ตอนที่ 8 งานเลี้ยงของโรงเรียน
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันขี้ร้อน ฉันให้ความอบอุ่นเธอได้ นะ!”
“ไม่เอ๊า”
ขณะที่ทั้งสองถกเถียงกันอยู่บนเตียง โทรศัพท์ที่ วางบนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นขึ้น เป้ยฉ่ายเวยกำลังจะเอื้อม มือไปหยิบ แต่หนานฉิงชิงตัดหน้าหยิบได้ก่อน “เอ๊ะ ทำไมเป็นเบอร์แปลกๆล่ะ?”
“คงจะเป็นพวกหลอกลวงละมั้ง” เป้ยฉ่ายเวยรีบแย่ง โทรศัพท์มาจากมือของหนานฉิง โชคดีของเธอที่ไม่ได้ บันทึกเบอร์ของฉเจ๋อหยางไว้ในเครื่อง แต่จดจำไว้ใน หัวใจแทน “ช่างมันเถอะ ตัดสายทิ้งไปดีกว่า”
“น่าเบื่อจริง!” หนานฉิงพึมพำ แล้วออกไปเป่าผมที่ ห้องนอน
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ ให้หนานฉิงแตะต้องโทรศัพท์เธออีก เธอเอาเบอร์โทร ของฉูเจ๋อหยางซ่อนไว้ในบัญชีดำ รวมทั้งลบ we chat ออกไปด้วย
เธอตั้งปณิธานไว้แล้วว่า จะไม่ขอเจอหน้าฉูเจ๋อหยาง อีก ไม่เอาอีกแล้ว
เดิมทีหนานฉิงคิดว่าจะพักอยู่ที่โรงแรมอีกสัก 2-3วันไปเที่ยวกับเป้ยฉ่ายเวยอีกสักหน่อย แต่คุณพ่อที่เคารพ โทรมาตามเธอให้กลับบ้าน เธอได้แต่บอกกับเป้ยฉ่า ยเวยว่า ขอกลับไปก่อนแล้วค่อยเจอกันอีกทีที่งานเลี้ยง ของโรงเรียน
เมื่อหนานฉิงไปแล้ว ในใจของเป้ยฉ่ายเวยรู้สึกผ่อน คลายขึ้นมาก
เธอกลัว และรู้สึกกลัวมาตลอด กลัวว่าหนานฉิงจะ จับพิรุธเธอได้
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้นูเจ๋อหยางมาหาเธอที่ร้าน เป้ยฉ่ายเวยจึงขอลาพักร้อน 2-3 วัน เธอไม่ออกไปไหน ทั้งนั้น อยู่แต่ในห้องพักดูละครทีวีทั้งวัน เป็นภาพยนตร์ ฮ่องกงเรื่องเหล่าเทพเจ้าในสรวงสวรรค์ เธอดูไปก็ ร้องไห้ไป
เช้าวันงาน ขณะที่เป้ยฉ่ายเวยมองกระเป๋าเดินทาง ด้วยความลังเล หนานฉิงก็โทรมา “เวยเวย เธอจะมา ไหมนี่ ฉันถึงที่โรงเรียนแล้วนะ”
เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้จะทำยังไงดี ได้แต่ยิ้ม “ฉันเพิ่งตื่น เอง เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย รอแป๊บนึง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ แหละ”
“เร็วๆหน่อยสิ เพื่อนๆมากันเยอะแล้วนะ”
“โอเค”
ไม่อยากไปก็ต้องไปสินะ งานนี้
งานเลี้ยงของโรงเรียนคงจะใส่ชุดมิดชิดมากไม่ได้ สินะ เป้ยฉ่ายเวยหยิบชุดที่ไม่ค่อยอยากใส่ออกมา แต่ง ตัวเสร็จแล้วจึงออกจากบ้าน เป็นเวลา 10 โมงเศษ รีบ ขับรถตรงไปที่โรงเรียนทันที
“เวยเวย!”
เป้ยฉ่ายเวยเพิ่งมาถึงบริเวณสนามของโรงเรียนที่ อัดแน่นไปด้วยผู้คน หนานฉิงในชุดกระโปรงที่มองหา เธออยู่รีบวิ่งเข้ามา พูดเสียงดังว่า “เธอมาช้าจังเลย นี่ มันเกือบจะเที่ยงแล้วนะ”
เป้ยฉ่ายเวยยิ้มเป็นการขอโทษ “ขอโทษนะจ้ะ เมื่อ คืนฉันติดละครจนนอนดึกมากเลย”
หนานฉิงถอนหายใจ เธอรีบพาเป้ยฉ่ายเวยไปนั่ง แถวๆกลุ่มของตัวเอง
ที่โต๊ะมีเพื่อนสมัยเรียนที่มาก่อนนั่งอยู่แล้ว 2-3 คน เมื่อเห็นเป้ยฉ่ายเวยจึงยิ้มทักทายเธอ เป้ยฉ่ายเวย ตอบรับอย่างมีมารยาท จากนั้นหนานฉิงก็ลากเธอไปอีก มุมหนึ่ง เพื่อเล่าแผนการณ์ของเธอในวันนี้
เมื่อรู้ว่าหนานฉิงจะขึ้นไปบนเวทีพูดความจริงในใจ เป้ยฉ่ายเวยถึงกับตะลึง “เอาจริงหรือ เธอบ้าหรือเปล่า เนี่ย?”
“แล้วมันผิดตรงไหนหรือ?” หนานฉิงมองหน้าเป้ยฉ่า ยเวย “ไม่เป็นไรหรอก ฉันบอกกับครูใหญ่เอาไว้แล้ว เขายังสนับสนุนฉันด้วยนะ รอให้นูเจ๋อหยางพยักหน้า ตอบรับก่อน ฉันค่อยหยิบแหวนออกมา อิอิ!”
เป้ยฉ่ายเวยขยับปากกำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงเพื่อน รอบข้างตะโกนขึ้นมาว่า นักเรียนทุนสาขาวิชากฎหมาย มาแล้ว
เธอจึงเงยหน้าขึ้น เห็นงูเจ๋อหยางที่สวมสูทสีดำเดิน ฝ่าฝูงชนเข้ามาทางนี้ เขาดูโดดเด่นเป็นสง่า เป็นที่สะดุด ตาของทุกคน เขาคงจะใส่ใจสายตาของเป้ยฉ่ายเวย เจ๋อหยางเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาช่างลึกซึ้ง
เป้ยฉ่ายเวยหัวใจแทบจะหยุดเต้นเพียงเพราะ สายตาที่เขามองมา รีบหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบแก้เขิน หนานฉิงที่อยู่ข้างๆพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เวยเวย เธอ ดูสิ ดูเร็ว เมื่อกี้อาเจ๋อมองมาที่ฉันด้วยล่ะ!”
“อืมๆ ก็ดีแล้วนี่” เป้ยฉ่ายเวยฝืนตอบออกไป
หนานฉิงอดใจไว้ไม่ไหว ชิงเอ่ยปากทักนูเจ๋อหยาง ก่อน ฉู่เจ๋อหยางตอบรับดื่มเพียงคำเดียว แล้วเดินเลย เธอไปนั่งยังโต๊ะที่อยู่ด้านหลัง ปล่อยให้สายตาของ หนานฉิงลอยคว้างอยู่อย่างนั้น
สายตาของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังทำให้เป้ยฉ่ายเวย ต้องนั่งตัวแข็งทื่อ ในใจคิดว่าที่จริงโรงเรียนไม่น่าจัด ที่นั่งของนักเรียนสาขาวิชากฎหมายไว้ด้านหลังสาขาของพวกเธอ สาขาวิชากฎหมายเป็นหน้าเป็นตาของ โรงเรียน ควรจะนั่งโต๊ะด้านหน้าไม่ใช่หรือ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ