บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 8 ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบบรรพชนสิบแปดรุ่น



ตอนที่ 8 ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบบรรพชนสิบแปดรุ่น

เจน ไม่คิดว่า เขาไม่ควรที่จะเข้าสู่วงจรนี้จะดีกว่า แต่ไหนแต่ไรมา ผู้ที่เข้าสู่วงจรของตระกูลกษัตริย์ คนที่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ช่างน้อย นัก แต่เขายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดีๆ

คิดอยู่เช่นนี้ เขาคุกเข่าเคลื่อนตัวไปด้านหลัง หลบหลีกสายตา เศร้าสร้อยของชายชุดแดง สามารถไกลได้แค่ไหนก็แค่นั้น มี ฉะนั้นเกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้น เขาจะต้องเป็นคนแรกที่เสียสละ ชีวิตตัวเอง

แต่ในระหว่างนั้นเอง เช่น โม่คุกเข่าตัวตรงอยู่ตรงนั้น ไม่มีการ ขยับเขยื้อนอีก ขาของเขาดูเหมือนว่าจะถูกอะไรปิดกั้นอยู่ แต่ กลิ่นหอมที่พัดลอยมาจากด้านหลังได้บอกเล่นไม่ว่า คนคนนั้น เองที่อยู่ด้านหลังของเขาแล้ว

ก้มหน้าลงต่ำ ตามองไปจมูกอย่างรวบรวมสติ หวังว่าจะ สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้

“ข้าจะขอมาดูหน่อยว่าคนดีสุดๆ นี่เป็นอย่างไรกัน” คำพูดได้ พูดออกมาอย่างนั้น มือใหญ่ข้างหนึ่งก็เลื่อนมาจับ

เล่นไม่ได้ยินเสียงลงมากระทบหู หลังจากนั้นรู้สึกว่าเสื้อผ้าบน ไหล่ของตนเองถูกจับไว้แน่น ทั้งตัวถูกหิ้วขึ้นมา อีกทั้งยังหมุนไป ทั้งตัว

อันดับแรกสะท้อนให้เห็นเสื้อคลุมด้านในของเล่นโม่ ด้านบนปักลวดลายซับซ้อนสีดำไว้เล็กน้อย มีแก้นิ่มๆ หุ้มที่รอบเอว ดู เหมือนว่าจะมีกลิ่นคาวเลือดลอยมา ต่อจากนั้นคางของเขาก็ถูก คนคนนั้นยกขึ้นมา

นั่นเป็นใบหน้าที่คมใบหนึ่ง ส่องเป็นแสงสีทองแดง ดูๆ ไป แล้วก็เป็นหน้าที่มีความเป็นผู้ชายมิใช่น้อย ตรงหว่างคิ้วแฝงไว้ ด้วยความไร้สาระและเผด็จการ นี่คือชายหนุ่มที่อารมณ์ไม่ปกติ คนหนึ่ง

นี่เป็นความรู้สึกแรกของเล่น โม่ ดังนั้นเขาจึงหลบสายตา ดู เหมือนว่าจะมีอาการขี้อายมาก แม้แต่ร่างกายก็สั่นเล็กน้อยไปทั้ง ร่าง

ดวงตาของชายนั้นมองใบหน้าสีขาวของเล่นไม่อยู่ชั่วครู่ หลัง จากนั้นก็หัวเราะเหอะๆ แฝงไว้ด้วยความเหยียดหยาม มองดูแวว ตาของเล่น โมก็ราวกับว่ามองดูมดตัวเล็กๆ อยู่นั่นเอง “น้องเฉิง เอ๋อร์ ชายผู้นี้มีลักษณะเหมือนหญิงสาว ผิวละเอียดเนียนนุ่ม อ่อนแออีก หรือว่าเจ้าชอบ” พูดไปพลางปล่อยมือตามอำเภอใจ ไปพลาง

ชายชุดแดงสีแดงแดงขึ้นมา โผเข้าไปอย่างสุดแรง แต่คนที่มา นั้นเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่ฝึกวรยุทธ์ ชายชุดแดงก็ไม่สามารถไปรับ เล่น โม่ที่ถูกโยนทิ้งอย่างไม่ไยดีได้ทัน มองดูเล่น โม่ที่ถูกซัดเข้า กับกำแพงด้านข้างอย่างไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

มือไม้ของเล่นไม่พยายามดิ้นรนไปมา และในขณะเดียวกัน ใน ใจก็ด่าว่าบรรพบุรุษของชายผู้นั้นไปหนึ่งรอบ คิดว่าวันนี้ชีวิตของตนจะต้องจบสิ้นแน่ๆ หากเขายังมีชีวิตอยู่ ความแค้น ในวันนี้ก็ ต้องเอาคืนหลายเท่าแน่

“รีบช่วยคนเร็ว” เฟิงเจ๋วตะโกนเสียงสูง ใบหน้าที่เหมือนพระ สังกัจจายน์นั้นสลดขึ้นมาทันที ผู้คนมากมายตรงนั้น องค์ชายฆ่า คน อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์ด้วย ช่างน่าขายหน้าตระกูลกษัตริย์ จริงๆ ในตอนนั้นลูกชายคนนั้นยังคงยืนยิ้มเยาะอยู่ตรงนั้นอย่าง ไม่สนใจอะไรใดๆ ทั้งสิ้น

องครักษ์ฝ่ายในโผเข้ามาก็ไม่ทันแล้ว

เล่น โม่ก็รู้สึกว่าตัวเองตายแน่นอน แรงที่ผลักออกไปมันช่าง รุนแรงนัก การชน ในคราวนี้ ไม่ตายก็คงจะเจ็บหนังพอสมควร

ภายในเสียงร้องเรียกที่สูงนั้น เจนไม่รู้สึกว่าร่างของตนหยุด ชะงักไปครู่หนึ่ง หยุดการโบยบิน คนทั้งคนถูกหิ้วขึ้นมาอยู่ในมือ อีกครั้ง

“ท่านพ่อ ท่านคงจะคิดว่าลูกทำไมถึงไร้เหตุผลเช่นนี้” คนคน นั้นหัวเราะฮ่าฮ่า ในมือหิ้วเล่นไม่เดินมา หลังจากนั้นเขาทิ้งอยู่ใน อ้อมอกของชายชุดแดง “ลูกขอให้ท่านพ่ออภัยด้วย ลูกแค่คิดว่า น้องเฉิงเพิ่งจะกลับมา ร่างกายก็อ่อนแอ ไม่เชี่ยวชาญวรยุทธ์ เกรงว่าจะมีคนคิดร้าย ใจไม่ซื่อ อยากจะเข้าใกล้น้องของลูก บัด นี้ดูๆ ไปแล้ว ก็วางใจได้แล้ว”

“อี้เอ๋อร์ เจ้ามันช่างไร้สาระเสียจริง เจ้าดูเถิด หน้าของหมอเจ นขาวซีดไปหมดแล้ว” ป้ายหย่ามองเฟิง อย่างตำหนิ มองว่านาง ให้ลูกชายที่ภูมิใจของนาง วรยุทธ์สูงส่ง กล้าหาญดุร้ายแข็งแกร่งกว่าเฉิงเอ๋อร์ที่ร่างกายผอมบางไม่รู้กี่เท่า

“อ่อ ยังเป็นหมอซะด้วย” ร่างที่สูงใหญ่ของเฟิงยืนอยู่หน้า เล่นไม่ขยับเขยื้อนไม่ค่อยจะได้ ในที่สุดคิ้วเริ่มคลายจากการ ขมวดออก “หมอเจนอภัยด้วยเถิด เมื่อครู่เป็นแค่การล้อเล่น เท่านั้น”

“ฮ่องเต้ เวลามงคลถึงแล้ว” บ่ายโก๋จ้างกวาดสายตาไปทางเพ ง ครู่หนึ่ง โค้งตัวแล้วพูดกับเฟิงเจ๋ว

“รีบประคองคือโจวเข้ามา” เพิ่งเจ๋วมองดูเฟิง ที่ใบหน้ายิ้ม แย้มต่อสีหน้าขาวผือดนั้น ดูเหมือนว่าเฟิงซึ่งเฉิงที่ถูกทำให้ตกใจ กลัวพูดว่า “เฉิงเอ๋อร์ก็มาเช่นกัน”

ชายชุดแดงมองเฟิงเจ๋าชั่งครู่ ไม่ได้พูดอะไร ฝูงชนเดินเข้ามา อย่างสง่างาม โจ๋จือโจวกับพ่อบ้านของเขาก็ไม่ได้คิดที่จะถาม อาการของเล่น โม่เลย สำหรับทุกคนแล้ว เล่นโม่ที่ปรากฏตัวขึ้น มาอย่างฉับพลันเป็นสิ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ เป็นเพียงแค่เรื่องล้อ เล่นไร้สาระเท่านั้น

เล่น โม่ที่นั่งอยู่บนพื้นก้มหน้าลงต่ำ ในดวงตามีความเย็นชา อยู่ มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่นอย่างเจ็บปวด เต็มไปด้วยความ เจ็บปวดมากมาย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอับอายและหายใจไม่ ค่อยออก เขาไม่ยอมให้ใครมาทำกับเขาเช่นนี้ ไม่ยอมเด็ดขาด

“คนงาม เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ดวงตาดอกท้อของชายชุด แดงคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความกังวล อย่างจะประคองเล่น ไม่อย่าง ระวัง
เจน ไม่กลับออกแรงหลบหลีกการสัมผัสของเขา หลังจากนั้น พยายามพยุงตัวลุกขึ้นมาจากพื้น มองชายชุดแต่งด้วยความเย็น ชาสักครู่ แล้วหันหลังเดินไป

“คนงาม……” ชายชุดแดงยังอยากจะตามไป แต่องครักษ์สอง นายปิดกั้นเส้นทางที่เขาจะเดินไปไว้ เขาได้เพียงแต่มองตามเงา ชุดเขียวที่ค่อยๆ ไกลออกไปด้วยตาของตัวเอง ตัดสินใจเด็ดขาด แล้ว ไม่หันกลับไปเด็ดขาด ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรให้เขาต้อง หวนคิดถึงเลย

ความสง่างามแบบนี้เท่านั้น เขาอยากจะจับยึดเอาไว้ อยากจะ จับยึดเอาไว้แทบใจจะขาด

“องค์ชายสาม ฮ่องเต้เชิญเฝ้า” องครักษ์พูดอย่างเคารพสุภาพ แต่ท่าทางการแสดงออกมา กลับไม่สุภาพอย่างคำพูดที่พูดออก มา ชายชุดแดงเก็บเส้นสายตาอย่างอดใจไม่ได้ มองดูโม่เยียนที่ อยู่ข้างกาย รีบไป ไปดูว่าคนที่สิบสามอยู่ที่ไหน วันหลังข้าค่อย ไปหาเขา”

โมเยียนรับคำสั่งแล้วจากไป

ผ่านรถม้าที่เบียดเสียดกันเต็มถนน เล่นไม่พึ่งอยู่บนต้นไหว ยักษ์ข้างทางต้นหนึ่ง ถอนหายใจลึกๆ หนึ่งเฮือก บัดนี้เพิ่งจะรู้สึก ว่ามือเท้าของตนอ่อนแรงไปเล็กน้อย

“ล้อเล่นงั้นหรือ? เล่นไม่ยิ้มอย่างเย็นชา เป็นการหยั่งเชิง มากกว่า องค์ชายใหญ่เฟิงอี้ ลูกชายของป้ายหย่า หลานชาย ของป่ายโก๋จ้าง องค์ชายรัชทายาท ในอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ในที่สุดเขาก็ได้พบเห็นรู้จักเสียที

ดวงตาดอกท้อกะพริบไปมา พันหนึ่งอัน ชุดแดงทั้งตัวในใต้ หล้า อีกทั้งยังมีกลิ่นอายความเป็นชาย คนผู้นั้นก็คือตัวประกัน เฟิงซึ่งเฉิงที่ทางหัวเมืองรายงานขึ้นมาในช่วงนี้ สิบปีให้หลัง ราชวงศ์กษัตริย์หยนยางปล่อยตัวออกมาอย่างกะทันหัน ถูก

อีกทั้งยังเป็นที่ทราบกันไปทั่วอีกด้วย ผู้คนได้ข่าวการกลับมา ในครั้งนี้ เมืองหลวงนี้ ดูเหมือนว่าจะน่าสนใจขึ้นมาไม่น้อยแล้ว เล่นไม่

ยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำให้ขึ้นถึงจะจับปลาได้ง่าย

“เจนโม่?” ไม่รู้ตอนไหน รถม้าคันหนึ่งหยุดที่ข้างกายของเล่น โม่ บนรถไม่มีสัญลักษณ์อะไรติดอยู่ รถก็ดูธรรมดากว่าปกติ หน้าต่างของรถม้าก็เป็นผ้าม่านสีน้ำเงิน มองสภาพข้างในไม่ชัด นัก ได้ยินแค่เพียงเสียงที่อ่อนโยน เสียงนั้นราวกับพระอาทิตย์ใน ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นที่ไม่มีใครรู้

เล่น โมเงยหน้าขึ้น มองดูคนจูงรถม้ามองเขาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเมตตาของอารมณ์ที่เป็นเด็ก แต่ผ่าน ประสบการณ์เพิ่งเจอกับความตื่นเต้นเมื่อครู่ เล่นโม่จึงจำเป็น ต้องระวังตัวขึ้นเล็กน้อย เขายืนขึ้นตัวตรงอย่างช้าๆ พยักหน้า เบาๆ “ข้าคือเจ่นโม่”

“เชิญบนรถประเดี๋ยว” คนในรถพูดอย่างเรียบเฉย

เล่นไม่ถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างมีสติ คนก็ไม่เจอ อีกทั้งเขายัง ไม่รู้จักด้วย ในรถเจอเขาประเดี๋ยว เขาเกรงว่าจะถูกลอบฆ่าได้
ผู้รับใช้ยังคงมีท่าทางยิ้มแย้ม แต่วินาทีต่อมาก็มาอยู่ที่ด้าน หน้าของเล่น โม่แล้ว มือทั้งคู่จับไหล่ของเล่นโม่ หลังจากนั้นก็หิ้ว ขึ้นมาโยนลงไป เล่นโม่ก็พุ่งไปที่ประตูของรถม้า

มือที่ผอมขาวซีดยื่นออกมาจากด้านในได้ทันเวลา จับได้สบ โอกาส เล่น โม่ก็ถูกจับเข้าไปในรถม้าอย่างมั่นคง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ