค์ชายสามเช่นนี้ เป่ยจื่อห้าวจึงโกรธ เดือดดาลมาก เสียงคำว่า “ บังอาจ ” นั้นติดอยู่ลำคอ ไม่ เอ่ยปากพูดออกมาครู่ใหญ่
สมกับเป็นคนของท่านอ๋องชิงผิงจริงๆ ความเย่อหยิ่ง ช่างอวดดีเช่นนี้
สมควรตาย หากจางยวี่โหร่วถูกพรากความบริสุทธิ์ ไปแล้วก็เท่ากับเป็นผู้หญิงสำส่อน ผู้หญิงแบบนี้นางจะ ยอมรับได้อย่างไร?
แต่หากไม่มีจางยวี่โหร่ว เขาจะมีสิทธิไปแย่งชิง บัลลังก์ได้ยังไง? เป่ยจื่อห้าวโกรธจนตัวสั่น มือทั้งสอง ข้างกำหมัดแน่น แต่สุดท้าย เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้ เพียงจากไปอย่างผิดหวัง คล้ายกับไก่ตัวผู้ที่แพ้พ่าย อย่างจนตรอก
เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อๆกันทำให้เขาตอบโต้ไม่ไหว และในตอนนั้นเขาถึงจะตระหนักถึงความน่าสงสัยและความรุนแรงของเรื่องนี้ จึงรีบเข้าวังไปขอพบฮ่องเต้และ ขอความเป็นธรรมให้แก่เขาในทันที
เขาไม่ได้สงสัยจางยวี่โหร่วในเรื่องนี้เลย ภายใต้การ แผนการของเขา จางยวี่โหร่วนั้นรักเขาจนถอนตัวไม่ได้ มาตั้งนานแล้ว ถึงขนาดเสนอว่าต้องการแต่งงานกับเขา เอง ดังนั้นนี่อาจจะเป็นแผนการของท่านอ๋องชิงผิง ข่าว ฉาวของเขานั้นโด่งดัง หลังจากจางยวี่โหร่วเข้าตำหนัก ของเขาไปแล้วยังจะสามารถออกมาปลอดภัยอีกไหม?
แต่ถึงอย่างไร เรื่องนี้อาจยังมีทางที่ดีกว่า จะเป็น ความโชคดีหรือหายนะก็หรือไม่อาจทราบได้
เป่ยจื่อห้าวคุกเข่ารอฮ่องเต้อยู่ที่หน้าประตูทางเข้า วังมาหนึ่งคืน ตลอดจนถึงตีห้าของวัน เมื่อฮ่องเต้ตื่น บรรทมเข้าประชุมราชสำนักในตอนเช้าถึงมีคนมา รายงานให้ทราบ
เมื่อวานองค์ชายสามกับอ๋องชิงผิงแต่งงานในวัน เดียวกัน นับว่าเป็นวันมงคลคู่ที่ดี หลังจากที่ฮ่องเต้กลับ วังก็ได้รับข่าวว่าอุทกภัยในภาคใต้ได้รับการแก้ไขอย่าง สมบูรณ์ผ่านวิธีการ “ ขุดลอกคลอง ” เรียบร้อยแล้ว น้ำ ท่วมได้ลดลง เขาอารมณ์ดีอย่างมาก นอนหลับได้อย่าง สบายใจเป็นพิเศษ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่อง แบบนี้ในตอนเช้า
ถึงแม้จะเป็นฮ่องเต้ที่ดูแลกิจการของแผ่นดินต่างๆ มากมายทุกวัน ก็รู้สึกตกตะลึง สลับเกี้ยวแต่งงานผิดคน อะไรกัน เรื่องแบบนี้นั้นไม่เคยได้ยินมาจากไหนเลย
เป่ยจื่อห้าวได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ก็รีบฟ้องร้องทันที “ เสด็จ พ่อท่านต้องช่วยข้านะ ท่านอ๋องชิงผิงแย่งภรรยาของข้า อย่างโจ่งแจ้ง ข้าไปขอรับตัวที่หน้าประตูบ้าน แต่กลับ ถูกไล่ออกมาและยังพูดฉีกหน้าข้าอีก เขากล้าไม่สนใจ เสด็จพ่อและไม่สนใจกฎหมายของแผ่นดินหนานหมู่ เช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ”
หลังจากที่ฮ่องเต้ได้ฟังก็ไม่ได้โกรธและต้องการ เอาผิดอ๋องชิงผิงแต่อย่างใด แต่กลับจมดิ่งอยู่ในความ คิด ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะเอ่ยปากพูดออกมา ” มีการ เข้าใจผิดกันในเรื่องนี้หรือเปล่า เมื่อวานนี้ก็เป็นช่วงเวลา ที่อ๋องชิงผิงแต่งงานเช่นกัน ขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวไป ทางเดียวกันพอดี หากเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางก็ไม่ใช่ ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งเจ้าก็ไปรับตัวเจ้าสาวด้วยตัว เองไม่ใช่รึ จะเกิดความผิดพลาดจริงหรือไม่ ตัวเจ้าเอง ก็รู้แน่ชัด ”
เป่ยจื่อห้าวพูดอะไรไม่ออกในทันที ในตอนนี้อ๋องชิง ผิงเพียงแค่ส่งขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวมาขบวนเดียว ตัวเขาเองก็ไม่ได้ปรากฏตัว เขามาฟ้องร้องโดยตรงเช่น นี้นั้นไม่มีความน่าเชื่อถือจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวัง มากยิ่งขึ้น ก็คือท่าทีของฮ่องเต้ ไม่ได้ยืนอยู่ข้างเขาใน ครั้งแรกเลยแม้แต่น้อย
“ เสด็จพ่อ หลังจากที่ข้าไปรับตัวเจ้าสาวที่ตำหนัก ไท่ซือ ข้าอยู่ข้างกายยวี่โหร่วมาตลอด จะเข้าใจเจ้า สาวตัวเองผิดได้อย่างไร มีเพียงแค่ตอนที่ฝนตกหนัก ระหว่างทางเท่านั้น ทุกคนล้วนเข้าไปหลบฝนในวัด คน ของอ๋องชิงผิงต้องลงมือในเวลานั้นเป็นแน่
ฮ่องเต้ไตร่ตรองเล็กน้อย “ ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้ว ” เรื่องนี้จะเป็นเช่นไร ก็มีเพียงแค่จางยวี่โหรวกับคุณหนู หลินจือที่สามารถอธิบายได้ เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะตรวจ สอบเรื่องนี้และทวงความยุติธรรมคืนให้เจ้าแน่ ”
ใบหน้าของเป่ยจื่อห้าวนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ ข้าไม่ได้ต้องการความยุติธรรมอะไร ข้าต้องการเพียง แค่ยวโหร่ว ”
ถึงแม้จางยวี่โหร่วจะสูญเสียความบริสุทธิ์ไปเข้าไม่ ก็สนใจ และยังจะแต่งงานกับนางแต่งตั้งนางเป็นพระ ชายา เช่นนั้นจางยวี่โหร่วจะต้องรู้สึกซาบซึ้งใจอย่าง มากและติดตามเขาอย่างตายใจ ทั้งตระกูลของจาง ไท่ซือก็จะต้องมองเขาใหม่ นี่คือสิ่งที่เป่ยจื่อห้าวเรียกว่า “ เป็นโชคดีไม่ใช่หายนะ “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ