บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 3 นางบำเรอคนที่สิบสามที่มีเอกลักษณ์



ตอนที่ 3 นางบำเรอคนที่สิบสามที่มีเอกลักษณ์

โจ๋จือโจวที่สวมชุดแดงลงจากม้า เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม เก็บ เกี่ยวหัวใจของหญิงสาวอย่างนับไม่ถ้วนมาตลอดทาง

“ท่านพี่ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม” โจ๋จือโจวยืนอยู่ด้านหน้าคน ทั้งสอง ประสานมือคารวะ กิริยามารยาทอ่อนน้อมถ่อมตน “หาก มีสิ่งใดล่วงเกิน ขอให้ท่านได้โปรดอภัยด้วยเถิด แค่วันนี้เป็น งานอภิเษกของข้า ช่วยหลบหน่อยได้หรือไม่

“ท่านชาย” ชายชุดแดงพิงท่านชายชุดเขียวอยู่ ดวงตาดอก ท้อเต็มไปด้วยอาการม้วนอาย ดูเหมือนว่ามีอาการเสียดายอย่าง ไร้ขีดจํากัด “ท่านชายไม่ชอบข้าก็นั่งเถอะ ใบหน้าหน้าที่ราวกับ หยกไม่ปานนี้เป็นที่น่าเสียดายแล้วล่ะ น่าเสียดายที่ดอกไม้ใกล้ จะตกลงไปในคูน้ำ เฮ้อ” ถอนหายใจไปพลางโบกมือไปพลาง ไม่เขียนจึงลากรถม้าไปอีกด้านหนึ่ง

สีหน้าของผู้คนบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยความอึมครึม ป้าย เนี่ยนจูนก็เป็นคนงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ทำไมถึงกลาย เป็นคูน้ำไปได้

โจ๋จือโจวยืดตัวขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก มองดูท่านชายชุดเขียวที่ จืดชืดอยู่ชั่วครู่ ดวงตาที่คุ้นเคยเล็กน้อยทำให้เขาตกตะลึงไปสัก พัก “ท่านพี่…….

คําพูดยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นร่างท่านชายชุดเขียวถอยออกไป ดวงตาบรรจบกันแล้วหันหลังจากไป
ในตอนนั้นชายชุดแดงไม่ได้ยืนนิ่ง จึงตกลงไปนั่งอยู่กับพื้น เสียงดัง “คนงามทำไมถึงได้หยาบคายเช่นนี้ เขานวดสะโพกไป พลาง พร้อมกับกล่าวโทษตามหลังชายชุดเขียวที่เดินจากไป

ท่านชายชุดเขียวไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยอยู่แล้ว แม้กระทั่งการ ก้าวของฝีเท้าก็ไม่หยุดนิ่งเลย ราวกับว่ากำลังจะหนีอะไรก็ไม่ปาน

คำพูดของโจ่คือโจวพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง คนอื่นทำไมไม่เห็นแก่ หน้าข้าอย่างนี้ ใบหน้าราวหยกแผ่นนั้นก็แดงขึ้นมา จ้องไปที่เงา ของท่านชายชุดเขียวด้วยแววตาสั่นไหว หันหลังสะบัดแขนเสื้อ แล้วจากไป

ชายชุดแดงลุกขึ้น ตามติดไปอย่างรวดเร็วด้วยวิชาตัวเบา แขนคู่หนึ่งล็อกคอด้านหลังคุณชายชุดเขียวไว้ ขาคู่นั้นก็ล็อกเอว ของท่านชายชุดเขียวไว้เช่นกัน ร่างของคนทั้งคนก็แขวนห้อยอยู่ บนร่างของท่านชายชุดเขียว

ท่าชายชุดเขียวโซเซไปมา เกือบล้มคะม่ไปบนพื้น ตรงหว่าง คิ้วเขามีแต่ความเย็นชา กัดกรามแล้วพูดว่า “ลงไปซะ”

“คนงาม ข้าถูกใจเจ้าแล้ว ดวงตาฟีนิกซ์ที่แหลมคมเย็นชาคู่นี้ ใบหน้าที่ขาวราวกับทาแป้งนี้ รูปร่างที่ตรงราวกับไม้ไผ่ ทุกส่วน ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าชอบที่สุด” คางของชายชุดแดงวางอยู่บนไหล่ ของท่านชายชุดเขียว ดมกลิ่นหอมสดชื่นนั้น นัยน์ตาของคน ทั้งคนมีแต่รอยยิ้ม ใต้ดวงอาทิตย์ราวกับมีบัวแดงบานอยู่ ล่าแสงเบ่งบานไหลเวียนไปมา ทำให้ไม่สามารถละสายตาไปได้ เดิมทีผู้ที่รายล้อมงานแต่งของโจ๋จือโจว บัดนี้วงล้อมทั้งนอกและได้รายล้อมอยู่ข้างกายทั้งสองคน ล้อมกันเป็นวงกลม ใหญ่ นั่นเรียกได้ได้รับความสนใจน้อยเลย

ที่เกินไปกว่านิ้วมือของชายแดงลูบคลำคางราวกับปัดแป้งของท่านชายชุดเขียว หว่างคิ้วเต็มด้วยแสง แห่งความต้องการ

ท่านชายชุดเขียวได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งคิ้วราวกับน้ำ แข็ง ริมฝีปากบางมุ่ยปากเล็กน้อย เหมือนจะทนกับความ โกรธอยู่ แต่มือหนึ่งค่อยๆ ยกจับที่แขนนั้นคอของ ตนเอง

ดังนั้น ข้าชอบเจ้าขนาดนี้ เจ้าอยากเป็นนางบำเรอคนสามของหรือไม่ชายชุดแดงไม่ได้รู้สึกว่าท่านชายชุดเขียว กำลังมีอาการโมโหอยู่เลยแม้น้อย รู้สึกแต่เพียงการสัมผัสที่ เนียนดุจหยก พูดออกไปด้วยรอยยิ้ม วางใจได้ แม้ในอนาคตอาจจะคนสิบสี่ ที่สิบห้า เจ้าจะคนสิบสามเพียงหนึ่งเดียว ไม่มี

คำว่าเนื้อยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินแค่เสียงกรีดร้อง เงาแดงพัดผ่าน ไปตรงหน้าผู้คน หลังจากนั้นมีเสียงดังยุบ คนหนึ่งราวกับผ้าเน่าถูกทำให้ล้มลงพื้นอย่างโหดร้าย

คนที่ติดหนึบอยู่บนตัวท่านชายชุดเขียว ก็ทำให้พื้นอย่างโหดร้าย ถนนเต็มด้วยฝุ่นกระจัดกระจายอย่างคาดไม่ถึง
“ดอก ดอก นางบ้าเรอ สิบสามหยาบคายจริง ข้าก็ชอบใช้ กำลังแบบนี้แหละ” หน้าของชายชุดแดงเต็มไปด้วยฝุ่นไอคอกแค่ กไปมา พลางมองดูท่าชายชุดเขียวด้วยความรัก

เดิมที่ท่านชายชุดเขียวก้าวเท้าจะเดินจากไปแล้ว ได้ยินคำพูด นี้เลยหันกลับมา ในขณะที่ผู้คนกำลังมีสายตาที่ประหลาดใจ ร่าง ของเขาก้าวขึ้นมา คุกเข่าลง เข่าที่คุกลงนั้นพอดีไปกดถูกบนบ่า ของชายชุดแดงที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นมา ดังนั้นชายชุดแดงได้แต่ กัดฟันล้มลงไปบนพื้นอีกรอบหนึ่ง

หางตาของท่านชายชุดเขียวตวัดขึ้น มุมปากยกขึ้น พกพา ความดูถูกที่ชั่วร้ายเอาไว้เล็กน้อย นิ้วมือที่เหมือนหยกแตะหัวที่ เงยขึ้นของชายชุดแดง เลื่อนไปทั่วคิ้วของเขามาถึงดั้งจมูก ใน ที่สุดก็มาถึงริมฝีปากที่บางแดงสว่าง

เพียงการสัมผัสแค่นี้ ชายชุดแดงรู้สึกว่าหัวใจของตนเองสั่น เทาอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาดอกท้อคู่หนึ่งค่อยๆ ดิ่งลึกลงไป จน กระทั่งอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ท่านชายชุดเขียวกลับหัวเราะ ที่หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความ สุกใสทันใด ทันใดนั้นคิดไม่ถึงว่าจะทำให้ผู้คนต่างรู้สึกว่าชาย ผอมชะลูดที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมหาคู่แข่งไม่ได้เช่นกัน

“ก็ความสามารถแค่นี้ ยังจะกล้ายั่วคนอื่นบนถนนอย่างตาม สบายอีก” พอท่านชายชุดเขียวเปิดปาก ก็ทำให้ใจของผู้คนโดย รอบเย็นชื้นขึ้นมา เสียงที่เย็นชาราวกับน้ำพุใสเย็น ทำให้ผู้คน ต่างมีความรู้สึกว่าฝุ่นได้ถูกชะล้างออกไปในทันที
“เจ้า…” ชายชุดแดงรู้สึกว่าตนเองไม่มีหมดสิทธิ์ที่จะได้รับการ พูดในทันที ดวงตาดอกท้อจ้องหน้าของท่านชายชุดเขียวอย่าง ไม่ละสายตา

“ข้าแปลกใจมาก นางบำเรอที่สิบสอง เจ้าเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่าย รับ รูปร่างเล็กอรชรจะรับไหวหรือ” พอคำพูดนี้ออกไป เสียงสุด ลมหายใจบริเวณโดยรอบดังขึ้น หรือว่าท่านชายชุดเขียวผู้นี้ก็มี งานอดิเรกนี้เช่นกัน หลายปีนี้ ท่านชายที่ขาวราวกับหยกล้วน เป็นอะไรกันไปหมด

มุมปากของท่านชายชุดเขียวยกขึ้นเล็กน้อย ไม่สนใจสีหน้าที่ แปลกใจของผู้คนแม้แต่น้อย

“งั้นคนงามลองดูกับข้าหน่อยก็รู้แล้ว กระดูกแหลกสติไม่อยู่ กับเนื้อกับตัวแน่นอน” ในที่สุดท่านชายชุดแดงก็ได้บทพูดของ ตนเองจนได้ ยื่นมือทั้งคู่ออกไปจะไปโอบเข่าที่คุกอยู่บนบ่าของ เขา

พอมือของท่านชายชุดเขียวขยับ ชายชุดแดงก็ล้มฟุบกลับไป ทันที ครั้งนี้หมดเรี่ยวแรงไปหมด ขยับเขยื้อนไม่ค่อยจะได้อีก

“เจ้า” ดวงตาดอกท้อของชายชุดแดงเต็มไปด้วยความตกใจ ดูท่านชายชุดเขียวด้วยความอัปยศเล็กน้อย “เป็นไปไม่ได้ที่คน งามอยากจะอยู่ตรงนี้ เจ้าไม่กลัวอับอาย ข้าก็ให้ความร่วมมือ แน่นอน”

ท่านชายชุดเขียวเหลือบมองไปที่องครักษ์ที่นั่งอยู่บนรถม้าไม่ ไกลชั่วครู่ จากการคิดวิเคราะห์ชั่วครู่ เขาไม่รู้ว่ากรรไกรอันเล็กนี้ได้มาจากที่ใดกัน ในช่วงที่ประมือกัน ชายชุดแดงนั้นรู้สึกว่า ตนเองดูดีมากขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ชาวบ้านบนถนนสนใจกับ รูปลักษณ์ภายนอกงั้นหรือ?

ตอนที่ชายชุดแดงกำลังคิดอยู่อย่างนี้ ดวงตาดอกท้อก็มีความ หวาดกลัวอยู่ในนั้น

ชั่วประเดี๋ยวเดียว ชายชุดแดงเหลืองเพียงกางเกงชั้นในตัว เดียว คนทั้งคนถูกเปิดเผยเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชน

“คนงาม อย่ายั่วโมโหข้า อารมณ์ของข้าก็ไม่ค่อยจะดีเท่า ไหร่” กรรไกรที่เย็นเยือกของท่านชายชุดเขียวตบเข้าที่ใบหน้า ของชายชุดแดง หลังจากนั้นลุกขึ้นมาอย่างทะมัดทะแมง “คราว หลังหากเจอข้า ให้เดินอ้อมไปทางอื่นแทน เพราะข้าก็ไม่แน่ใจ ด้วยอารมณ์นึกสนุกชั่วครู่จะตัดชีวิตของเจ้าขาด เจ้ารู้ดี การเป็น หมอนั้นมีบางครั้งมือจะคันๆ อยู่ไม่สุข โดยเฉพาะกับพวกสัตว์ เดรัจฉานที่ใช้แต่ส่วนล่างของร่างกายตัดสิน ข้าเคารพการตัดสิน ใจของเจ้า แต่ข้าจะไม่คล้อยตามอย่างไร้เหตุผล

พูดจบ หันหลังกลับไป สะบัดชุดเขียวเล็กน้อย ก้าวเดินไปข้าง หน้าอย่างเร็วและเบา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ