นางบำเรอในมือมาร

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

“แล้วไงครับ วันนี้แขกคนสําคัญของดาไม่มาเหรอ ดาถึง ได้เจียดเวลามาคุยกับผมได้” คำพูดเหมือนจะงอนๆ ทว่า น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความหยอกเย้า

“เอ…ผู้กำกับไปราชการต่างจังหวัดคะ ส่วนเฮียกรยังไม่ เห็น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มานะคะ”

เสียงตอบรวมๆ ปนงอน เมื่อคนถามไม่ได้แสดงความ หึงหวงแถมยังมาหยอกเย้าถึงแขกขาประจำของเธอเสีย อีก แขกประจำของเธอ รู้กันดีว่ามีเพียง 3 คน เพราะนอก นั้นลินลดาลาขาดที่จะรับคนอื่นเพิ่มด้วยเหตุผลที่ว่าเธอ แก่แล้ว ทว่าก็ยังมีแขกขาจรและขาประจําอีกมากที่ยินดี มให้ถ้าเธอยอม แต่ก็อีกนั่นแหละ ใครๆ ก็คงสู้แรงทุ่ม จะทุ่มใ ของภควัฒน์ไม่ไหว สุดท้ายแขกขาประจําของเธอก็คง เหลือ 3 คนเหมือนเดิม

สำหรับผู้กำกับบัญชาและเสี่ยพงศกรเป็นแขกที่เธอขอ ไม่ให้ภควัฒน์เข้ามาก้าวก่าย เพราะว่ากิจการของเธอ ต้องการคนมีสีมาคุ้มครอง และเสี่ยพงศกรก็ยังเป็นคนที่ ช่วยเหลือทางด้านการเงินจนทำให้เธอมีทุกวันนี้ ซึ่งภค วัฒน์ก็เข้าใจและจะไม่ยุ่งหาก 1 ตำรวจและ 1 เสี่ยนี้จะมา แต่จะว่าไม่ยุ่งก็ไม่ได้เพราะหาก 2 หนุ่มเหลือน้อยทั้งสอง คนนั้นเปิดศึกชิงเธอกันเมื่อไร สุดท้ายแล้วภควัฒน์ก็จะ ได้ไปทุกครั้ง
“งั้น.. คืนนี้ ดาไปกับผมนะ”

ดวงตาคมเข้มที่บอกเคล้าความหล่อเหลาเมื่อครั้งยัง หนุ่มทอดมองมาที่เธออย่างแสนรัก สายตาที่ทำให้ใบหน้า เหมือนจะมีเลือดฝาดขึ้นครามครัน ทว่า…เธอยังอยากที่จะ หลีกไกลความเจ็บปวดที่มีแต่จะทวีเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกวัน

“ถ้าปฏิเสธ..”

“ไม่รักก็ได้ แต่อย่าปฏิเสธเลยนะ” ฝ่ามือบีบกระชับมาก ขึ้นอย่างขอร้องให้เธอยอม

“และถ้ารักจะปฏิเสธได้ไหมคะ”

“ยิ่งรักก็ยิ่งไม่ควรปฏิเสธ

“โธ่! อย่างนี้ ดาก็เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องซิคะ”

“ดาก็รู้ ผมไม่มีวันยอมให้ดาเสียเปรียบหรอก จะยอมให้ ได้เปรียบอยู่ร่ำไป

ความจริงใจที่สื่อออกมาจากดวงตาคู่นั้น มันทำให้ลิน ลดาถึงกับพูดไม่ออก เพราะอย่างนี้ไงที่เรียกว่า “ความ ….. เจ็บปวดที่อยากหลีกไกล” ยิ่งใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ยิ่งรู้สึกรักก็ยิ่งเจ็บ เธอรู้ว่าภควัฒน์จะมีความสุขถ้าเธอยอม ตามใจเขา แต่ครอบครัวของเขาล่ะจะยอมได้หรือที่ต้อง เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกับแม่เล้าอย่างเธอ ตระกูล เก่าแก่ “บริรักษ์” คนรวยในย่านนี้และเจ้าของโรงงาน อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเขต ครอบครัวของเขาจะ ยอมรับเธอหรือ โดยเฉพาะแม่เล้าเปื้อนคาวที่มีเรือพ่วงลำ โตอย่างเธอ

“ที่เดิมครับ”

คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นเพียงนิด ทว่าใบหน้าหล่อเหลายังไม่ ละจากเอกสารในมือ คำรายงานของนุติเหมือนเป็นเพียง สิ่งที่ผ่านมาและผ่านไป เพราะสิ่งที่เขาต้องจัดการอย่าง เร่งด่วน! คือเอกสารในมือมากกว่า คนที่นุติส่งไปให้เป็น คนขับรถของบิดาก็เหมือนจะเป็นแหล่งข่าวที่สามารถ ติดตามได้ตลอดเวลาว่าบิดาทําอะไร ที่ไหน กับใคร และ อย่างไร ซึ่งสิ่งที่ทำนี้ไม่ใช่การจับผิดแต่เป็นเพียงการเฝ้า ระวังความปลอดภัยก็เท่านั้น

ดวงตาคมเข้มละจากเอกสารมองตรงไปยังโน๊ตบุ๊คตรง หน้า ภาพสกีนเซเวอร์ปรากฏเป็นภาพครอบครัวของเขา ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่มและจนถึงก่อนที่เขาจะเดินทาง ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ภาพความสุขของสามคนพ่อแม่ ลูก สิ่งที่สามารถรักษาไว้ได้มีเพียงภาพบันทึกความทรง จำเหล่านี้เท่านั้น เพราะนับตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วที่มารดาของ เขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ครอบครัวก็ไม่ เคยได้พร้อมหน้าอีกเลย
พ่อ..คนสําคัญเพียงคนเดียวที่ต้องดูแลอย่างดี แม้ว่า ท่านจะออกเที่ยวบ้างตามประสาผู้ชายเขาก็ไม่เห็นว่าจะ เป็นเรื่องแปลกอะไร แต่ระยะ 3 ปีที่ผ่านมานี้ สถานที่ที่ ท่านจะไปในค่ำคืนกลับกลายเป็น “ลินลดาคาเฟ่” สถาน ที่นั้นเพียงแห่งเดียว และเรื่องราวความพึงพอใจที่ท่าน มีต่อ “ลินลดา” แม่เล้าคนสวยจึงไม่กลายเป็นความลับ สําหรับเขาอีกต่อไป ทว่าความพึงพอใจกับความสุขเพียง ชั่วคราวของบิดาดูจะไม่ใช่ประเด็นหากท่านจะไม่คิดที่ จะ..แต่งงานใหม่

ดินสอในมือหักเป็นสองท่อนตามแรงอารมณ์ของคนถือ ทําเอานุติรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ดวงตาภายใต้กรอบแว่น บางเหลือบมองนาฬิกาติดฝาผนังไม่กล้าแม้แต่จะขยับ มองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง

“4 ทุ่มครึ่ง” ท้องที่ร้องประท้วงเพราะเลยเวลาอาหารมา นานทำให้ดวงตานั้นต้องหลุบต่ำอย่างสำรวมกิริยา ทว่าก็ ยังไม่พ้นสายตาเข้มๆ ที่มองมาอยู่ดี

“เฮ้อ! ขอโทษทีนุ ลืมเวลาไปเลย หิวล่ะซิ”

“โธ่! คุณคินไม่น่าถามเลยนะครับ ไส้จะขาดอยู่แล้ว” “อืม..จะขาดก็แปลว่ายังไม่ขาดน่ะซิ งั้นหิ้วท้องไปอีกสักครึ่งชั่วโมงละกัน วันนี้ฉันอยากจะไปกินไก่ในเล้าเสีย หน่อย” คิ้วเข้มเลิกสูงดูเชิงแต่เมื่อเห็นเลขาหนุ่มยังคงยืน เฉย ริมฝีปากสั้นๆ นั้นจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

“หรือว่านายไม่อยากไปก็ตามใจ ชวนไปกินไก่ไม่ไป อยากจะกลับไปกินอาหารญี่ปุ่นที่บ้านก็ตามใจ”

ภคินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินออกไปโดย ไม่สนใจที่จะปิดอุปกรณ์ใดๆ ที่เปิดค้างอยู่ ราวกับว่ามัน

ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะทํา

“คุณคิน! คุณคิน! รอเดี๋ยวซิครับ รอผมปิดคอมก่อน โธ่!”

นฺติถลาเข้ามาปิดโน๊ตบุ๊คของบอร์ดบริหารสูงสุดอย่าง รวดเร็ว สายตามองลอดแว่นแยกแยะเอกสารที่จะ สามารถเก็บเป็นหมวดหมู่ได้เร็วที่สุด เสียงเจ้านายที่ เร่งเร้าอยู่ด้านนอกทำให้ยิ่งละล้าละลัง

“เฮ้ย! นุ เร็วๆ เข้า ทำอะไรชักช้า ฉันจะรีบ

“คุณคินนะคุณคิน ไม่รู้จะแกล้งกันไปถึงไหน เฮ้อ!” ปาก บ่นพึมพำแต่สายตาและมือทั้งสองข้างทำงานประสานกัน เต็มที่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ