ผู้ชายคนนี้ฉันจองแล้ว

บทที่9 เธอก็จะพนันสักตั้งเหมือนกัน



บทที่9 เธอก็จะพนันสักตั้งเหมือนกัน

บทที่9 เธอก็จะพนันสักตั้งเหมือนกัน

ลิฟต์ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้น รวมไปถึงจ้าวหยางหลินที่ ค่อยๆเนียนเข้ามาใกล้อย่างคนได้คืบจะเอาศอก “ไปเสว่ เอ๋อร์ตัวคุณหอมมากเลย วันนี้ฉีดน้ำหอมมาเหรอครับ?”

โชคดีที่ลิฟต์ถึงชั้นพอดี ไป๋เสว่เอ๋อร์โค้งหลบถอยห่างได้ พอดี ก่อนจะส่งยิ้มเป็นกันเองเนียนๆไป “ประธานจ้าว ถึง แล้วค่ะ”

ความสวยงามของคนตรงหน้าราวกับโจรที่หวังจะมา หลอกล่อเขาให้ลุ่มหลง แม้อีกคนจะพยายามเว้นระยะ ห่างแต่จ้าวหยางหลินก็ไม่ได้รู้สึกโมโหแต่อย่างใด ซ้ำเขา ยังเป็นต่อเสียอีก อีกคนเป็นเหยื่อ เขาก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าอีกคนจะยังหลบออกจากกรงเขาได้อีกไหม?

หลังจากเข้าห้องมา จ้าวหยางหลินในใจแทบไม่ได้สนใจ ข้อความบนเอกสาร ในหัวเขามีแค่การชักชวนดื่มและ เรื่องที่จะลวนลามคนตรงหน้า

แค่มองก็ทำให้เธอรับรู้ว่าเธอเอาไม่อยู่ ก่อนจะรีบหาข้อ อ้างไปเข้าห้องน้ำ
ยืนตรงอ่างล้างมือ หญิงสาวตัดสินใจหยิบซองยาออกมา จากกระเป๋า พนันกันสักตั้งละกัน

หันกลับออกมาจากห้องน้ำ เดินไปได้ไม่เท่าไหร่หัวก็ชน เข้ากับคนที่เดินสวนมาเข้าให้

“ใครเนี่ย ไม่มีตามองทางเดินหรือไง?”

เสียงที่แสนคุ้นนี่มัน…

ไปเสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะเจอใบหน้าที่ถูก แต่งแต้มด้วยเครื่องสําอางค์ราคาแพงของจินจิงจิง

“คุณหนูไป์นี่เอง เรามาคุยกันหน่อยไหม?”

ไปเสว่เอ๋อร์ไม่ได้สนใจ เธอท่าแค่ก้มลงหยิบของที่ตก ตอนชนไว้ก่อนจะเดินละออกมา

“นังบ้านั่น ยังจะมาแอ๊บทำตัวหยิ่งอีก”

จินจิงๆกระทืบเท้าอย่างระบายอารมณ์โกรธ ก่อนจะก้ม ลงมองและหยิบมันขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีซองยาใบเล็กตกอยู่ บนพื้น

หลังจากนั้นดวงตาก็แปลเปลี่ยนเป็นสุกวาว มองตามทางที่ไปเสว่เอ๋อร์เดินห่างออกไป

ทันทีที่ไปเสว่เอ๋อร์เดินกลับถึงห้อง เธอล้วงหยิบถุง สำคัญที่เธอเก็บไว้ ถุงยาไม่มีงั้นเหรอ?

เสียงกดกริ่งหน้าประตูดังขึ้น ก่อนจะเป็นพนักงานของ โรงแรมเดินเข้ามา ในมือมีเหล้าชั้นดี “ท่านประธานจ้าว เหล้าขวดนี้เป็นสิ่งที่ทางเราตั้งใจเตรียมมามอบให้

“โอเคๆ วางไว้นั่นล่ะ นายออกไปได้ละ” จ้าวหยางหลิน รีบพูดอย่างคนใจร้อน

ก่อนที่เขาจะหันกลับมายิ้มอย่างมีเลศนัย “ไป๋เสบู่เอ๋อร์ ตอนที่คุณออกไปสักครู่ผมก็พอจะได้อ่านเอกสารอย่าง ละเอียดแล้ว เงื่อนไขของคุณน่าสนใจมาก ผมก็ไม่ได้เป็น คนไม่มีเหตุผลหรอกนะ แต่ว่าหากคุณดื่มเหล้านี้หมด ผม ก็ค่อยตัดสินใจเซ็นต์มัน คุณว่าเป็นไง?”

คิดแล้วคิดอีก เธอก็สามารถดื่มได้แค่เหล้าที่เทเต็มแก้ว แค่แก้วเดียวเท่านั้น ตอนนี้ตระกูลไป๋จะขัดอะไรจ้าวหยาง หลินเขาได้กันนะ

ไปเสว่เอ๋อร์ดื่มมันลงไป ทันทีที่ผ่านลำคอเธอก็รู้สึกถึง ความร้อนผ่าว รู้สึกยาวไปจนถึงความร้อนวาบของแอล กอร์ฮอลที่ลากผ่านไปจนถึงกระเพาะ
“ๆๆ! คุณหนูป่ช่างเป็นคนตรงไปตรงมาเสียจริง

ไปเสบู่เอ๋อร์ส่ายหัวเล็กน้อยอย่างคนตั้งสติ ภาพตรงหน้า เริ่มเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงหน้าของจ้าวหยางหลิน ก็ยังแทบมองไม่ชัด ฤทธิ์เหล้ามันออกเร็วขนาดนั้นเลยเห รอ?

“ประธานจ้าว คือฉันมีเรื่อง….

หูเริ่มฟังเสียงทุกอย่างเป็นเสียงแว่ว ยังไม่ทันที่เธอจะ ตอบจบ วิสัยทัศน์รอบด้านก็เริ่มที่จะดับมืด รวมไปถึงร่าง ของเธอที่ไร้เรี่ยวแรงเสียจนเป็นศูนย์

จิตสำนึกยังคงพอจะรับรู้สึกถึงมือร้อนที่แตะต้องไปทั่ว

ร่างกาย

แน่นอนว่าโดนยาเข้าไปแน่ๆ…

ทันทีที่คิดได้ ไปเสบู่เอ๋อร์ก็หมดสติไปโดยสมบูรณ์

ที่มุมทางเดินด้านนอกห้องส่วนตัว จินจิงจึงดึงเงินสด ออกมาจากกระเป๋าสตางค์อย่างสะใจ หยิบเงินเอาให้ พนักงานคนที่เมื่อกี้เอาเหล้าเข้าไปให้จ้าวหยางหลิน

ทันทีที่พนักงานเดินออกไป จินจิงจิงก็ขยำกระดาษที่ห่อยาในมือเป็นกลมๆและทิ้งลงไปในถังขยะ “นังบ้าไปเส ว่เอ๋อร์ยังจะมาทำตัวหยิ่งผยองอีก คิดจะสู้กับฉันเหรอ”

ทันทีที่ว่าจบเธอก็เหยียบเข้าให้ที่หัวของรองเท้าส้นสูง ก่อนจะไม่ตอบอะไรและเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที

ไม่นานก็มีอีกสองคนเดินตามทางเดินมา

หนึ่งในนั้นเดินตรงไปที่ถังขยะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ ดึงกลุ่มกระดาษขนาดเล็กออกมาและตรวจดูอย่าง ระมัดระวัง จากนั้นก็กดดมกลิ่นตรงจมูก สีหน้าเปลี่ยนเป็น ตกใจในทันที “ท่านครับ นี่มันเป็นการวางยา!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ