ตอนที่ 7 ขาดผู้ชายหรือยังไง
ฉินหลินไม่นานก็ล้างจานชามจนเสร็จ หล่อนหันไปมองผู้ชายที่ นั่งอยู่บนโซฟา เสร็จแล้วก็กลับเข้าไปทำใจให้สงบในห้องนอน อยู่สักพัก
หล่อนพบว่า ทุกครั้งที่ไม่อทำสีหน้าเย็นชา เขาเพียงแค่อยู่ นิ่งๆตรงนั้น ไม่ต้องขยับอะไร ไม่ต้องพูดอะไร ออร่ารอบๆตัวเขา ก็พอที่จะทําให้คนยอมจํานนแต่โดยดี
ดังนั้นฉันอีหลินก็เลยต้องมาทำใจให้สงบซะก่อน ถึงจะ สามารถไปคุยเรื่องสัญญากับเขาต่อได้
ฉินหลินถอนหายใจอย่างช้าๆ หล่อนเอามือไปหยิบใบ
สัญญาที่เพิ่งปริ้นเมื่อตอนบ่ายออกมาจากกระเป๋า
หล่อนยังจำได้ ตอนที่อยู่ที่ร้านถ่ายเอกสาร หญิงสาวคนนั้น พลางพิมพ์ พลางมองแปลกๆมาที่ตน
เสร็จแล้วก็เดินถือใบสัญญามาหยุดตรงที่ด้านหน้าของโม่อ ฉินอีหลินยื่นสิ่งที่อยู่ในมือให้กับชายที่นั่งอยู่บนโซฟา
“นายดูสักหน่อย ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ก็เซ็นชื่อซะ สัญญามีสองฉบับ พวกเราแบ่งคนละฉบับ ของฉันเซ็นเสร็จ เรียบร้อยแล้ว”
โม่อตอนที่เห็นฉันอีหลินเดินออกมา สีหน้าก็ปกติอยู่
หลังจากฟังฉินอีหลินพูดจบ ก็เริ่มทำสีหน้าเย็นชาขึ้นอีกครั้ง กวาดสายตาขึ้นๆลงๆ มองฉันอีหลินรอบหนึ่ง
เขาเอาใบสัญญาในมือโยนไว้ที่ข้างๆ โดยที่ไม่ได้ดูใบสัญญา เลยสักนิด
“ผมคิดว่า การกระทำของผมเมื่อตอนบ่ายมันบางบอกแล้วว่า ผมคิดยังไง แถมตอนนี้ที่มาที่นี่ก็ไม่ใช่จะมาฟังคุณพูดเรื่องนี้ คุณ ไม่มีอย่างอื่นจะพูดกับผมแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
เขาจ้องฉินหลินอย่างไม่ลดละสายตา “นอกจากเรื่องนี้ คุณ ไม่มีอะไรจะคุยกับผมแล้วใช่ไหม?”
สายตาของโมอวี่เริ่มดูอันตรายขึ้น เขาอยากที่จะให้โอกาส ฉินอีหลินพูดอีกครั้ง
ฉินอีหลินที่ถูกจ้องมองแบบนั้น ในใจก็เริ่มสั่น แสร้งทำเป็นพูด เสียงสูง: “มีสิ นายดูสัญญานสักหน่อยก่อน ถ้าเกิดไม่มี ปัญหา……
ลี่โม่อวีไม่โกรธแต่กลับยิ้มนิ่งๆ ไม่รอฟังฉินหลินพูดจบ ลุก ขึ้นเดินออกไปจากประตู
พอเสียงปิดประตูเงียบลง ฉินหลินไม่รู้ว่าทำไม ในใจสั่นไม่ หยุด ถึงขนาดที่มีน้ำคลอที่ตา
หลังจากนั้นลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้โผล่มาเลยสองสามวัน
ฉินหลินก็ไปทำงานตามปกติทุกวัน ยุ่งจนเท้าแทบไม่ได้แตะ พื้น แต่ว่างานแบบนี้มันก็ดี อย่างน้อยหล่อนก็จะได้ไม่คิดถึงเรื่องไร้สาระพวกนั้น
“อีหลิน เธอยังอยู่ไหม ตอนนี้ทุกคนต่างยุ่งกันหมดเลย เธอไป
ช่วยม่านเหวินส่งตัวอย่างของช่อดอกไม้หน่อยสิ” หลินเซิงเกอพูดขึ้นขณะที่หัวก็ยังไม่เงยขึ้นกับการตรวจสอบ
สินค้า
“ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ฉินหลินเสียบดอกไม้ดอกสุดท้ายเสร็จ ก็รีบล้างมือแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปส่งดอกไม้กับม่านเหวินทันที
“สมกับที่เป็นห้างเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของเมืองกังซื่อ สั่ง กระเช้าดอกไม้เกรดสูงตั้งหนึ่งร้อยอัน รวยจริงๆ”
โจวม่านเหวินยกกระเช้าดอกไม้ตัวอย่างขึ้นมาหนึ่งอัน แล้วใช้
ศอกดันๆฉินหลิน แล้วก็แลบลิ้น
“หวาหางจิวเวลมอลล์ก็มีไว้ขายให้กับพวกคนรวย แค่กระเช้า ดอกไม้ไม่กี่อันนี้ไม่มีทางจะซื้อไม่ไหวหรอกเนอะ”
ฉินอีหลินยังจำได้ตอนที่แม่ซื้อต่างหูให้กับหล่อนและหลันซูที่นี่ และก็พูดด้วยว่าหนึ่งคนหนึ่งคู่ห้ามแย่งกัน
แต่ผ่านมาไม่กี่ปี ตัวเองกับตระกูลฉินก็กลายมาเป็นอย่างที่ เห็นแล้ว
หล่อนไม่อยากที่จะคิดถึงมันอีกแล้ว ฉินหลินสูดดมดอกไม้ ในอ้อมแขนเบาๆ ตอนนี้หล่อนไม่ต้องคิดว่าจะต้องประจบคนของตระกูลฉินยังไงอีกต่อไปแล้ว แล้วก็ไม่ต้องคอยต่อคุณหนู คุณนายที่ไหนอีก จริงๆแล้วชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้ ก็ดีไม่น้อยเลย
“อีหลิน เธอดูนั่น เธอดูนั่น ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลย” โจวม่าน เหวินที่กำลังกวาดสายตามองการตกแต่งภายในห้างไปรอบๆ อยู่นั้น
พอเหลือบไปเห็นผู้ชายที่กำลังโอบผู้หญิงอ้อนแอ้นอย่างสนิท สนมที่อยู่ไม่ไกลจากตนมากนัก ก็รีบเรียกฉันอีหลินด้วยน้ำเสียง ตื่นเต้นทันที สีหน้าก็แดงขึ้นเนื่องจากความตื่นเต้น
ฉินหลินที่กำลังเหม่ออยู่ ก็ถูกโจวม่านเหวินเรียกตื่น แล้วก็ มองตามไปยังที่ที่หล่อนไป
สิ่งที่เห็นก็ทำให้หล่อนอึ้งชะงักไปสักพัก
ผมหน้าม้ายาวไม่มากปกปิดรอยแผลเป็นสะดุดตาบนหน้า ดวงตาที่ยกขึ้นเล็กน้อย สันจมูกยาวๆ มุมปากที่ยกขึ้นอย่างเป็น เอกลักษณ์ ออร่าที่มีเสน่ห์และสายตาขี้เล่นนั่น
นี่ไม่ใช่ลี่ไม่อวี่ที่หายไปสองสามวันเหรอ “นี่! ฉินอีหลินเธอดูๆ คนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาคืออยโน่เอ อร์”
ฉันอีหลินมองตามไปยังที่โจวม่านเหวินบอก ผู้หญิงที่รูปร่าง อ้อนแอ้น หน้าผมดูสวยสับที่อยู่ไม่ไกลมากนัก หล่อนดูแล้วคุ้นตา มาก แต่คิดไม่ออกว่าเป็นใคร
“โน่เอ๋อร์เป็นใครเหรอ?”
“หล่อนเป็นนักแสดงนำเรื่อง (สายฝน) ที่ดังๆก่อนหน้านี้ได้ คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะมีแฟนแล้ว แต่ว่าผู้ชายคนนี้หล่อจริงๆ ที่ โบราณเขาว่าไว้ กิ่งทองใบหยก”
โจวม่านเหวินกำลังมีท่าทีตื่นเต้นจนไม่ได้สนใจท่าทางที่ผิด ปกติของฉินอีหลินเลย
ฉิน หลินเหม่อมองสองคนที่แนบชิดติดกันจนแทบไม่มีช่อง ว่าง ในใจเริ่มรู้สึกถึงความขื่นขม
“นี่ ทำไมเธอจ้องนานกว่าฉันอีกเนี่ย ไปได้แล้ว ถ้าไม่รีบเดี่ยว จะโดนผู้จัดการดาเอานะ
โจวม่านเหวินที่เห็นฉินหลินกำลังเหม่อมองอยู่ กลัวว่าหล่อน จะถูกด่า เลยรีบสะกิดเตือนด้วยความหวังดี
ฉินหลินจึงได้สติกลับคืนมา พยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องที่เจอ
ลี่โม่อวี่
เรื่องที่เขาทํางานเป็นบาร์โฮสมันเป็นเรื่องของเขา หล่อนไม่ สามารถเข้าไปยุ่งได้
ฉันอีหลินสะบัดๆหัวแล้วเดินไปข้างหน้า แต่พอเดินถึงทาง เลี้ยวไม่ทันได้ระวังตัวก็ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง
หล่อนที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นมาขอโทษ ก็มองด้วยความตกใจ ตอนนี้หล่อนยืนอยู่ข้างๆ ไม่อแล้ว
หล่อนคิดไม่ถึงว่า ตัวเองจะได้มาเจอกับเขาในที่แห่งนี้ แถมยัง เจอกันในสถานการณ์แบบนี้อีก
ฉันอีหลินยืนเหม่อมองลี่ โม่อวี่ สติหลุดลอยไปสักพักใหญ่
“นี่เธอกล้าดียังไง ชนคนอื่นแล้วทำไมถึงไม่ขอโทษ? แถมยัง จ้องผู้ชายของคนอื่นอย่างหน้าตาเฉย ขาดผู้ชายหรือยังไง?
อ้ยโน่เอ๋อร์กำลังดีใจที่ไม่อรับปากกับตัวเองว่าจะซื้อสร้อย คอที่หล่อนอยากได้มานานเส้นนั้นให้ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกผู้หญิง ตรงหน้าคนนี้ชนจนเกือบจะล้ม
พอคิดว่าถ้าตะกี้หล่อนล้มลงไปล่ะก็ คงจะต้องอับอายขาย หน้าต่อหน้านักลงทุนคนนี้แน่นอน หล่อนก็เลยยืนจ้องผู้หญิงที่ชน หล่อนด้วยความโกรธแค้น
แต่กลับพบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีท่าทีที่จะขอโทษ แถมยังจ้องมอง หน้านักลงทุนของหล่อนต่อหน้าต่อตาหล่อนแบบนี้อีก
“มองอะไร ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ถ้าเกิดเสื้อผ้าของฉันเสีย
หายล่ะก็ ต่อให้เธอขายตัวก็ชดใช้ไม่ได้!
อัยโน่เอ๋อร์มองดูผู้หญิงตรงหน้าแล้วเริ่มรู้สึกคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ ออกว่าเคยเจอที่ไหนกันแน่ แต่ว่าหล่อนยังคงมีท่าทีโกรธแค้นอยู่
“ขอโทษค่ะ”
ฉันอีหลินที่ถูกเสียงด่าทอทำให้ดึงสติกลับมาได้ ก็รีบพูด ขอโทษ ตอนนี้หล่อนไม่ใช่คุณหนูฉินหลินอีกแล้ว
แถมหล่อนก็ถูกไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว ตอนนี้หล่อนไม่กล้า ที่จะมีเรื่องกับไฮโซคนไหนทั้งนั้น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่สามารถควงสี่โม่อมาเดินที่นี่ได้ ไม่ใช่ ภรรยาของเศรษฐี ก็เป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียง หรือไม่ก็ที่บ้านมีแบ คอัพดี
“ขอโทษจริงๆค่ะ”
หล่อนเห็นผู้หญิงตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อให้ ก็โค้ง เอวขอโทษอีกครั้ง
ลี่โม่อวี่ที่เห็นท่าทางแบบนั้นของฉันอีหลิน ผู้หญิงของเขาต้อง โค้งเอวขอโทษให้กับผู้หญิงที่วันวันรู้จักแต่เอาตัวไต่เต้าผู้ชาย เพื่อหวังสิ่งที่ต้องการพรรค์นี้ตั้งแต่เมื่อไร
โม่อมองผู้หญิงที่ทำท่าทางถ่อมตัว แววตาก็เย็นชาขึ้น แล้ว จู่ๆเขาก็คิดถึงตอนที่หล่อนยื่นใบสัญญามาให้เขา ความเจ็บปวด ภายในตาถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ