บทที่ 11 ฟางหยูน
หลังจากที่ฉินเฟิงโดนพาลงจากรถตำรวจ กาวหลินจึงโบกมือไล่ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งรถตำรวจคันเดียวกับฉันเพิ่งออกไป ต่อ จากนี้เป็นจุดไคลแมกซ์ของเรื่องแล้ว เกิดเรื่องอื้อฉาวไม่น้อย เขา เองก็ไม่ยอมลงให้ใครเหมือนกัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามคนได้ฟัง จึงเข้าใจและผละตัวออกไป
ในบรรดานั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าขาวคนหนึ่งยังโอ้เอ้ไม่ ยอมจากไป เหมือนกับว่าอยากจะพูดอะไร แต่ก็โดนอีกสองคน ดึงออกไป
นั่งลง! “กาวหลินตะคอกเสียงดัง
ท้ายที่สุดฉินเฟิงถูกพาไปยังห้องว่างห้องหนึ่งที่ใช้สำหรับเข้า เวร ในห้องนั้นมีเก้าอี้ที่ผุพังอยู่เพียงสองสามตัว บนเก้าอี้เหล่า นั้นฝุ่นเกาะเต็มไปหมด
“หึหึ” ฉินเฟิงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา กาวหลินคนนี้ช่างบัง อาจจริงๆ ขนาดห้องสอบสวนก็ยังไม่ยอมให้เขาเข้า ชักเริ่มมี กลิ่นของการเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องของทางการละ แน่นอนว่าการทําแบบนี้ก็มีผลดีเหมือนกัน ซึ่งก็คือจะไม่มีการทิ้งหลักฐานการบันทึกใดๆไว้ทั้งสิ้น และแม้แต่การตรวจสอบจะไม่ เกิดขึ้น
เมื่อกาวหลินเห็นสถานการณ์ จึงแสยะยิ้มแล้วกล่าวว่า เพื่อน แกคงไม่โทษฉันหรอกใช่ไหม ใครให้แกไปแหย่โดนคนที่ไม่ สมควรแหย่เข้าเล่า รอให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์จนสะใจก่อน แล้วกัน ฉันค่อยช่วยพูดให้แก
“แล้วกันไปงั้นเหรอ ไม่มีทางแล้วกันไปหรอก ฉันจะจองเวรกับ มันไม่จบสิ้น
ในเวลานี้เอง ชายหน้าตอบปากแหลมคนหนึ่งก็บุกพรวดเข้า มา ตัดบทสนทนาของกาวหลิน หน้าฉันเพิ่งแล้วพูดว่า”ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงใช่ไหมว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วขนาดนี้ ยังจำฉันได้ ไหม”
“จำได้สิ แกมันก็ไอ้ลิงที่โดนฉันเตะตูดโด่งไปเมื่อคราวนั้นไง ทำไม ไม่ทันไรก็คิดถึงหมดของฉันแล้วเหรอ”เมื่อเห็นคนที่มาคือ หยวนโหว ฉินเฟิงจึงรีบได้สติขึ้นมาทันที
“จุ๊ๆๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว แกยังจะกล้าปากดีอีกเหรอ ช่างไม่รู้จัก ความเป็นความตายเสียจริง อยากจะให้ฉันอัดแกน้อยลงสักหมัด ก็ไม่ได้”หยวนโหวแกว่งหมัด แต่แค่แกว่งหมัดยังรู้สึกสะใจไม่พอ จึงปล่อยกําปั้นลงไปบนใบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นตะลึงงัน มองไปทางกาวหลิน กาวหลิน พยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นจึงปล่อยกระบองที่เหน็บเอวใส่
หยวน โหว
“ที่นี่คือสถานีตำรวจ พวกแกจะกำแหงกันขนาดนี้เชียวหรือ ฉันเพิ่งแสดงสีหน้าหนักอึ้ง คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะบ้าระห่ำกันได้ ถึงขั้นนี้ เขารู้เรื่องการใช้กระบองเป็นอย่างดี ถ้าลงมือหนักหน่อย ก็อาจจะเล่นเอาอีกฝ่ายถึงตายได้
หยวน โหวหัวเราะฮาลั่น พูดขึ้นว่า “ เป็นยังไง กลัวหรือยัง คุกเข่าขอร้องฉันสิ ”
ในเวลาเดียวกัน เฉินก็ได้รับข่าวไม่ดี
“ไม่มีข่าวคราวของฉินเฟิงเลย สงสัยจะโดน’เก็บ’ไปแล้ว” เฉิน แอบด่าขึ้นมาทีหนึ่ง รู้อย่างนี้ขวางคนพวกนั้นไว้ซะตั้งแต่ที แรกก็ดี ดีที่ว่ายังจํารหัสของหัวหน้าตำรวจคนนั้นได้ แป๊บเดียวก็ ตรวจสอบได้แล้วว่ามาจากสถานีตำรวจใหญ่ เขาจึงรีบขับรถเก๋ง สีแดงวิ่งไป
“ที่รัก เพิ่งเจอหน้ากันเมื่อวานเอง ตอนนี้คิดถึงฉันอีกแล้วเห รอ”ฟางหยูนรับโทรศัพท์ของป่ายฉิน พูดพลางหัวเราะคิกคัก
“ตอนนี้ไม่มีเวลามาพูดเล่นกับเธอนะ ฉันเพิ่งโดนคนที่สถานี ตำรวจพาตัวไป ป้ายฉันนั่งอยู่ในห้องทำงาน แต่ก็ยังไม่สามารถ วางใจได้ แม้ว่าเฉินน่าจะแก้ปัญหาได้ แต่เธอคิดว่าควรเพิ่ม หลักประกันไว้อีกชั้นดีกว่า
ฟางหยูนขานรับ”อ่อ” ขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วถามว่า “ เกิดอะไรขึ้น เหรอ”
สำหรับเรื่องที่ฉินเฟิงเกิดเรื่อง ฟางหยูนไม่รู้สึกแปลกใจเลย แม้แต่น้อย เพราะเธอเองก็เคยลิ้มรสกับความไม่เอาถ่านของฉัน เฟิง แถมยังต้องแลกจูบแรกของตัวเองออกไปอีกด้วย คิดมาถึง ตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะให้ฉินเฟิงได้รับบทเรียนเสียบ้าง แต่พอ คิดอีกที ถ้าจะแก้แค้นต้องให้ตัวเธอเองเป็นคนลงมือถึงจะถูก
“เมื่อกี้ฉันตรวจสอบมาแล้ว เขาโดนคนที่ชื่อกาวหลินของ สถานีตำรวจใหญ่พาไป แต่ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เธอช่วยฉันจับตา ดูหน่อย” ในใจของป่ายฉันเองก็รู้สึกสับสนงุนงงเองเช่นกัน เรื่อง ที่เจอเมื่อกี้เห็นได้ชัดเป็นการจัดฉาก ไม่ว่าฉันเพิ่งจะออกโรงหรือ ไม่ ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน
“กาวหลินเหรอ” ในใจของป่ายฉินโดนสะกิดขึ้น หรือว่าจะ เป็นการแก้แค้นจากไอ้ลิงบ้าตัวนั้น จึงพูดเปรยขึ้นว่า ” ได้ ฉันจะ ไปดูเดี๋ยวนี้แหละ รับรองว่าจะคืนตัวที่ไร้ตำหนิคนเดิมกลับมาให้เธอ
“ไอ้บ้า ” ป้ายฉันวางหูโทรศัพท์ลง ใบหน้าแดงขึ้น แม้แต่
ตัวเธอเอง ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าเธอมีความรู้สึกอะไรต่อฉันเป็ งกันแน่ หลังจากที่วางหูโทรศัพท์ สีหน้าของฟางหยูนก็หมองคล้ำลง
ทันที จากนั้นจึงเดินฉับๆออกไป
ไม่นาน ฟางหยูนก็ตรวจสอบออกมาได้อย่างชัดเจน ว่าคนไหน บ้าง ตามกาวหลินออกไป จากนั้นเธอจึงเข้าไปขวางเจ้าหน้าที่ ตำรวจหน้าด่าในจังหวะแรก แล้วตะคอกใส่ว่า “กาวหลินพาคน ไปไหนแล้ว”
ตำรวจหน้าด่าตกตะลึง แล้วจึงรู้สึกตัวกลับมาทันควัน พูดขึ้น ว่า “ หลังจากที่เข้าไปในสถานีตำรวจใหญ่แล้ว ผมก็โดนแยกตัว ออกมา แต่ว่า ผมเห็นว่าพวกเขาเดินตรงไปที่ห้องเข้าเวร
“ถ้าฉันเพิ่งไม่เป็นอะไรก็แล้วไปเถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แม้แต่น้อย แกก็อย่าหวังว่าจะรอดเลย”ฟางหยูนก็ไม่ไว้หน้าเขา เหมือนกัน เธอพรวดพราดไปตามทิศทางนั้น
ในฉากนี้ มีนายตำรวจเก่าแก่ ผมเริ่มขาว อายุราวๆสี่สิบคน หนึ่งเห็นเข้า จึงเรียกนายตำรวจหน้าดำไว้ถามขึ้น ” เกิดเรื่อง อะไรขึ้น เสี่ยวฟางมีอะไรเหรอ
“หัว…….หัวหน้า นายตำรวจหน้าโอดครวญ คิดไม่ถึงว่าจะ เจอหลิวนผู้เป็นหัวหน้าตำรวจเข้า
หลิวสูนเป็นนายตำรวจเก่าแก่คนหนึ่ง พอสอบถามเรื่องราวนิด หน่อย ก็รู้ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงพูดขึ้นว่า “ ไม่ต้องพูดมาก แกรู้อะไรมารีบบอกให้ฉันฟัง ไม่อย่างนั้น……..
“วันนี้กาวหลินพาเราไปจับคนๆหนึ่งกลับมา ฟางหยูนน่าจะไป หาเขานั่นแหละ”นายตำรวจหน้าดำกัดฟันกรอด ไหนๆก็พูดออก มาแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวแล้วจึงพูดออกมามากอีกหน่อย “ข่าวว่าเป็น คำสั่งของรองผู้กำกับการหัวหน้าเห็นว่าอย่างไรครับ…….
“กาวน! “หลังจากที่หลิวสูนได้ยิน ก็รู้สึกตะลึงเล็กน้อย
แต่หลังจากนั้น เขาจึงโบกมืออย่างเด็ดขาด พูดขึ้นว่า ” ถ้า อยากจะทำคุณไถ่โทษก็ตามฉันมา
แม้ว่านายตำรวจหน้าดำจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน แต่ตอน นี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น จึงไล่ตามหลิวปูนไป
ในห้องเข้าเวรที่ถูกทิ้งร้าง
หยวนโหว หูเกอ รวมไปถึงคนอินดี้ ทั้งสามคนกำลังรุมล้อม ฉินเฟิงอยู่
กาวหลินสั่งให้ตำรวจสองสามนายที่ไว้ใจและติดตามมาด้วย ถอยไปอยู่ข้างๆ ไม่ได้ให้เข้าร่วม
เรื่องนี้ทำให้ฉันเพิ่งค่อนข้างพูดไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นหยวนโหว หรือว่าหูเกอรวมไปถึงคนอินดี้ พวกเขาทั้งสามก็ไม่ได้เสียเปรียบ อะไรเลย ในเมื่อตอนนี้กล้าบุกเข้ามาถึงประตู
บ้าน ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจริงๆ
“ไอ้หนู เมื่อกี้แกกร่างมากไม่ใช่เหรอ ตอนนี้หูเกอจะสั่งสอนแก หน่อย ว่าดอกไม้ทําไมเป็นสีแดงแบบนี้ใบหน้าของหูเกอแดงก่ำ แถมยังมีสิวพุพองสองสามเม็ด ยิ่งทำให้ใบหน้าดูเจ้าเล่ห์มากยิ่ง ขึ้น
เขาพุ่งเข้าไป แกว่งหมดออก ตรงตามเป้า หูเกอแสยะปาก ออก เตรียมยิ้ม
แต่ฉันเพิ่งยื่นมือซ้ายออกไป บีบกำปั้นของเธอไว้ ออกแรง กด หมัดของหูเกอก็บิดเบี้ยวผิดรูปผิดรอย ไม่สามารถยืนตัวตรง ได้ ฉันเพิ่งยกเท้าซ้ายขึ้น กระทืบลงไปบนน่องของหูเกอ
“กรวบ ” กระดูกน่องขาช่างบอบบางเหลือเกิน
“โอ๊ยยยย……หูเกอร้องเสียงโหยหวนทรมานราวกับสัตว์ตัว หนึ่ง เขากุมมือ ล้มลงไปบนพื้น ในครั้งนี้ เขาตะกายขึ้นมาไม่ไหว เลยแม้แต่น้อย
คนอินดี้ตกใจร้องเสียงหลง กำลังจะล่าถอย แต่โดนฉันเพิ่งก วดไล่ทัน ศอกขวากระแทกลงบนใบหน้าของคนอินดี้เต็มๆ
“ผัวะ!” ดั้งจมูกของคนอินดี้ยุบลงไปในทันที เลือดสดๆ ทะลัก น้ำตาก็พรั่งพรูออกมาจากเบ้าตาทั้งสองอย่างหยุดไม่ได้
” เป็นไงล่ะ เมื่อกี้จะไปก็ไปได้แท้ๆ ก็ยังจะดันทุรังตามมาแบบ นี้ไม่เรียกว่ารนหาที่แล้วจะเรียกว่าอะไร”ฉันเพิ่งส่ายหน้า ไม่ได้ แยแสเศษสวะสองตัวนี้เลยแม้แต่น้อย แล้วจึงเดินตามหยวน โหว ไป
ท่าทางวางก้านของฉันเชิง ทำให้หยวนโหวเองก็ต้องล่าถอย ไปด้วย
หยวน โหวก่ากระบอง ในมือไว้แน่น ราวกับว่าเป็นที่ยึดความ กล้าหาญไว้ได้หน่อยหนึ่ง แล้วคำรามเสียงดังว่า “ ที่นี่คือสถานี ตำรวจ กล้าทําร้ายร่างกายคนแบบนี้ ยังเห็นกฎหมายอยู่ใน
สายตาหรือเปล่า”
“หึหึ”ฉินเฟิงตอบกลับ
จากนั้นจึงพุ่งขึ้นหน้า ใช้มือเปล่าฉกกระบองจากมือของหยวน โหวมาได้
“อ๊าก……หยวนโหวกุมข้อมือ ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความ เจ็บปวด
“ไม้กระบองมันต้องเล่นอย่างนี้ไว้ย”ฉันเพิ่งทำท่าประหนึ่งครู อบรมศิษย์ ฉับพลันกระบองจังหวัดยื่นออกมาอีกที กวัดแกว่งไป โดนข้อต่อขาซ้ายของหยวนโหวเข้า หยวนโหวไม่ทันแม้แต่จะมี ปฏิกิริยาตอบสนอง จึงคุกเข่าลงไปอยู่บนพื้นทั้งตัว เสียงดัง “โครม”
“อ๊ากกก….อ้ากกก…..ทั้งข้อมือและขารู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้น ทำให้หยวนโหยวคลุ้มคลั่งขึ้นไปอีก คำรามเสียงก้องขึ้นที หนึ่ง กาวหลิน ยังไม่รีบมาช่วยฉันอีก ถ้าฉันตายแกก็จบเหมือน กัน”
“ผัวะ! “ฉินเฟิงทุบไม้กระบองลงไปบนเอวของหยวนโหว หยวนโหวกลายเป็นน้ำเต้าที่ลงไปเกลือกกลิ้งกับพื้นทันที
ในเวลานี้ กาวหลินและนายตำรวจสองสามคนล้อมเข้ามา
“ไอ้หนู ทําร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจมีโทษหนักนะ แก มั่นใจว่าแกรับไหวเหรอ”กาวหลินเองก็ยังรู้สึกหวาดเกรงฝีมือ ของฉันเพิ่งอยู่บ้าง จึงได้ใช้แต่ตำแหน่งมาขู่ฉินเฟิง
“โทษหนักขนาดนี้ฉันคงรับไม่ไหวแน่”สีหน้าของฉันเพิ่งดู สบายอารมณ์ เขาส่ายหัว แล้วจู่ๆก็ยิ้มขึ้น แล้วพูดว่า”โชคดีที่ พวกแกหาสถานที่ดีขนาดนี้ให้ฉัน ต่อให้ซ้อมพวกแกแล้ว ใครจะไปรู้
กาวหลินเองก็เป็นคนโหดร้ายไม่เบา เขากัดฟันกรอด พูด ขึ้น “คนๆนี้จับกุม ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับมันซะ”ต่อ ให้สองสามคนนี้เอาฉันเพิ่งไว้ไม่อยู่หมัด แต่แค่มีข้อหาให้จับกุม ฉันเพิ่งโทษฐานที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องอื่นๆ ก็จะ ง่ายขึ้นมาก
สิ่งที่น่าเสียดายคือ ฉันเพิ่งกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องนี้ เลย
“มา วันนี้ฉันจะเล่นกับพวกแกเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้า หน้าที่ตำรวจที่ถือไม้ตะบอง ฉันเพิ่งล่าถอยแล้วก็รุดขึ้นหน้า ทำ ราวกับไม้ตะบองในมือเป็นกระบี่ที่ร่อนไปมาบนตัวเจ้าหน้าที่ ตำรวจพวกนี้อย่างไรอย่างนั้น
“ผัวะ! ”
“ป้าบ! ”
“ตุ้ง! ”
ไม่มีใครที่หลังจากโดนฉินเฟิงซ้อมแล้ว จะยังคงยืนอยู่ได้ ต่าง ก็หมอบราบลงกับพื้นทั้ง
สิ้น แต่ฉินเฟิงกลับไม่เคยปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแบบนี้หรอก ไม้ตะบอง กวัดแกว่งทำให้คนพวกนี้รู้สึกเจ็บปวดได้มากเพียงพอ แต่ก็ไม่ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ก็แค่ อัดลงไปทีเดียวก็เท่านั้น
ในชั่วพริบตา ที่แห่งนี้ก็กลับกลายเป็นเหมือนป่าดงดิบที่เต็ม ไปด้วยเสียงร้องค่า
รามโหยหวนของสัตว์ป่า
“หยุด….หยุดได้แล้ว………ในฐานะที่เป็นหัวโจก แน่นอนว่า หยวน โหวจะต้องโดนหนักที่สุด เขาเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น พร้อมกับร้องขอชีวิต ความยโสและโอหังที่แสดงออกมาก่อน หน้า ได้มลายหายไปในพริบตา
“ห้ามขยับทั้งหมดนั่นแหละ ยกมือขึ้น ไม่อย่างนั้นฉันยิ่ง ทันใดนั้น เสียง”โครม”ดังขึ้น ประตูของห้องเข้าเวรถูกถีบออก อย่างแรง ฟางหยูนผู้ซึ่งในมือถือปืนสั้นบุกทะลวงเข้ามาอย่างเท่
“เอ่อ…..แต่หลังจากที่เธอเห็นสภาพห้อง เธอเองก็ไม่รู้ว่าควร
จะไปต่ออย่างไร
“ไฮ้ คนสวย เราเจอกันอีกแล้วนะจ๊ะ” ฉินเฟิง โยนกระบอง ใน มือขึ้นกลางอากาศ แล้วโบกมือให้กับฟางหยูน
“ไอ้สถุน ” ฟางหยูนกลอกตาขาวขึ้น พูดด้วยท่าเสียอารมณ์ หัวหน้าหลิวสูนกับนายตำรวจหน้าตามเข้ามามองดูสภาพคนกองระเนระนาดอยู่ต่อหน้าต่อตา กาวหลินเอง แม้ว่าอาจจะไม่ได้เป็นคนที่มีความประพฤติดีสักเท่าไหร่ แต่ว่าก็ เป็นคนที่มีฝีมือพอตัว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาเป็น รองผู้กํากับได้หรอก
แต่ว่าสภาพกาวหลิน ในตอนนี้ เขานอนกอดเข่าคุดคู่เกลือก กลิ้งอยู่บนพื้น มันก็ออกจะดูแปลกตาเกินไปหน่อย
“ก๊ากกก! ” ฟางหยูนอดออกมาไม่ได้ แล้วพูดขึ้น ” เธอว่า ถ้าถ่ายภาพนี้เก็บไว้แล้วโพสต์ลงเน็ต ยอดกดไลค์น่าจะเยอะเนอ
“อ่ะแฮ่ม เสี่ยวฟาง เรื่องแบบนี้ล้อเล่นไม่ได้นะ”หลิวสูนกุลีกุจอ เข้าไปห้าม ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ เขาผู้ซึ่งเป็นหัวหน้า คงจะต้องเดือดร้อนตาม
ฉินเฟิงเองก็ไม่อยากจะอาละวาดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ จึงพูด กับหลิวสูนว่า “เรื่องในนี้พวกคุณคงจะเข้าใจชัดแล้วนะ ฉันมีเรื่อง อยากจะขอแค่เรื่องเดียว ต่อไปอย่าให้คนพวกนี้มาปรากฏตัวต่อ หน้าฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะคิดบัญชีรวม”
หลิวสูน บอกแล้วพูดขึ้น ” ขอแค่ฉันยังอยู่ในสถานีตำรวจ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”นับตั้งแต่ต้นเรื่องจนท้ายเรื่อง แม้แต่สถานภาพของฉันเพิ่งเขาเองก็ ยังไม่ได้เอ่ยปากถาม เขาก็เลือกได้แล้วว่าจะต้องอยู่ฝ่ายไหน
ส่วนเรื่องทําร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอะไรนั่น หลิวปูนไม่เพียงแต่ จะไม่เอ่ยถาม แม้แต่พวก
คนที่กองระเนระนาดอยู่บนพื้น เขาก็ไม่ยอมพูดถึง ดูจาก
สภาพการณ์ตอนนี้ ถ้าฉันเพิ่งจะ
เอาเรื่องให้ได้ พวกเขาก็คงจะไม่มีใครได้จบลงแบบสวย แน่นอน
ในตอนที่เฉิน รีบรุดมาถึงหน้าประตูสถานีตำรวจ ก็เห็นฉันเป็ งกับฟางหยูนเดินพูดคุยหัวเราะกันออกมาแล้ว เขาตะลึงอ้าปาก ค้างจนคางแทบจะแตะพื้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ