ผู้ชายคนนี้ฉันจองแล้ว

บทที่5 ได้ประโยชน์ทั้งคู่



บทที่5 ได้ประโยชน์ทั้งคู่

บทที่5 ได้ประโยชน์ทั้งคู่

ว่าจะพูดอีกสักประโยคแต่ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ขัดขึ้น “เท่าไหร่?”

“ร้อยห้าสิบล้าน”

“ก็ไม่เยอะมาก” มุมปากหนายกขึ้น ก่อนจะยิ้มแล้วว่าต่อ “ก็นะ คุณหนูไปให้ราคาตัวเองแค่นี้เองเหรอ?”

“ฉัน…” ไปเสว่เอ๋อร์นิ่งอึ้ง

“ร้อยห้าสิบล้านถึงมันจะไม่ได้เยอะอะไรสําหรับผมแต่ ให้ฟรีๆก็คงไม่ได้” มือหนาวางมือถือที่เขานำขึ้นมาเล่น ก่อนนัยน์ตาสุกใสจะกลับมาเย็นชาเสียจนยะเยือก

“อย่างน้อยการที่เมื่อเช้าคุณหนูไป๋จากผมไปโดยไม่ร่ำ ลา ผมมองไม่เห็นความจริงใจเอาเสียเลยกับวิธีนี้..…….

คนตัวสูงยิ้มหยัน “ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกในตระกูลไป๋ จะเป็นแบบนี้กันทั้งหมดไหมแบบนี้ผมคงต้องมานั่งตัดสิน ใจใหม่แล้วล่ะว่าควรจะให้คุณยืมเงินหรือเปล่า”

แน่นอนว่าเลขาของเธอได้เตือนเธอแล้วว่าการที่พวกเราจะเอาเนื้อออกมาจากปากของสัตว์ร้าย ถ้าพลาดก็จะ กลายเป็นอาหารของมันซะเอง ที่แม้แต่กระดูกก็คงจะไม่ เหลือ

สีหน้าของไป๋เสบู่เอ๋อร์เริ่มอ่อนลงเสียจนซีด แม้แต่สี ของการไหลเวียนของเลือดก็ไม่โผล่มาให้เห็น คงมีแต่ริม ฝีปากแห้งที่ยังพอมีรอยแดงไว้ให้เห็น

ไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับนัยน์ตาคมแสน เย็นเยียบนั่น “ก็อย่างที่คุณว่า ประธานเผยก็อุตส่าห์พูด ชัดเจนแล้ว แน่นอนว่าฉันคงไม่ควรรบกวนต่อ การตัดสิน ใจของประธานเผยแน่นอนว่าต้องมีเหตุผล พวกเราก็เป็น ผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เรื่องเมื่อวานก็แน่นอนว่าได้ประโยชน์ ทั้งคู่”

พูดจบเธอก็หยิบกระเป๋าตัวเองและหันหลังจะกลับออก จากห้องนี้ไป

เพียงแค่เท้าก้าวเข้าเขตประตูพร้อมจะก้าวออก เสียง ราบเรียบด้านหลังของชายหนุ่มก็ขัดเธอไว้ “โดนไปแค่นี้ ก็รับไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าสำหรับคุณหนูไป๋ ไป ซื่อก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญอะไรมากมายนัก”

ปลายเท้าหยุดแน่นิ่ง มือข้างลำตัวกำแน่น

เมื่อจัดการอารมณ์ของตัวเองได้แล้วก็หันกลับไปเผชิญหน้า ใช้สายตานิ่งเรียบข่มขวัญและกล่าวกับขาย ด้านในอย่างเรียบเฉย “คงไม่รบกวนประธานเผยแล้วดี กว่าค่ะ”

ทันทีที่ว่าจบก็จัดการเดินออกไปทันที

ประตูห้องรับแขกปิดได้ไม่นานก็ถูกเปิดกว้างอีกครั้ง เลขาของเผยลี่เซินในมือเต็มไปด้วยเอกสารรีบก้าวเข้า มาหา “ประธานเผย… คุณชายรองไปติดต่อกับสื่อหลาย สำนัก ให้จัดการกับพวกความคิดเห็นที่เกี่ยวกับคุณหนูไป๋ ทั้งหมด ท่านประธานว่าพวกเราควรจะไปทักทายพวกเขา หน่อยดีไหมคะ? ”

เผยลี่เชินมองถ้วยชาลายครามสีขาวที่ยังคงมีสีลิปของ หญิงสาวคนเมื่อครู่ติดอยู่

ดวงตาอ่อนแรงไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยตอบกลับเสียงเบา “เรื่องนี้ให้เขาไปจัดการกันเอง”

“รับทราบค่ะ”

เลขาผงกหัวจะละจากไป แต่สุดท้ายเธอก็หยุดก้าวเท้า คล้ายกับลังเล ก่อนจะตัดสินใจพูดกับเจ้านายของเธอ “ประธานคะ คุณชายรองดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับ คุณหนูไปแล้วไม่เหมือนกับที่คนนอกลงข่าว เหมือนกับ คุณชายรองตั้งใจปล่อยข่าวนี้ออกมา ท่านว่ามันจะ…
ตอนแรกเธอก็คิดว่าจะใช้นักข่าวเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นวิ่ง เต้นมาตามตัวเอง คิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดแล้วนั้น…

เผยลี่เชินลุกขึ้นยืนเต็มความสูง นิ้วเรียวขยับเนคไท กระตุกเล็กน้อยจัดให้เข้าที่ “เผยอี้ไม่สนใจหรอก”

ไปเสบู่เอ๋อร์ออกมาจากตึกสำนักงานใหญ่ของเผยชื่อ ท้องฟ้าดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มเร็วกว่าเวลาเดิม คิด ไม่ถึงว่ายังจะมีพวกนักข่าวหลบอยู่ เพราะพอเห็นเธอ ไม่ทันไรก็รีบพุ่งเข้ามาหาแสงแฟลชจากกล้องก็สาดใส่ เข้าหาเธออย่างรัวๆ

“คุณหนูไป์ เรื่องที่คุณเลิกกับคุณชายคนรองของตระกูล เผยเป็นเรื่องจริงหรือไม่? แล้วก็เรื่องที่ว่ามีคนบอกว่า ตระกูลไป่กำลังเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างขั้น สุด และดูเหมือนจะล้มละลายในไม่ช้า เรื่องนี้จริงใช่ไหม ครับ?”

“ใช่ๆ คุณหนูไป๋ เมื่อเร็วๆนี้ไป๋ซือขายหุ้นในราคาที่ถูก มาก มันหมายถึงว่ากำลังจะล้มละลายแล้วจริงๆใช่ไหม คะ? ”

เสียงแต่ละคนรัวคำถามพูดพล่ามเสียจนเธอฟังไม่ถูก ขมวดคิ้วมุ่น มือก็ผลักกล้องบางตัวที่เผลอมาโดนหน้าเธอเข้าให้ ก่อนจะตอบคำถามหลักๆไปด้วยเสียงเรียบ นิ่งตัดบทไป “ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็รบกวนขอให้ทุกคนอย่า พูดมั่วไปเรื่อย ฉันกับคุณชายรองของตระกูลเผยเลิก กันตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนก่อนแล้ว และที่เลิกก็ไม่ใช่เพราะ ปัญหาของบริษัทพวกเราสองคน ช่วงนี้ไปซื้อประสบกับ การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คงใช้เวลาแก้ไขไม่นาน ฉัน หวังว่าพวกคุณคงไม่ข่าวลือมั่วๆ ในขณะเดียวกันก็หวังว่า พวกคุณจะให้ความมั่นใจเชื่อใจแก่ไป๋ซือเช่นเดียวกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ