บทที่2
คฤหาสน์
เท้าเรียวงามที่แกว่งไปมาในสระ ทำให้เกิดคลื่นน้อยๆ สีหน้า เหม่อลอย ความเย็นที่ซึมซับเข้าผิวหนังบอบบาง ไม่อาจทำให้ หัวใจของสาวสวยอย่างมนธิรารู้สึกเย็นตามไปได้เลย หัวใจที่ เหมือนหมดอาลัย หัวใจที่สับสนทุกข์ระทม นั่งคิดอะไรอย่าง เหม่อลอย
กี่ปีที่ตัวเองได้ผ่านพ้นชีวิตอันน่ารันทดของผู้พ่อ ที่กระทำต่อ ลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง คงไม่มีครอบครัวไหนอีกแล้วที่ต้องมา เจอเหตุการณ์แบบนี้ ขายได้แม้กระทั่งลูกในไส้
ครอบครัวที่เคยอบอุ่น มีพ่อ แม่ ลูกอันเป็นที่รัก ต้องมา เปลี่ยนไป หลังจากที่แม่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน พ่อที่เคย ทำงานเพื่ออุทิศแรงกายและแรงใจทำงานไม่เคยย่อท้อ ไม่เคย เอ่ยปากบ่น กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กินเหล้าเมายา แถมติดการพนันอย่างไม่หน้าเชื่อ บางวันข้าวสารกรอกหม้อก็ยัง ไม่มี ทำให้เด็กหญิงร่างผอมบางต้องอดมื้อกินมื้อ
แล้ววันแห่งความปวดร้าวก็ก้าวเข้ามา ทำให้เด็กสาววัยสิบ อย่างหล่อนต้องระหกระเหิน สู่บทเรียนบทใหม่ในชีวิต รับเอา ชะตากรรมที่กำลังเล่นงานโดยไม่รู้ตัว
วันเวลาเดินผ่านไปในแต่ละวันดูแสนยาวนาน แค่ความหวัง น้อยนิด คิดไว้ว่าสักวันมันอาจจะเป็นความจริงขึ้นมาบ้าง ตอนนี้แค่หวังให้ผู้เป็นพ่อกลับมารับเธอกลับไป แต่การรอคอย ก็ดู เลือนรางเต็มที
สิบปีแห่งการรอคอยมันมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแม้เงาผู้ให้ กำเนิด มันช่างเจ็บปวดและทรมานใจยิ่งนัก…
“หนูบี! นั่งทำอะไรอยู่ คุณใหญ่กำลังจะมาถึงอยู่แล้ว”
บีสะดุ้ง สติสัมปชัญญะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิม เธอรีบดึง ขาที่เปียกน้ำของตัวเองขึ้นขอบสระทันที
เสียงเรียกที่ดังออกมา ไม่ได้ทำให้สาวสวยอย่างเธอตกใจ แต่ สิ่งที่ทำให้ตกใจและหัวใจเต้นแรงผิดปกติ คงเป็นเพราะชื่อของ ใครบางคนเท่านั้น…
ผู้ชายใบหน้าเข้ม ที่เจอครั้งแรกหล่อนถึงกับร้องไห้กอดผู้ เป็นพ่อไว้แน่น เมื่อรับรู้ว่าผู้เป็นพ่อจะส่งเธอให้กับผู้ชายร่างใหญ่ ที่นั่งจังก้า แววตาที่ทอดมอง ผู้เป็นพ่อของเธออย่างเหยียดหยัน คงสมเพชกับการกระทำของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าพ่อ ที่คิดจะขายแม้ กระทั่งลูกสาว
แม้ชายหนุ่มจะไม่เอ่ยอะไรเลย หากแต่ผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่เอ่ย “หากคุณธาดาไม่รับลูกของผมไว้ ผมก็จะเอาไปขายซ่อง แล้วเอา เงินที่ได้มา มาใช้หนี้และเสียดอก ให้คุณ” คนเป็นพ่อเอ่ยอย่าง ไม่รู้สึกรู้สา แต่เด็กน้อยร่างบางถึงกับเข่าอ่อนทนยืนฟังค่เอ่ย ของผู้เป็นพ่อไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่คิดอายใคร
จะเป็นเพราะความเป็นคนอยู่บ้างหรืออย่างไร ชายหนุ่มจึง จำใจรับเด็กหญิงไว้ พร้อมกับให้เงินก้อนหนึ่งกับผู้ชายที่ได้ใช้ลูก ของตัวเองเพื่อขัดดอก นับแต่นั้นก็เงียบหายไม่เคยย่างกรายมา ให้เห็นอีกเลย
“ค่ะ” หญิงสาวตะโกนรับออกไป รีบลุกขึ้นไปหาคนต้นเสียง
ทันที
อาการฉีกยิ้มของสาวสวยตรงหน้า ทำให้ผู้หญิงต่างวัยอด ถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“เป็นอะไร ยังทำใจให้ชิน ไม่ได้อีกหรือ? ” ป้าจุ่มหญิงวัยกลาง คนส่งยิ้มบางๆ นางรู้ใจหญิงสาวคนนี้ดีกว่าใคร เพราะหญิงสาว ตรงหน้าไม่มีใครอื่น ที่สนิทและรู้ดีเกี่ยวกับชีวิตของเธอนอกจาก ป้าจุ่ม หากจะมีก็คงเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัย และเรื่องไม่ สบายใจส่วนมาก จึงตกมาเป็นเรื่องที่ต้องมีอะไรมาบอกกล่าว เสมอ หากวันไหนเธอรู้ตัวว่ากำลังต้องการระบายออกจากใจที่ หนัก นางจึงเป็นผู้รับฟังและปลอบใจที่ดีเสมอ
คนเราหากบางเวลาต้องการจะระบายความในใจ ถึงจะ ไม่ใช่คนใกล้ชิดดั่งเช่นญาติพี่น้อง แค่ใครก็ได้ที่พร้อมจะเป็นผู้ ฟังที่ดี คนนั้นก็พร้อมจะปลดปล่อยสิ่งอัดอั้นไว้ได้ และเพราะ เหตุผลนั้นแหละ ที่ป้าจุ่มรู้ว่าหญิงสาวประหม่าแค่ไหน ผู้ที่รับ หล่อนมาในฐานะผู้หญิงขัดดอกแต่กลับกัน หล่อนได้สิทธิพิเศษ กว่าใครๆ คือได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยจนจบ และก็มีเงินเดือน เหมือนลูกจ้างทั่วไป ถึงหล่อนจะทำในช่วงหลังเลิกเรียน และ เสาร์ อาทิตย์ก็ตาม นี่คือความปรานีของผู้ชายคนนั้น ที่ส่งเสียใช้จ่ายการเรียน โดยโอนเข้าบัญชีหล่อนทุกเดือน ตลอดเวลาเขาไม่อยู่เมืองไทย
แล้วอย่างนี้หล่อนจะพบหน้าผู้ชายคนนั้นฐานะอะไร ตอน นี้หล่อนทำใจแต่ใบหน้าหล่อเข้ม หล่อนไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มของเขาเลย ช่วงนั้น มันยังติดของหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง
“ใหญ่คงเข้าไปและหยุดเดินกะทันหัน เมื่อเห็นความผิดแปลกกับสิ่งจอดอยู่ ด้านหน้า
รถเบนซ์ใหม่เอี่ยมมันวาวจอดอยู่หน้าตึก การกระทำคน ที่เดินอยู่ด้านหน้า ส่งผลให้คนด้านหลังถึงจิกเบรกกะทันหัน
“อะไรหรือคะจุ่ม?ร่างเอ่ยถาม เพราะหล่อนก็ยัง ไม่ว่ามีอะไรขวางเดินทำให้ป้าต้อง
“หนู…จะใจลอยถึงไหนเสียงต่อว่าเบากับสายตาที่ ค้อนแต่หญิงสาวอย่างหล่อนว่าที่จริงนั้น แฝงด้วยห่วงใย
“คะ!” หล่อนทําตาโตอย่างจริงว่าป้าจิ้มพูดและเหมือนกำลังบอกอะไร มันคืออะไร สติหล่อนเพิ่งมาตอนชนป้าจุ่มนั่นแหละ และดีเท่าไหร่ที่หลอนไม่เผลอชน
“หนู…ป้าบอกว่าใหญ่คงข้างในแล้วละป้าจุ่มพูด สายยังค้อนหญิงตรงหน้า ไม่เลิก มันไม่ได้จริงจังอะไรต่างคนต่างความกังวลจึงไม่บนใบหน้าของทั้งสอง
” ขอโทษนะคะ” ร่างบางหน้าเหวอ ทำให้พลาด จะเจอคุณหนูของป้าจุ่มเป็นคนแรก ขอโทษจริงนะ”
ร่างบางสวมกอดนางทันที ด้วยความเล่นขี้อ้อ อ้อนของ หล่อนเช่นเป็นคนเดินเปิดประตูให้ชายหนุ่มเอง วันเขา กลับมา แต่เพราะหล่อนออกมาจากตึก ทำให้ป้าจุ่มต้องเดินออก มาตาม ทำให้นี่แหละต้องไถ่โทษด้วยกิริยาและถ้อยคำหวานผสมกับ ความขี้อ้อนของหล่อน
เมื่อเจอสายตาออดอ้อนกับคำพูดหวานๆ ของหล่อน ทำให้ สายตาค้อนอย่างจริงจังนักของผู้สูงอายุเปลี่ยนเป็นประกาย อ่อนโยน ทั้งสองประคองเดินไปตึกใหญ่ทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ