บทที่ 15 เครียดจนหายใจไม่ออก
ฉงโหลวมีชื่อเสียงไปทั่วแผ่นดิน ไม่เพียงแต่เพราะว่าอาหาร จะรสชาติดี ยังเป็นเพราะว่าท่วงท่าการบริการที่สุดยอดมากของ พวกเขา ไม่ว่าจะใครจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหนบ้าง เมื่อมาถึงฉง โหลว หากเกิดอะไรขึ้น ฉงโหลวจะไม่ปริปากบอกคนนอกให้รับ รู้อย่างแน่นอน
นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่และข้าราชการที่ เรืองอำนาจล้วนมาปรึกษาหารือกันที่นี่ แม้แต่พวกขององค์ชาย รัชทายาทก็ล้วนแล้วแต่ชอบมาที่นี่
แต่ห้องห้องนี้กลับมีส่วนที่ไม่ค่อยดีอยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือมัน แสดงถึงตัวตนของเจ้าของห้องนั่นเอง
เมื่อเวิน อกับทรงเชิงยวนก้าวเข้าไปในห้อง ภาชนะที่ประดับ ตกแต่งอยู่ภายในห้องนี้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีโต๊ะที่นั่งบนพื้น ริมหน้าต่างตัวหนึ่ง สามารถนั่งดื่มสุราที่นั่นได้ และยังมีพรมหนึ่ง ผืนปูอยู่บนพื้น ซึ่งเป็นพรมที่นุ่มเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าต้องใช้ความคิด และกำลังกายของคนคนถึงจะทำมันออกมาได้
และยังมีผลงานศิลปะร่วมสมัยที่ละเอียดอ่อนหลากหลาย ประเภทอยู่บนโต๊ะและบนกำแพงทั้งสี่ด้านของห้องนี้ พอเข้าไป จะมีภาพวาดภาพหนึ่งที่เข้าตามาก นั่นคือภาพวาดภูเขาและ แม่น้ำที่ถูกวาด โดยจูจิ่นจ้านแห่งราชวงศ์ก่อน ซึ่งมีท่วงทำนอง และแนวคิดทางศิลปะที่ยาวนานและกว้างไกลมาก
แต่เมื่อเงินชื่อก้าวเข้ามาในสถานที่นี้ นางกลับไม่ได้ให้ความ สนใจกับสิ่งเหล่านี้มากนัก เพราะในขณะที่ประตูปิดลง นางจึง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อคู่อาฆาตเจอหน้ากัน อารมณ์ หวั่นไหวเป็นอย่างมาก
โดยธรรมชาติแล้วทรงเชิงยวนจะไม่ปล่อยให้นางเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่เข้าใจเป็นอย่างมากว่าทำไมเป็นชื่อหญิงสาวที่ดูเหมือน ไม่ใช่คนที่มีความกล้าหาญน้อยมากคนนี้ พอเห็นองค์ชาย รัชทายาทจึงได้แปลกไปขนาดนั้น
“องค์ชายรัชทายาทมาไม่ได้แล้ว คุณหนูรองไม่ต้องเครียด ขนาดนี้แล้วก็ได้ มานั่งลงพักผ่อนสักหน่อย แล้วรับประทาน อาหารว่างไม่ดีกว่าหรือ?”
“ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันไม่เครียดแล้ว” เป็นชื่อโบกมือไป มา แสดงให้เห็นว่าตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมาก
ทั้งสองคนกลับไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ราวกับว่าเพิ่งจะได้ เจอกับองค์ชายรัชทายาท อย่างไรก็ตามสำหรับพวกเราแล้ว มัน เป็นเพียงเรื่องเล็กเรื่องหนึ่งเท่านั้น
“ห้องห้องนี้ดูเหมือนว่าประดับตกแต่งดีมากทุกด้านเลย ไม่ ทราบว่าพระองค์จองไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือเพคะ?”
เงินชื่อแสร้งทำเป็นถามด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย แต่จริงๆแล้ว ภายในใจล้วนเกลียดชังจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว นึกไม่ ถึงเลยว่าได้เจอศัตรูคู่อาฆาตแล้วแต่ไม่สามารถแก้แค้นได้ ทำให้ รู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ
หรือว่าคุณหนูรองไม่รู้?” รอยยิ้มที่อ่อนโยนของทรงเชิงยวน ทำให้หัวใจของเงินชื่อรู้สึกผ่อนคลาย การแสดงออกเช่นนี้ของ เขา ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เหมือนกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ จริงๆ
“รู้อะไรหรือเพคะ?”
เงิน อจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นี้ แล้วค่อยๆ จมลึกเข้าไปข้างใน ไม่อาจถอนตัวออกมาได้ และทำได้เพียงอาศัยสัญชาตญาณของ ตัวเองเดินตามเขาแล้วถามออกมา
“คนที่มีฐานะในเมืองหลวง ล้วนมีห้องส่วนตัวที่ฉงโหลว ที่ไม่ สามารถให้คนอื่นใช้ ห้องส่วนตัวนี้เป็นของตระกูลหรงเรา ดังนั้น ข้ามาที่นี่ จึงไม่จำเป็นต้องจอง!”
น้ำเสียงของหรงเชิงยวนสุภาพอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น รอยยิ้มนั้น ก็ชัดเจนขึ้น ราวกับกำลังเข้าหยอกเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างไรอย่าง
ทันใดนั้นเป็นชื่อก็มีสติกลับคืนมา จึงพบว่าตัวเองเพิ่งจะกำลัง มองเขาอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่เป็นเวลานาน ช่วงนี้มักจะถูกทรงเชิง ยวนทำให้หลงเสน่ห์อยู่เสมอ นางก็เลยโมโหเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรกับหรงเชิงยวนต่อ
แต่ทว่า จวนอ๋องหัวของพวกเจ้ากลับไม่มี คิดว่าคงเป็นเพราะ ว่าอ๋องหัวไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง ผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างพวกเจ้าก็ไม่ ได้ออกมาข้างนอกบ่อยนัก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่คุณหนูเป็นร องจะไม่รู้”
เงิน อคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางเพียงแต่พยักหน้าไปมาและไม่พูด อะไร นางยังคงรู้สึกมึนงงและไม่ปิติยินดีที่ตัวเองเพิ่งจะถูกสะกด โดยทรงเชิงยวน
“มานี่ ยกอาหารมาให้
ทรงเชิงยวนไม่ได้เร่งรัดเงินชื่อ เขาเพียงแต่พูดคำพูดที่สุภาพ อ่อนโยนออกไปนอกห้องหนึ่งประโยคเท่านั้น คำพูดนี้ทำให้ ความรู้สึกของเงินชื่อกลับมาอีกครั้ง
พอพูดออกไป ก็มีคนยกจานมาให้ทันที แต่ละคนล้วนก้มหน้า ลง แต่กลับสุขุมและมั่นคงมาก และไม่มีจุดไหนที่ทำให้รู้สึกว่า เป็นการล่วงเกินเลย
นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงตั้งตระหง่านอยู่ใน เมืองซื้อเฉิงได้สินะ เพียงแต่เป็นชื่อไม่คิดว่า ยังไม่ได้สั่งอาหาร เหล่านี้เลย แต่นำมาให้แล้ว มันช่าง……
อีกอย่าง ฉงโหลวแห่งนี้ให้ความเคารพพวกเขามากเกินไป แล้วกระมัง สมกับที่เป็นทรงซื่อจื่อ ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับ ท่าทีการปฏิบัติเช่นนี้ในสถานนี้แบบนี้ได้ มีเงินมีอำนาจมันช่างดี จริงๆ
“รีบกินเถิด อาหารจานนี้เป็นอาหารที่พ่อครัวของฉงโหลวได้ คิดค้นขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ได้ยินว่ารสชาติไม่เลวเลย คุณ หนูรองรีบซิมดูดีหรือไม่?”
เงินซื้อพยักหน้าไปมา แล้วรับประทานอย่างช้าๆ แต่ในขณะที่ กำลังรับประทานอยู่ ทรงเชิงยวนก็พบว่าเป็นชื่อไม่ได้รับประทานอาหารที่อยู่ห่างไกลจากนางมากนัก เขาจึงโบกมือไปมาทันที แล้วมีสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาจัดอาหารให้เป็นชื่อ
เขาอย่างหนึ่ง สาวใช้คนนั้นก็ทำตามอย่างเดียวกัน ดังนั้น
เงินชื่อจึงได้รับประทานจนอิ่มซื้ออย่างมีเกียรติ
เงินชื่อรับประทานอาหารมื้อนี้เสร็จล้วนอยู่ภายใต้การบังคับ บัญชาของคนคนหนึ่ง รวมถึงภายใต้การช่วยเหลือของอีกคน
ในเวลานี้ นางจึงเข้าใจว่า ทรงชื่อจื่อคุณชายผู้สะโอดสะองที่ อ่อนโยนมีมารยาทและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จริงๆแล้วไม่ได้ อ่อนโยนขนาดนั้น
ระหว่างรับประทานอาหาร นางคลำหากระเป๋าเงินของตัวเอง ไปมา และรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก รับประทานอาหารหนึ่งมื้อใน สถานนี้แบบนี้ เกรงว่าจะราคาคงไม่ต่ำกว่าร้อยตำลึง แต่นางไม่ ได้พกเงินออกมาเยอะขนาดนั้น…
แต่ทว่า สุดท้ายตอนที่นางไปจ่ายเงินจึงพบว่า เนื่องจากห้อง ห้องนี้เป็นของจวนอ๋องหรง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงจ่ายโดยจวน อ๋องแรง…
น่าสนใจ น่าสนใจเป็นพิเศษ
เงินชื่อออกจากฉง โหลว แล้วคิดวนไปวนมานับพันครั้ง ทรงเชิงยวนช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่า และตอนนี้นางที่เดิมที ต้องการจะเลี้ยงข้าวคนอื่น แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นคนอื่นเลี้ยงข้าวนางแทน เรื่องนี้ทำให้นางจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่บ้างจริงๆ
แต่ถึงอย่างไร พอคิดว่าทรงเชิงยวนจะไม่ทำร้ายนาง ไม่รู้ว่า ทำไม เงินซื้อถึงได้มีความเชื่อมั่นในตัวเองเช่นนี้ หรือจะพูดว่า นางเชื่อทรงเชิงยวน ผู้ชายที่เพิ่งเคยเจอกันแค่สามครั้ง ทำให้ หัวใจของนางมีความรู้สึกแปลกๆจนพูดอะไรไม่ออกเล็กน้อย
“ช่างเถิดๆ ตอนนี้ทรงเชิงยวนไม่ได้สำคัญมาก ที่สำคัญที่สุด คือองค์ชายรัชทายาทหรงจ้าน เป้าหมายของเขาคือจวนอ๋องหัว ทั้งหมด หรือราชวงศ์เทียนหรงทั้งหมดล่ะ?”
เงินซื้อพูดพึมพำกับตัวเอง และไม่ได้สังเกตว่ามีคนติดตาม นางตลอดเวลา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ