บทที่8 ย้ายเข้าบ้านตระกูล กู้
กู้จิ้งเซินพาฟางหยวนหยวนไปห้องพักของเมิ่งจื่อฉี เปิดประตูเข้าไปเจอกับใบหน้าที่แดงและนอนหลับอยู่ บนเตียง
พยาบาลกำลังเติมน้ำเกลือให้นาง กู้จิ่งเซินขมวด คิ้ว: “เกิดอะไรขึ้น?
“คุณกู้คะ เมิ่งจื่อฉีไข้ขึ้นสูง 40องศา เรากำลัง ใส่ยาช่วยลดไข้ให้นาง!
“40องศา? หนักขนาดนี้เลยหรอ? “ฟางหยวน หยวนยังไม่เชื่อว่าเมิ่งจื่อฉีไข้ขึ้นสูง มั่นใจว่านางแค่ สําออยไม่อยากขอโทษ
นางปั้นหน้าแบบสงสารเดินไปข้างเตียง แกล้งเป็น เมิ่งจื่อฉีแล้วจับมือนาง มือของเมิ่งจื่อฉีนั้นร้อนมาก ถึงรู้ ว่าไขขึ้นจริงๆ ใบหน้าก็แสดงออกถึงความโกรธเกลียด นาง: “ตัวร้อนจนตายไปก็ดี!
สาปแช่งในใจ แต่การกระทำนั้นเสแสร้งว่าเป็น ห่วง ทำเป็นจัดผ้าห่มที่ยับให้ ทันใดนั้นเหลือบไปเห็น คล้ายรอยจูบที่คอเมิ่งจื่อฉี
คิดตงิดในใจ รอยจูบของอีกะหรี่นี้ดูเหมือนเป็น
รอยจูบใหม่ๆ หรือว่า?
นางสงสัยแล้วมองไปที่กจิ่งเซิน ปรากฏว่าก้จิ่งเซินก็เหม่อมองอยู่ที่เรือนร่างของเมิ่งจื่อฉี
ฟางหยวนหยวนคิดขึ้นมาได้ทันที ต้องเป็นจิ้งเซิน
แน่ๆ!
อีกะหรี่นี้ ไม่ได้ฆ่าให้ตายยังให้นางฉกฉวยโอกาส ขึ้นเตียงกู้จิ่งเซินได้ จะบ้าตาย!
เมิ่งจื่อฉีนอนโรงพยาบาลมาได้สองวันไข้ก็ค่อยๆ ลด การเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้นางนั้นซูบผอมไปอย่างมาก ดูไม่เหมือนคนจริงๆ
เพราะการป่วยหนักครั้งนี้ กู้วิ่งเซินก็ไม่ได้บังคับให้ นางไปขอโทษฟางหยวนหยวน แต่กลับสั่งให้คนใช้นั้น รับนางกลับบ้านตระกูล กู้
เมิ่งจื่อฉีเดินตามคนที่มารับนางอย่างหุ่นยนต์ไร้ ซึ่งจิตวิญญาณเข้าไปบ้านพักเก่าของตระกูลกู้ ห้อง รับแขกมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย คุณปู่ตระกูลกู้ แม่ของฟาง หยวนหยวน และรวมถึงกู้จิ่งเซินที่กอดเอวของฟาง หยวนหยวนไว้อย่างอบอุ่น
พอเห็นเมิ่งจื่อฉีรอยยิ้มที่คุยสนุกสนานของ กู้จิ่งเซินก็เปลี่ยนสีหน้าทันที ทั้งทำหน้าเกลียดชัง นาง: “หยวนหยวนไม่ใส่ใจกับสิ่งชั่วๆที่เธอทำ สงสาร ที่เธอไม่มีพ่อแม่แล้ว ให้เธออาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว ชั้นบอกไว้ก่อนนะ อยู่อย่างสงบเสงี่ยมล่ะ อย่าทำตัวชั่ว เหมือนเมื่อก่อน เข้าใจมั้ย?”
“ค่ะ! ผู้จัดการกู้! “เมิ่งจื่อฉีก้มหน้าตอบรับ แต่ นางไม่ได้อยากเข้ามาอยู่เลยแม้แต่นิด
ดูสารรูปที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณของนาง คุณปู่ก็ถอน หายใจ เรียกคนใช้: “พาคุณหนูฉีไปที่ห้องตัวเอง!
“ชั้นเอง! “ฟางหยวนหยวนยืนขึ้น รีบพุ่งตัวไปดึง แขนเมิ่งจื่อฉี“จื่อฉี ตามชั้นมมา!
มือที่เข้าไปพยุงเมิ่งจื่อฉีนั้นเหมือนงูที่รัดแขนนาง เมิ่งจื่อฉ่รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที อยากสะบัดมือฟางหยวน หยวนออก แต่กู้วิ่งเซ็นจ้องตาไม่กระพริบจนนางไม่กล้า ทำอะไรเลยกระทั่งฟางหยวนลากขึ้นไปถึงบนตึก
ทันทีที่ปิดประตูรอยยิ้มของฟางหยวนหยวนก็หาย
ไปทีนที มองเมิ่งจื่อฉีอย่างริษยา : “เพิ่งจื่อฉี อีกะหรี่ ทำไมไม่ตายๆไปซะ!
เมิ่งจื่อฉีเงียบไม่พูดอะไร ฟางหยวนหยวนจ้องนาง ด้วยสายตาที่โกรธแค้น“ชั้นขอเตือนเธอนะ อยู่อย่าง สงบเสงี่ยมล่ะ อย่าทำตัวอ่อยไปทั่วเหมือนเมื่อก่อน ถ้า ชั้นรู้ว่าเธอทำอีก….
เพิ่งจื่ออีกับหน้า“ชั้นรู้แล้ว พี่วางใจเถอะ จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอน!
เห็นนางว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ ไม่นอบน้อมเลยแม้แต่นิด นางเหมือนกำลังสู้กับสำสีที่ นุ่มนวลไม่สาแก่ใจนางเลย
อีกะหรี่ ตอนนี้ว่านอนสอนง่ายแล้ว จะทําอะไรก็ ไม่ง่ายแล้ว ปล่อยไว้ก่อนช่วงนี้ ค่อยๆจัดการมัน
มื้อเย็นเมิ่งจื่อฉีเป็นคนสุดท้ายที่เข้าร่วมโต๊ะอาหาร นางเลือกที่นั่งที่ห่างจากกู้จิ้งเซิน
ระหว่างทานอาหารได้ยินเสียงฟางหยวนหยวนคุย อย่างสนุกสนานกับกูจิ่งเซิน ดูก็รู้ว่าทั้งสองนั้นรักใคร่กัน มาก ช่วยตักอาหารให้ ตักน้ำซุปให้ ฟางหยวนหยวนยิ้ม อย่างมีความสุข ชนิดที่ว่ามีความสุขล้นพ้นเหลือเกิน
ระหว่างนั้นเมิ่งจื่อฉีก้มหน้า ใส่ข้าวเข้าปากอย่าง เดียว นั่งเงียบๆอย่างไร้ตัวตน
นางไม่คืบกับข้าวกินเลย กินแค่กับข้าวนิด หน่อยกับข้าวสวยที่คนใช้ตักไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว กระทั่งรีบกินจนหมด ค่อยๆลุกอย่างเงียบๆ : ก้มหัว นอบน้อม: “ชั้นกินอิ่มแล้วค่ะ พวกคุณค่อยๆทานนะ คะ!
นางเอ่ยอย่างสุภาพ กู้จิ่งเซินมองนางที่นอบน้อมมี มารยาทแบบนี้คาดว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีละมั้ง แต่คิดอยู่ ดีๆความคิดนี้ก็หายไป
เมิ่งจื่อฉีกลับห้องนอนตัวเองอย่างเงียบๆ ปิดประตู แล้วเดินไปที่หน้าระเบียงมองพระอาทิตย์อย่างเหม่อ ลอย ไม่รู้ว่าเหม่อลอยไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นก็ได้ ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจนใจเต้นจิ้งเซิน…….……… อึ้มมมม……ไอ้เจ้าบ้า!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ