บทที่5 คุกเข่ายอมรับผิด
“เมิ่งจื่อฉี แม่มึงสิฟื้นขึ้นมา! “ไม่รู้ว่าสลบไป นานแค่ไหนแล้ว เสียงสั่นด้วยอารมณ์ที่โกรธได้ทำให้ เพิ่งจื่อฉีนั้นได้ยินจึงค่อยๆฟื้นขึ้น
ร่างกายนั้นเจ็บปวดเหลือเกิน นางพยายามลืมตา ขึ้น แสงสว่างส่องเข้าที่ตาอย่างจัง ตั้งใจมองให้ชัด แท้จริงเสียงที่สั่นโกรธนั้นคือเสียงกู้วิ่งเซินนั่นเอง
เห็นเมิ่งจื่อฉีลืมตาขึ้นมา กู้จิ่งเซิงหัวเราะอ่อน“หยุด ตอแหลได้แล้ว หมอบอกเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ ชั้นมีเรื่องจะคุยกับเธอ!
เมิ่งจื่อฉีมองกู้จิ่งเซินอย่างอ่อนเพลีย เขามองนาง อย่างดูถูกเหยียดหยาม : “เธอนี่มันเป็นนางอสรพิษ ที่ไม่ควรได้รับการอภัยแต่แรก แต่ฟางหยวนหยวนมี จิตใจที่เมตตาสงสาร สงสารที่เธอไม่มีพ่อแม่ ตอนนี้ก็ โดดเดี่ยว นางมั่นใจว่าให้อภัยเธอไม่ส่งเธอกลับเข้าคุก แล้ว!
ประโยคนี้ทำให้แววตาเมิ่งจื่อฉีนั้นเปล่งประกาย นี่ ไม่ต้องกลับเข้าคุกถูกคนทรมานทุบตีแล้วหรอ?
วินาทีต่อมา กู้จิ่งเซินทำเสียง หึ“แม้ว่าหยวนหยวน มั่นจะยกโทษให้เธอไม่เท่ากับสิ่งที่เธอทำผิดไว้นั้นจะได้ รับการอภัย เมิ่งจื่อฉี เธอไปหาหยวนหยวนคุกเข่าแล้ว ขอโทษ แล้วชั้นจะปล่อยเธอไป!
“นไม่ได้ทําร้ายนาง! ชั้นไม่ได้ทําร้ายนาง จริงๆ “ถ้านางทำผิดจริงๆ สมควรแล้วที่จะต้องยอมรับ ผิด แต่นางไม่ได้ทำผิดจริงๆ
“ฟังชั้นให้ดี นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเธอ ถ้า เธอไม่ยอมรับผิด อย่าหาว่าชั้นไม่เตือนนะ!” คำพูดนั้นทำให้เมิ่งจื่อฉีรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น หาก
นางไม่ยอมผิด เขาจะต้องส่งนางกลับเข้าคุกถูกทรมาน
ตีให้ตายยังไงก็จะไม่กลับไปที่นั่น คุกเข่ายอมรับ ผิดก็ยอมรับผิดเถอะ ตอนนี้อ้อนวอนขอให้ตายยังทำไม่ ได้เลย ยังมีอะไรอีกที่นางจะทำได้?
นางหลับตา: “ผู้จัดการกู้ จริงใช่มั้ยถ้าชั้นคุกเข่า ขอโทษ คุณจะปล่อยชั้นไปและไม่ทรมานชั้นอีก?
“ขอแค่เธอทำด้วยความจริงใจ ชั้นจะปล่อยเธอ
ไป!
“ได้! ชั้นยอมรับผิด! ชั้นจะไปสำนึกผิดตอนนี้ เลย” เมิ่งจื่อฉีลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล นางถูกกู้จิ่งเซินถีบ จนเจ็บถึงภายใน แค่ขยับนิดหน่อย ก็รู้สึกเหมือนเข็มนั้น แทงเข้าอย่างจัง กู้วิ่งมองอย่างเย็นชา นางทนกับความ เป็นปวดแล้วพยุงตัวเองลุกจากเตียง เดินไปได้ไม่กี่เก้า ประคองร่างตนเองไม่ไหวล้มลงไปกับพื้น
หัวฟาดกับพื้นกระเบื้องจนไหล กู้วิ่งเซินก็ไม่ได้ พยุงนาง มองด้วยสายตาที่น่ารังเกียจ: “เมิ่งจื่อฉี แม่ มึงหรออย่าทําเป็นสําออย หมอบอกเธอไม่ได้เป็นอะไร ทำเป็นน่าสงสารแล้วชั้นจะไม่ให้ไปคุกเข่าขอโทษ หรอ? ”
เมิ่งจื่อฉีรู้สึกเจ็บหน้าผากอย่างแรง แต่บาดแผล เหล่านี้เจ็บสู้แผลในใจไม่ได้หรอก นางรู้ชัดแล้วว่ากู้วิ่ง เซินคิดยังไงกับนางกันแน่
เทียบกับหมาไม่ติด!
นางเห็นหมาของฟางหยวนหยวนไม่บาดเจ็บ กู้จิ่ง เซินยังพาหมาไปหาหมอ ตอนนี้นางมีแผลทั่วร่างกาย เขาแทบไม่มีเยื่อใยจะช่วยแม้แต่นิด
ความรักที่แบ่งชัดขนาดนี้ทำให้เพิ่งจื่อฉีช้ำใจ เสมือนมีดกรีดที่หัวใจ นางพยายามลุกขึ้นมา แต่เพราะ แผลเต็มร่างกายนางไม่มีแรงประคองร่างขึ้นมา
กู้จิ่งเซินยืนกอดอกมองนางในห้องคนไข้ สายตา นั้นทำให้เพิ่งจื่อฉีกลัวจนขนลุกซู่
นางกลัวว่าหากนางไม่ไปคุกเข่าขอโทษกลัวกู้ จิ่งเซินจะเปลี่ยนใจ ทันใดนั้นกลับเปลี่ยนความคิดไม่ พยายามลุกขึ้นแล้ว ก็คลานออกไปแบบนี้แหละ คลาน ออกไปพร้อมกับคราบเลือด ก้จิ่งเซินขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปความน่ารังเกียจแล้วเดินออกไป
จากนั้นไม่นานมีหมอและพยาบาลมาช่วยทำแผล ให้นาง พยุงตัวนางขึ้นบนเตียงก่อนออกไปบอกนาง ว่า: “ผู้จัดการกู้ฝากบอกว่า ตอนนี้ร่างกายเธออ่อน แรงมาก งั้นวันอื่นค่อยไปขอโทษ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ