บทที่ 7
มนธิราเอียงมองเสียงกระซิบกระซาบระหว่างธาริณีกับเพื่อน อีกคนอย่างแปลกใจ “ใครจะกินอะไรจัดไปเลย งานนี้พี่ชาย เลี้ยงเอง” หลังจากเสียงแหลมเล็กเงียบลง ก็มีเสียงเฮฮาตบมือ อย่างพอใจของเพื่อนๆ ในกลุ่ม แล้วการสั่งเมนูก็เริ่มขึ้น
คนที่โดนกล่าวถึงฉีกยิ้มออกไป เป็นไงเป็นกัน คิดเสียว่าเป็น
รางวัลเลี้ยงส่งน้องตัวเองที่เรียนจบก็แล้วกัน…
ชายหนุ่มคิดให้กำลังใจตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน แต่เงินสดที่ ติดกระเป๋ามาน่ะมันมีไม่กี่พัน ก็น้องกันไม่บอกว่างานนี้มีเพื่อน หนาแน่นนี้น่า
เฮ้อ…งานนี้คนหล่อเหงื่อตก
“ไม่เอาหรือบี” ธาริณียื่นแก้วค็อกเทลสีฟ้าใสให้เพื่อนรัก แต่ก็โดนปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
“ไม่ดีกว่า ขอน้ำส้มก็พอ” ร่างบางเอ่ยพร้อมเอียงหลบ เมื่อ คนที่เอ่ยชวนยื่นแก้วแตะริมฝีปากเธอไปแล้ว
“ก็ได้ ไม่เห็นจะง้อเลย” ดึงแก้วกลับ เอ่ยน้ำเสียงงอนๆ หัน ไปยังอีกคน และไม่ต้องสงสัยงานนี้ต้องมีคนเมาเป็นแน่ เพราะ สภาพที่เห็นทุกคนรินน้ำอัมพันดื่มกินเหมือนน้ำเปล่ากระนั้น
อนาธิปที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เหลือบมองและแอบยิ้มอยู่ในใจ เมื่อ เห็นว่าสาวสวยทุกนางและเพื่อนผู้ชายไม่กี่คนในกลุ่ม ไม่เว้นแต่น้องสาวของเขาเอง ก็กินของที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ทุกคน แต่ คนเดียวที่ไม่แตะต้องเลย ก็คือมนธิรา ทำไมรู้สึกพอใจมนธิรานักนะ…หล่อนไม่เหมือนกับน้องสาว เขาสักนิด ไม่ว่าจะเป็นท่าทางห้าวๆ การแต่งตัว ต่างกันลิบลับ
รสนิยมก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน อีกคนหวานหยดแต่อีกคนเปรี้ยว
จนเข็ดฟัน แต่ก็เป็นเพื่อนรักกัน
การหยอกเย้าที่แหย่กันไปมาในเรื่องอดีต ยกมาเป็นเสียง หัวเราะไม่ขาดสาย และหลายชั่วโมงผ่านไป ตอนนี้รู้สึกว่าบาง คนเริ่มออกอาการเมาเล็กๆ เมื่อรับแอลกอฮอล์เข้าไปเต็มที่
มนธิราเริ่มนั่งไม่ติด เมื่อเข็มนาฬิกาบนข้อมือมันบ่งบอกว่า ได้เวลากลับบ้านแล้วละ แต่คนที่พามาไม่มีท่าทีอยากกลับ เหมือนหล่อนเลย อันที่จริงงานนี้หล่อนบอกปฏิเสธเพื่อนไปแล้ว ว่าไม่อยากมา แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมีบางอย่างทําให้หล่อน ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง
สถานที่แบบนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิงอย่างหล่อนเลย ถึงจะ ไม่ได้ทำอะไรเสียหายตรงไหนก็ตาม แต่คนอย่างหล่อน มันไม่มี โอกาสเหมือนคนอื่นๆ หรอก เพื่อนทุกคนล้วนแต่เป็นลูกคนรวย มีอิสระ แต่ทุกคนไม่เคยรังเกียจหล่อนกลับรักและคบเธอเหมือน เพื่อนคนอื่นๆ หากตอนนี้หล่อนยังอยู่กับพ่อ หล่อนจะมีโอกาส พบเพื่อนแบบนี้ไหม…
แต่ยังไงซะ คนที่ให้โอกาสนี้แก่หล่อน ก็คือเขาอีกนั้นแหละ ผู้ชายที่มองดูเย็นชาต่อหน้าหล่อน แล้วต่อหน้าคนอื่นล่ะ…เมื่อคิดอย่างนั้นหล่อนรีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง ตอนนี้รีบสลัดความไม่ สบายใจทิ้งไป ตอนนี้และเวลานี้เพื่อนเท่านั้นที่จะทำให้หล่อนลืม เรื่องบางเรื่องลงได้
เสียงหัวเราะเฮฮาเรียกสายตาของคนรอบข้างได้ดี ยิ่งได้ อาการเมานิดๆ ของพวกชายหนุ่มทำให้โต๊ะเรียกสายตาคนรอบ ข้างได้ดีทีเดียว
“โต๊ะตรงข้ามไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” เมรีที่นั่งลงได้ไม่ นาน เสียงหัวเราะจากโต๊ะใหญ่ถัดออกไป มันดังเข้าหูเมรี จน หล่อนอดค่อนขอดให้ชายหนุ่มที่นั่งใกล้ๆ ฟังไม่ได้
ชายหนุ่มเห็นด้วย หันมองไปยังคนกลุ่มใหญ่นั้น แต่ในที่ แบบนี้ใครเข้ามาก็ต้องทำใจไว้ หากมัวคิดเล็กคิดน้อยอาจเกิด เรื่องขึ้นได้ ชายหนุ่มคิดได้แบบนั้นก็ไม่สนใจเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น นานๆ สักครั้ง
ธาริณีที่รู้สึกกำลังหลุดโลกเมื่อเห็นเพื่อนๆ โยกย้ายส่าย สะโพกตามเสียงเพลงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างเร้าใจ เวลาล่วงเลย ไปเสียงเพลงและจังหวะโดนๆ ถูกถ่ายทอดออกมาเพื่อให้นัก เที่ยวยามราตรีได้หาความสำราญกันอย่างสุดเหวี่ยง
“บิลุกขึ้น!”
“ไม่เอาณีฉัน…ฉันไม่กล้า” ร่างบางแข็งขึ้นเมื่อเพื่อนรักดึง ให้ลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วส่งสายตาอ้อนวอน ที่บ่งบอกว่า หล่อนน่ะ ไม่กล้าเสี่ยงเต้นแร้งเต้นกาได้หรอก และที่แน่ๆ หล่อนเต้นไม่ เป็น…
“อะไรของแกวะ แค่นี้ก็ไม่กล้า” เพื่อนรักบอกน้ำเสียงหงุดหงิด โดยมือเรียวยังเกาะมือเพื่อนรักอย่างเหนียวแน่นเป็นตังเม “แต่ยังไงซะ! ฉันก็ไม่ยอม” ว่าแล้วหล่อนก็ดึงเพื่อนรักที่ทำ สีหน้าไม่ถูก อยากร้องไห้ก็ไม่ปาน ออกไปจนได้ โดยมีสายตา
ของผู้เป็นพี่ชายมองตามอย่างเหนื่อยใจ กับท่าที่น้องสาวของตัว
เอง
นี่แหละหนานิสัยของยายณี… คิดพลางก็ส่ายหน้า นึกสงสาร คนที่ถูกน้องสาวฉุดกระชากออกไปอย่างเอ็นดูระคนเห็นใจ
เมื่อคนที่โดนบังคับ (จิตใจ) ออกมายืนรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่วาดลวดลายการเต้นอยู่ เห็นว่าเอาตัวออกมาได้ ก็โห่ร้อง อย่างถูกใจ เรียกสายตาของผู้คนรอบข้างได้ดี
ไม่เว้นแต่ธาดาและเมรีที่นั่งจิบไวน์ต้องหันไปดู “ไม่มี
มารยาท!” เมรีเหยียดปากอย่างดูถูกเต็มที่
แต่อีกคนกลับนั่งเงียบ มองภาพกลุ่มที่ส่งเสียงเฮฮานิ่ง แต่ เมื่อมองชัดอย่างตั้งใจในแสงไฟสลัว พลันสายตาสะดุดกับหญิง สาวร่างบางสมส่วน ที่ดูจะผิดแปลกไปจากสาวๆ ในกลุ่มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ดูขัดเขินไม่ยอมโยกย้ายส่ายสะโพกเหมือน คนอื่นๆ และดูเหมือนว่าหญิงสาวและผู้ชายหลายคนดูจะสนใจ เธอคนนั้นเป็นพิเศษ การแต่งตัวที่ธรรมดา อย่างกางเกงยีนส์เสื้อ ยืดแต่มันก็ทำให้เขาสะดุดตา มันแปลกดีนะ พวกสาวๆ ที่ใส่สาย เดียวเกาะอกเขาไม่ยักจะติดใจจะเพ่งมองด้วยซ้ำ แต่กลับไป สนใจกับท่าทีเงอะงะนั้น
…ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าของใครบางคนขึ้นมาทันที…หน้า คล้ายกันมาก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงหวานกระซิบถาม และมองตาม สายตานั้นเช่นกัน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มดูจะมองและสนใจคนกลุ่ม ใหญ่นั้นนานเกินไปแล้ว
“เปล่า…” ชายหนุ่มละสายตาแล้วกลับมาคว้าแก้วไวน์ยกดื่ม พรวดเดียวหมดแก้วกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง
“สนใจใครในกลุ่มนั้นหรือเปล่า?” เสียงหวานยังเอ่ยต่อ ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุ้งน้อยๆ
โชคดีที่คนพูดอย่างทีเล่นทีจริงไม่ได้หันมาสนใจคู่สนทนา หากสายตายังจับจ้องหนุ่มสาวกลุ่มนั้นไม่วางตา แต่แล้วสายตา ของหล่อนเหมือนจะสะดุดกับสาวร่างบาง แม้จะไม่ค่อยถูกชะตา กับสาวใช้ที่พบเมื่อตอนเช้า แต่รูปร่างหน้าตาหล่อนจำได้ติดตา
นั่นมันแม่คนใช้บ้านคุณใหญ่ แล้วคุณใหญ่ไม่เห็นหรือไง ว่าคนใช้ในบ้านออกมาหาความสำราญในที่แบบนี้ มันไม่ สมควร…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ