ท่านบอสปิ้งเลาฉันยิ่งรัก

บทที่ 14 ฉันบ้ากามตรงไหน?



บทที่ 14 ฉันบ้ากามตรงไหน?

โหมวยหยิบผ้าห่มข้างๆมา ปิดตัวซางหลิงไว้แน่นหนา

ชางหลังตกใจ

ท่านี้ดูยังไงก็เหมือนเธอกำลังทำอะไรให้เขา…เธอขยับ ตัวอย่างไม่สะดวก โหมวกกดหัวเธอลงอีก หยุดห้ามเธอดิ้น

“อย่าขยับ!” โหมว อดทนไว้ สูดหายใจเข้าลึกๆ

ฉือลงจากรถ เดินไปพูดคุยกับชางหวยซู

ที่แท้ซางหวยซูที่ทำตัวใหญ่ในบ้านพอออกมากลายเป็นคน นอบน้อมแบบนี้งั้นเหรอ สุดท้าย ก็มาถึงข้างกระจกของโหมวย

โหมวยลดหน้าต่างลง เห็นแค่ครึ่งหน้าเขาพอดี สายตาเขา

สุขุม มีความห่างเหินเล็กน้อย

“ไม่รู้ว่าคุณชายรองโหมวมาที่นี่ เสียมารยาทจริงๆ ต้อง ขออภัยด้วยนะครับ” ชางหวยซูรีบพูดต่อว่า “ไม่รู้ว่าคุณโหมวมา ทีนี่ตอนดึกขนาดนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ

ชางหวยซูพูดอยู่นั้น หยูเฉินกลับรู้สึกแปลกๆ สายตาเขาสอด ส่องเข้าไปด้านในรถไม่หยุดเหลือบไปเห็นตรงผ้าห่มนั้นเหมือนมี ขาเนียนขาวโผล่ออกมา

กำลังจะดูอย่างละเอียดนั้น กลับสบตาเข้ากับสายตาเฉียบคม ของโหมวยเข้าพอดี หยูเฉินตกใจก้มหน้าลง ไม่กล้าทำอะไรอีก
“ได้ยินว่ามีคุณหนูคนหนึ่งของตระกูลซางเรียนออกแบบมา ผมกำลังจะเข้าร่วมเทศกาลแฟชั่นมิลาน ในไตรมาสหน้าพอดี อยากมาดูว่าคุณชางสนใจหรือเปล่า” โหมวยพูดอยู่ แต่ทันใด นั้น

รับรู้ได้ว่าชางหลิงกัดขาตัวเองไปอย่างแรง แต่เขากลับทําหน้า นิ่ง และแก้แค้นบีบเอวไปเบาๆ

“นี่….ใช่ครับๆ” ซางหวย ดีใจใหญ่ พยักหน้าเสียจนเหมือน ไก่จิกอาหาร เขารีบกวักมือไปด้านหลัง ชางนิ่งลงจากรถมา “นี่ เป็นลูกสาวผมชางฉิง เธอเรียนออกแบบเสื้อผ้ามา แม้ตอนนี้จะ ยังไม่จบ แต่เธอก็เคยได้รับรางวัลออกแบบมาก่อน ถ้าได้รับการ ชมเชยจากคุณชายรอง เธอจะไม่ทำให้คุณชายรองผิดหวังเลย ครับ”

ชางหลิงถูกกดอยู่บนตักโหมวย ทําเสียงที่เย็นชาเบาๆ

ชางฉิงเป็นดีไซเนอร์งั้นเหรอ ทั้งที่ตัวเองได้รับรางวัลมากกว่า เธออีก แต่คนตระกูลชางกลับทำเหมือนบล็อกไปเองอัตโนมัติ เหมือนไม่เห็นอะไรเลย รู้แค่ว่าซางฉิงเก่งมากที่สุด

“ซางฉิง?” โหมวยเลิกคิ้วขึ้น

ชางฉิงได้ยินชื่อตัวเอง ก้าวไปด้านหน้าอย่างตื่นเต้น ใช้รอย ยิ้มที่หวานที่สุดแสดงออกตรงหน้าโหมวย

“คุณชายรอง” เธอพูดเสียงอ่อนหวาน แต่โหมวยู่กลับไม่มองเธอด้วยซ้ำ แต่กลับปิดกระจกรถแทนไม่พูดอะไรอีก

ชางหวยชูกับชาง งสบตากัน ไม่มีใครรู้ว่าเขามีนิสัยยังไง ถือเดินไปตรงหน้า พูดไกล่เกลี่ยให้เข้าใจกัน

“คุณท่านชางกับคุณหนูซางอภัย ให้ด้วย คุณชายรองมีงานอยู่ ในตัว ไม่กี่วันเดี๋ยวผมจะส่งคนส่งบัตรเชิญมา ขอท่านทั้งสอง โปรดรอนะครับ”

“ได้ ได้เลยครับ” บางหวยยิ้มจนปากหุบไม่อยู่

ฉือขึ้นรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ และขับออกไปทันที หยูเฉินมองท้ายรถที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ในใจก็รู้สึกมีอะไร แปลกๆ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหนแปลก พูดไม่ออก

รถขับออกไปไกลมาก ชางหลิงโล่งอก เธอรีบปัดมือโหมวยที่ กดหัวเธอออก และนั่งตัวตรง

“คนบ้ากาม!” ใบหน้าเธอแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเพราะอึดอัดหรือ เพราะอย่างอื่น

“บ้ากามตรงไหนกัน?” โหมวยเลิกคิ้วขึ้น

ชางหลิงกัดริมฝีปาก หันหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจเขาอีก เขาใช้โอกาสเอาเปรียบเธอ และเธอยังไม่สามารถขัดขืนได้

เห็นเธอไม่สนใจเขา โหมวกลอกตา และพูดอย่างเรียบเฉย
“อยากไปไหม?” เขาถาม

ชางหลังสงสัย “ไปไหน?” “เทศกาลแฟชั่นมิลาน

เขาไม่พูดยังดี พอพูดแล้วก็ทำเอาชางหลิงโกรธมากกว่าเดิม “นายพึ่งเชิญคุณหนูสองของตระกูลซางไปเองไม่ใช่หรือไง? ยัง จะไปบอกที่บ้านอีก หน้าใหญ่แค่ไหนกัน

ตอนนี้คนทั้งบ้านคงดีใจกันใหญ่ โดยเฉพาะจ้าวหลินจือ พอ นึกถึงท่าทีคางคกขึ้นวอของเธอ ซางหลังก็โกรธจนปวดหัว

“หึงเหรอ?”

“หึงอะไรกัน? ฉันแค่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ชางฉิงตั้งแต่เด็กจนโต

ก็เอาแต่เรียนแบบฉัน ฉันวาดรูปเธอก็วาด ฉันเรียนออกแบบ เธอ

ก็เรียนด้วย เหมือนจะต้องเปรียบเทียบกับฉันให้ได้ แต่ก็ชอบ

ทำท่าเหมือนถูกรังแกตลอดเวลา เธอมีสิทธิอะไรไปงานแฟชั่นม

ลานกัน? อีกอย่าง ชางฉิงไปแล้ว ฉันก็ไป ถึงตอนนั้นหยูเงินคง

คิดว่าฉันตั้งใจทำตัวเด่นกว่าเธอ เดี๋ยวจะคิดว่าฉันไม่มีเหตุผล

อีก” ชางหลิง โกรธจัด

ครั้งไหนไม่ใช่แบบนี้? ขอแค่เธอเข้าร่วมการแข่งขันอะไร ชางฉิงก็จะรีบออกไปป่าวประกาศก่อนทันที ดังนั้นถึงแม้สุดท้าย เธอจะได้รางวัล ก็กลายเป็นว่าเธอเป็นคนขี้อิจฉาไม่ยอมใคร

โหมวยขมวดคิ้ว สายตามองด้วยความเยือกเย็น

“เธอสนใจหยูเฉินขนาดนี้เลยเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ