บัลลังก์เสน่ห์หา หมอยาข้ามภพ

ตอนที่ 2 พูดจาแทะโลมท่านชายกวนอ



ตอนที่ 2 พูดจาแทะโลมท่านชายกวนอ

ปีเฟิงหลวนสามสิบหก เมืองหลวงงดงาม ปลายหนาวต้นผลิ

“ท่านชาย ท่านกลับมาจะเข้าวังเลยหรือไม่” ผู้รับใช้ที่ตามรถ ม้าถามขึ้นด้วยเสียงโทน

“ข้าไม่ชอบหาที่ตาย” คนที่อยู่ด้านในส่งเสียงอย่างเย็นชา ราวกับว่าคําพูดที่ถามของผู้รับใช้ดูยุ่งมากเกินไป พูดไปพลาง ขมวดคิ้วถามไปพลางอย่างไม่มีความอดทนเท่าไหร่นัก “ทำไม ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้”

“ท่านชายของกงช่างซู (ตำแหน่ง) โจ๋จือโจววันนี้มีงาน อภิเษก” ผู้รับใช้โม่เยียนยิ้มแล้วตอบกลับ

ลมแรงพัดผ่านไป ม่านที่คลุมรถม้าถูกเปิดออก เงาของคนผู้

หนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน

ผมดาราวกับหมึก บนหัวมีหยกขาวมัดอยู่หลวมๆ เส้นผมที่ เหลือพลิ้วไหวไปตามแรงลม หน้าราวกับหยกแกะสลัก ไม่มีจุด ด่างน้อยแม้แต่น้อย ดวงตาดอกท้อคู่หนึ่งจ้องมองด้วยความรัก ชุดแดงทั้งตัว ในมือขาวราวหยกตวัดพัดเข้าหากัน ราวกับเทพ จริงๆ ก็ไม่ปาน

“ตบแต่งด้วยโทนสีแดงไกลสิบลี้ มีลักษณะหญิงที่งดงาม ชาย ที่ดูมีความสามารถ ไม่เลว” ชายชุดแดงพูดขึ้น แค่ดวงตาดอก ท้อค่อยๆ หรี่ลง คำพูดนี้ฟังดูแล้วมีอารมณ์ของการเหยียดหยามอยู่

“ฝ่ายหญิงคือหลานคนรองของป้ายโกจ้างป่ายเงี่ยนจน” ไม่ เขียนมองดู ใบหน้าของชายชุดแดงอย่างระมัดระวัง ดูไปแล้วมัน เข้มไปหน่อยหนึ่ง

“เป็นคู่ที่ดีจริงๆ” ชายชุดแดงยิ้มน้อยๆ เสียงของเกือกม้าดัง กรับๆ กระทบกับหินที่ปูบนพื้นซึ่งคลุมด้วยผ้าไหมสีแดง สองข้าง ทางเมืองหลวงมีชาวบ้านยืนอยู่ แต่ชายชุดแดงไม่มีความรู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแม้แต่นิด ดูเหมือนว่าการปูผ้าไหมแดงที่พื้น ถนนนี้ก็เพื่อให้เขาใช้ชะตาชีวิตของเขาก็ควรได้รับการยอมรับ จากชาวบ้านอยู่แล้ว

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง รีบหลบไปซะ” องครักษ์คู่หนึ่งวิ่งมา มือ ไม้กับชายชุดแดง

สายตาของชายชุดแดงเย็นชาแวบหนึ่ง แส้ม้าในมือของโม่ เขียนตวัดออกไปแล้ว มือที่ยื่นออกมาขององครักษ์คนนั้นเลือด ไหลอาบในทันใด

“เจ้า เจ้ากล้าหรือ ไม่รู้หรือว่านี่คืองานของตระกูลไหน” ชาย คนนั้นจับมือของตนไว้พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“อ่อ ใครกันล่ะ บอกหน่อยเถอะ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ชาย ชุดแดงเอนกายตรงนั้นอย่างเกียจคร้าน ภายใต้แสงอาทิตย์คือ แสงสลัวอย่างงดงาม

“การอภิเษกระหว่างกงปู่ซ่างซู (ตำแหน่ง) กับจวนป่ายโก๋กง เจ้าช่างกล้าดียังไง” องครักษ์อีกคนพูดขึ้นด้วยความหาญกล้า”ท่านชายของพวกเราคือขุนนางโจซื้อโจวของบ้านหลินหยวน (สถานที่) ” พูดถึงตรงนี้ ตรงหว่างคิ้วมีความภาคภูมิใจอย่าง มาก

“อ๋อ ไม่เลวจริงๆ” ชายชุดแดงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยิ้มอ่อนๆ องครักษ์ผู้นั้นจู่ๆ ก็รู้สึกเย็นขวบไปทั่วร่าง ไม่มีใครสังเกต ท่าน ชายชุดเขียวในกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็หยุดฝีเท้าที่เร่งรีบนั้นทันที

“ข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าช่างใจกล้านัก กล้ากีดขวางทางของท่าน ชายข้า” ไม่เขียนยิ้ม

ชายชุดแดงไม่ได้พูดอะไร กระโดดลงรถอย่างทะมัดทะแมง ก้าวมาประชิดข้างองครักษ์ ภายใต้รอยยิ้มของเขา องครักษ์จึง ถอยหลังก้าวออกไป ระหว่างช่วงนั้นเอง โจ๋จือโจวได้ขี่ม้าตัว ใหญ่ปรากฏอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าที่ขาวราวกับหยกเผยให้เห็น ภาพที่แตกต่างใต้ดวงอาทิตย์ เสื้อคลุมสีแดงดูโดดเด่นเป็น อย่างยิ่ง

นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นกิ้งก่าได้ทอง ท่านชายชุดเขียวที่หยุด ชะงักก้าวเดินก็ยังยืนอยู่ในกลุ่มคนมองดูอย่างเงียบๆ ดวงตา ฟีนิกซ์คู่นั้นแสดงอาการเย็นชาอย่างลึกลับ

ชายชุดแดงแน่นอนว่าก็มองเห็นแล้ว ทันใดนั้นดวงตาก็มอง ตรงมา ผลักองครักษ์ออกไป มองดูโง่จือโจวเข้าไปใกล้อย่าง เงียบๆ

“ท่านชายท่าน ท่านคือ?” โจ๋จือโจวคิดไม่ถึงแน่นอน วันอย่าง นี้ยังจะมีคนกล้าหาเรื่อง อีกทั้งยังเผชิญกับตระกูลโจและตระกูลป้ายพร้อมกันอีกด้วย

“ท่านชายช่างสง่างามนัก ย่อมทำให้คนรักใคร่ชอบพอ แน่นอน” ดวงตาดอกท้อของชายชุดแดงเลิกขึ้น เต็มไปด้วยรอย ยิ้มทั้งหน้า พูดไปพลาง มือที่ขาวราวกับหยกก็ดึงชุดมงคลของ โจ๋จือ โจวไปพลาง “ท่าชาย…”

ชายอกสามศอกผู้หนึ่งเรียกท่านชายด้วยเสียงนุ่มนวล หน้า ของโจซื้อ โจวโกรธจนเขียวขึ้นมาทันที แต่ว่าวันนี้เป็นวันมงคล ของเขา จะต้องอดทนให้ได้ อีกทั้งชื่อเสียงท่านชายกวนออีก จึง ได้แค่อดทนเอาไว้อย่างนั้น “ท่านพี่ปล่อยมือเถอะ ท่าทางแบบนี้ ดูไปแล้วไม่งามนัก”

“ไม่งามตรงไหน เป็นเรื่องที่เราต่างก็รู้ดีซึ่งกันและกัน อีกทั้งข้า ยังรักท่านชายตั้งแต่แรกเห็นจริงๆ” ชายชุดแดงพูดถึงตรงนี้ นัยน์ตามีความม้วนอายเล็กน้อย มือก็ดึงแขนเสื้อของโจ๋จือโจว ไหวไปไหวมา

มีเสียงลมพัดจากบริเวณรอบๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นการตัดความ รําคาญออกจากแขนเสื้อนั้นได้ คิดไม่ถึงว่าจะพูดจาแทะโลมท่าน ชายกวนอต่อที่สาธารณะได้ ได้เห็นกัน

โจ๋จือโจวเย็นยวบขึ้นมาทันที รู้สึกว่าขนลุกไปทั่วร่างหมดแล้ว สายตาหนึ่งมองไป ผู้ดูแลตระกูลวัยกลางคนผู้หนึ่งปรากฏตัว ออกมา ผลักมือที่ดึงชายชุดแดงออกไปอย่างโหดร้าย “ท่านชาย โปรดรักษากิริยามารยาทด้วย ท่านชายของข้าไม่ใช่คนเช่นนั้น พูดไปพลาง อีกทั้งยังตามผลักออกไปอีกครั้ง
“นั่นยังไม่รู้ว่าสติหลุดลอยไป…” ชายชุดแดงพูดไปพลาง เดิน โซเซถอยไปด้านหลังตลอดทาง ผู้คน โดยรอบถอยห่างออกไป ตัดแขนเสื้อ ผู้ชายหลบหลีก ผู้หญิงยิ่งต้องหลบหลีก

ชายชุดแดงมีความสุขมากกับการโซเซถอยไปด้านหลังตลอด ทาง อุปสรรคแม้แต่นิดก็ไม่มี

จนกระทั่ง จนไปชนเข้ากับอ้อมอกใครผู้หนึ่งอย่างตะลึงงัน

กลิ่นหอมของยา สดชื่น ไม่เลว เขาชอบ คิ้วของชายชุดแดง เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าไม่รู้สึกตำหนิใดๆ กับที่ถูกผลักเมื่อ ครู่เลย นึกถึงตรงนี้ หัวของเขามองไปทางด้านหลัง มองดูรูปร่าง ของผู้ที่อยู่หลังร่างเขา สิ่งที่เข้ามาในม่านตาแรกก็คือคางที่ ราวกับหยกขาวแกะสลักไม่ปาน

ผู้นั้นก้มหน้าพอดี ดวงตาฟีนิกซ์ที่เยือกเย็นมองชายชุดแดง อย่างประหลาดใจเล็กน้อย ดวงตาฟีนิกซ์คู่หนึ่งดำมืดราวกับดาว เย็นในเวลากลางคืน เย็นต่างจากปกติ แต่ไม่มีความรังเกียจ แม้แต่น้อย มีแค่ความประหลาดใจเล็กน้อย

ท่านชายราวหยกชุดเขียว ชายหนุ่มชุดแดงที่รูปงาม ภาพตรง หน้าสวยมาก สวยจนแปลกประหลาดกว่าปกติ

ชายชุดแดงไม่อยากห่างออกเลยแม้แต่น้อย ชายชุดเขียวดู เหมือนว่าการตอบสนองจะหายไปชั่วครู่ คนหนึ่งยืนอยู่ตรง ราวกับไม้ไผ่ คนหนึ่งพิงอยู่ในอ้อมอกของคนด้านหลัง เต็มไป ด้วยรอยยิ้มที่เกียจคร้านและพอใจ

บนถนนมีความเงียบที่แปลกประหลาดอยู่พักหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ