บ่วงสวาทคุณหมอหนุ่ม

ตอนที่ 4



ตอนที่ 4

หล่อนเฝ้าหวัง แค่คำพูดดีๆ แค่สายตาอ่อนโยน และรอยยิ้ม เพียงเล็กน้อยจากเขาเท่านั้น แต่หล่อนไม่เคยได้รับมันเลย

หญิงสาวเจ็บปวดจนต้องยกมือขึ้นทาบหน้าอกเอาไว้ ก่อนจะ

กัดฟันเดินกลับเข้าไปในภัตตาคาร

“หนูทรายทำไมไปนานนักล่ะ

คุณหญิงเมธาวีเห็นหล่อนเดินกลับเข้ามา ก็รีบเอ่ยทักทายด้วย ความยินดี

“แล้วทำไมหน้าตาซีดซีด ไม่สบายหรือเปล่า”

ความห่วงใยจากเจ้านายทำให้ทรายทองตื้นตันและซาบซึ้งใจนัก

“เอ่อ…”

หล่อนกำลังจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่คุณหญิงเมธาวีหัน ไปหาเมธวัฒน์ที่นั่งนิ่งอยู่ใกล้ๆ เสียก่อน พร้อมกับพูดในสิ่งที่ หล่อนหวาดกลัวออกมา

“เดี๋ยวกลับถึงบ้านช่วยดูอาการให้น้องหน่อยนะตาเมธ แม่

เป็นห่วงหนูทรายน่ะ”

เขาเงยหน้าขึ้น และปรายตามองหล่อนด้วยแววตามืดลึกไม่ บอกความรู้สึก
เขาต้องปฏิเสธแน่นอน หล่อนรู้ดี เพราะสิ่งแรกในโลกใบนี้ที่ เมธวัฒน์ต้องการก็คือการอยู่ให้ไกลจากผู้หญิงน่ารังเกียจใน สายตาของเขาเช่นหล่อน

“ได้ครับ”

กลีบปากอิ่มเผยอค้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ “คือทรายไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะคุณหญิง

หล่อนพยายามหาทางออก แต่คุณหญิงเมธาวีที่นั่งอมยิ้มพึง พอใจอยู่ข้างๆ กลับไม่เปิดโอกาสให้เลย

“ฉันรู้ว่าหนูทรายเกรงใจ แต่ไม่ต้องคิดมากนะ คนกันเองนะ

“คือทราย…”

คุณหญิงเมธาวียื่นมือมากุมมือของหล่อน พลางมองด้วยความ

เอ็นดู

อย่าฝืนทำเป็นเข้มแข็งสีหนูทราย ให้ตาเมธช่วยดูอาการให้ เถอะ จะได้ไม่ต้องไปลำบากหมอที่โรงพยาบาลยังไงล่ะ

“แต่นํามากผม”

“ตาเมธ”

คุณหญิงหันไปเอ็ดบุตรชาย ก่อนจะหันมาพูดกับหล่อนต่อ

“ถ้าหนูทรายเกิดไม่สบายไป ฉันจะทำยังไงล่ะ ใครจะดูแลฉัน ได้ดีเท่าหนูทราย”
เหตุผลของคุณหญิงเมธาวีทำให้ทรายทองไม่อาจจะปฏิเสธได้ อีก หล่อนจําต้องยอมรับในโชคชะตาที่กลั่นแกล้งลงมา

“ทรายขอบคุณคุณหญิงมากค่ะ” หล่อนยกมือไหว้อย่างงดงาม

คุณหญิงเมธาวีมองหล่อนอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันไปพูดกับ เพื่อนของตัวเอง

“คุณพี่ที่เรานัดกันได้ไหมคะ เรื่องที่เราจะไปพักผ่อนที่หัวหิน กันน่ะค่ะ”

“อ๋อ จำได้สิคะคุณน้อง นี่พี่ก็รอให้คุณน้องว่าง เราจะได้ไป

นอนฟังเสียงคลื่นกัน

“น้องว่างแล้วล่ะ อาทิตย์นี้ว่างยาวเหยียดเลย ยังไงเราไปกัน นะคะ”

สองเพื่อนวัยไล่เลี่ยกันคุยกันอย่างออกรสออกชาติอยู่นาน

อีกครึ่งชั่วโมงกว่า จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน

หล่อนประคองคุณหญิงเมธาวีออกมาหน้าภัตตาคาร พยุงท่าน ขึ้นรถหรูเสร็จแล้วก็กำลังจะก้าวตามขึ้นไป แต่คำสั่งของท่านดัง ขึ้นเสียก่อน

“หนูทรายกลับกับตาเมธเถอะ”

“คือทราย…”

หล่อนตกใจแทบช็อก ไม่ใช่รังเกียจเมธวัฒน์ แต่กลัวเขา อึดอัดใจเพราะตัวเองมากกว่า
“ว่าไงตาเมธ แกสะดวก ใจหรือเปล่า”

เมธวัฒน์ที่ยังคงยืนอยู่ข้างรถ เพราะเดินมาส่งมารดาปราย ตามองหล่อน ก่อนที่เขาจะตอบรับออกมาเสียงห้วนๆ คล้ายกับ ไม่พอใจ ก็แน่ล่ะ เขาจะต้องไม่พอใจอยู่แล้ว ที่ต้องทนนั่งรถไป กับผู้หญิงน่ารำคาญเช่นหล่อน

ทรายทองก้มหน้าลงมองพื้นด้วยความวิตกกังวล หล่อนไม่

ควรจะทําให้เขาลำบากใจเพราะตนเอง

“ถ้าเป็นคำสั่งของคุณแม่ ผมก็ไม่อาจขัดข้องได้ครับ

คุณหญิงเมธาวีระบายกว้าง หันมามองหล่อน

“หนูทรายไปกับตาเมธนะ พอดีฉันมีแวะทำธุระก่อนกลับสอง สามที่น่ะ”

“ให้ทรายไปด้วยนะคะ ทรายจะได้ช่วยคุณหญิง

หล่อนวิงวอน แต่คุณหญิงเมธาวีส่ายหน้าน้อยๆ

“ไม่เอาน่า อย่าขัดใจฉันสิ

หล่อนได้ยินคำนี้ก็อึ้งไป และแน่นอนว่ารู้ชะตากรรมของตัวเอง

“ค่ะ คุณหญิง”

คุณหญิงเมธาวียิ้มไม่หุบ ขณะช้อนตาขึ้นมองลูกชายเพียงคน

เดียวของตนเอง

“อย่ารังแกหนูทรายของแม่เด็ดขาดนะตาเมธ ถ้าหนูทรายมาฟ้องเมื่อไหร่ แม่จะตัดแกออกจากกองมรดกทันที จำเอาไว้ด้วย หล่อนเห็นเขาแค่นยิ้มหยันมาให้หล่อน ก่อนจะตอบเอ่ยตอบ คุณหญิงเมธาวี

“ผมจะกล้าทำอะไรคนดีของคุณแม่ล่ะครับ”

“ให้มันจริงเถอะ”

คุณหญิงเมธาวีประชดประชันบุตรชาย และมองหล่อนด้วย ความเอ็นดูอีกครั้ง ก่อนจะปิดประตูรถ ไม่ช้ารถคันงามก็วิ่งจาก ไป ทิ้งให้หล่อนยืนเคว้งอยู่กับซาตานตัวร้ายอย่างเมธวัฒน์เพียง ล่าพัง

หล่อน… หัวใจสั่นเทา และรู้สึกราวกับพื้นดิน ใต้ฝ่าเท้ากับสั่น

ไหว

“ทราย… ทรายจะกลับแท็กซี่ค่ะ”

หล่อนรีบออกตัว เพราะรู้ดีว่าเขาจำใจรับปากคุณหญิงเมธาวี

ไปอย่างนั้นแหละ หล่อนบอกเขาเสร็จก็จะก้าวหนี แต่เขาคว้าแขนเรียวของ

หล่อนเอาไว้เสียก่อน

“นี่เธอต้องการให้ฉันถูกตัดออกจากกองมรดกสินะ”

“เอ่อ…” หล่อนชะงัก และทำใจกล้าช้อนตาขึ้นสบประสานกับ เขา “ทรายไม่เคยคิดแบบนั้นนะคะ”

“ถ้าเธอไม่คิด แล้วทำไมเธอถึงเลือกที่จะทำให้ฉันถูกคุณแม่เอ็ดตะโรล่ะ”

“ทราย..”

“ถ้าฉันปล่อยให้เธอกลับแท็กซี่ ฉันถูกด่าสามวันเจ็ดคนแน่

เหตุผลของเขามีแค่นี้เองหรือ หล่อนควรดีใจนะที่เขาไม่ ผลักไส แต่… แต่กลับเจ็บปวดเหลือเกิน

“ทรายจะไม่เรียนคุณหญิงเรื่องนี้หรอกค่ะ คุณเมธสบายใจได้ หล่อนกัดฟันเปล่งเสียงเรียบออกไป “เอ่อ… ปล่อยแขนทราย เถอะนะคะ”

เขาไม่ปล่อย แถมยังกระชากร่างของหล่อนให้เข้ามาชิดมาก ยิ่งขึ้น กลิ่นไอจากเนื้อตัวใหญ่โตทำให้หล่อนวิงเวียนด้วยความ เสน่หา

“เธอต้องกลับกับฉัน

“แต่… คุณเมธคงไม่อยากเห็นหน้าทรายสักเท่าไหร่

หล่อนพยายามขึ้นตัวออกห่าง แต่เขากระชากเข้าไปหาใหม่ ด้วยแรงที่มีมากกว่า

“ใช่ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ แต่ก็ไม่อยากขัดคำสั่งของคุณ แม่ จบนะทรายทอง

แล้วหล่อนก็ถูกมือใหญ่ลากให้เดินไปยังรถคันโปรดราคาแพง ระยับของเมธวัฒน์ เขาจับหล่อนยัดเข้าไปภายใน ก่อนจะก้าวขึ้น มานั่งหน้าพวงมาลัยรถ
“นั่งเงียบๆ ล่ะ เพราะแค่นั่งใกล้เธอฉันก็รำคาญจะแย่อยู่แล้ว” คําร้ายๆ จากปากของเขาทำให้หล่อนน้ำตารื้น เจ็บแต่ต้องกัก เก็บเอาไว้

ไม่ช้าเขาก็เคลื่อนรถออกจากลานจอดรถหน้าภัตตาคาร เสียง เตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นเมื่อแล่นออกมาได้ไม่นาน

เขาหันหน้ามองหล่อน และหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง

“เอ่อ…”

หล่อนกำลังจะคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาด แต่คงเป็นเพราะมือที่ สั่นเทาทำให้ทำอะไรไม่ถนัด เขาจึงเอียงตัวเข้ามาใกล้ ใกล้แบบ ที่ปลายจมูกโด่งเป็นสันชนกับแก้มนวลของหล่อนเข้าเลยทีเดียว

หล่อนตกใจแต่ต้องสะกดกลั้นเสียงอุทานเอาไว้ ขณะมองเขาที่ ทำหน้าตาเฉยเมยคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเขาคาดเข็มขัด ให้หล่อนเสร็จก็ดึงตัวกลับไปที่เดิม รถแล่นออกจากริมถนน พร้อมกับความเงียบกริบ

ทรายทองนั่งกุมมือบนตักแน่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลออกมาใน ฝ่ามือจนชุ่ม

ทำไม… ทำไมจะต้องรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้ ก็แค่… ความบังเอิญ เท่านั้น

แม้จะพยายามบอกตัวเองแบบนั้น แต่หัวใจไม่รักดีไม่ยอมเชื่อ ฟังเลย มันสั่น มันไหว และก็เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอก อกอยู่แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ