บทที่ 2 ความผิดพลาดที่น่าอับอาย
บทที่ 2 ความผิดพลาดที่น่าอับอาย
ในที่สุดเธอก็มีโอกาสถอดหายใจ ลิ้นอุ่นของชายหนุ่ม ขยับไปที่ใบหูที่ใบต่อความรู้สึกของเธอ ริมฝีปากขยับพูด เสียงต่ำ ” รัก หวานจริงๆ”
“ไม่เอา ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย”
ร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้ารุนแรงทำให้เสิ่นเสี่ยวซี ตกใจกลัว ตอนนั้นเองเธอถูกกดลงบนเตียงขนาดใหญ่ ที่อ่อนนุ่ม หน้าอกที่แข็งขืนนั้นประกบติดอยู่กับตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก เขาจูบปากเล็กของ เธออีกครั้ง มือใหญ่ของเขาฉีกเสื้อผ้าของเธออย่างบ้า คลั่ง พร้อมความรู้สึกหน่วงๆ
เธอออกแรงเพื่อขัดขืนโดยใช้มือและเท้า ทั้งผลัก ตี ถีบ แต่ก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
ตอนนี้เองที่เธอรู้ว่า แรงผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันมาก
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มที่ราวกับกับมีพลังวิเศษซึ่ง ทำให้เธอสั่นสะท้าน เสิ่นเสี่ยวซีบิดร่างกายของเธอด้วย ความกลัวและพยายามหลบเลี่ยงจากการทรมานของเขา แต่ความเป็นชายในร่างกายของเขาก็ยิ่งร้อนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เสี่ยว ไม่เคยมีโอกาสที่จะหนี ร่างกายได้รับความเจ็บ ปวดที่ถูกส่งผ่านมา เสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิงที่ติดอยู่ ในสําคอของเธอ เธอกัดฟันและทนการปลุกปล้ำอย่างน่า สงสาร น้ำตาใสราวกับคริสตัลไหลออกจากดวงตาของ เธอ เปียกไปถึงเส้นผมทั้งสองด้าน
ดวงตาสองข้างพร่ามัวไปด้วยน้ำตาจากความจริงที่ว่า เธอโดนข่มขืนจนเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย
ในห้องมืดมิดบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ เด็กผู้หญิงนอนอยู่ บนผ้าปูที่นอนสีขาวยุ่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความ ท้อแท้สิ้นหวัง เธอลืมตาและมองไปที่ชายหนุ่มที่นอนอยู่ บนตัวเธอ เพื่อต้องการที่จะมองดูว่าเขาเป็นใคร แต่ว่าไอ หมอกที่ปกคลุมและความมืดทําให้เธอไม่สามารถมอง เห็นเขาได้อย่างชัดเจน
ริมฝีปากเรียวงามของชายคนนั้นเม้มแน่นด้วยกลิ่นไอ ของความเย็นยะเยือก
ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นที่สะดูดตาราวกับกระแสน้ำวนลึก ไร้ซึ่งประกายแวววับเพราะความพร่ามัว เขาไม่สนใจที่ จะมองดูรูปร่างของผู้หญิงที่อยู่เบื้องล่างด้วยซ้ำ แขนของ เขาอยู่ตรงกลางระหว่างเธอ ขาสองข้างของเธอกางออก กว้าง ส่วนล่างของร่างกายกำลังรุกล้ำเขตแดนของความเป็นหญิง
ชายหนุ่มเรียกร้องอย่างดุเดือดโดยปราศจากความ เมตตา เขาเมาจนไม่รู้เลยสักนิดว่านี่เป็นครั้งแรกของผู้ หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ภายใต้ร่างของเขา
อุณหภูมิในห้องค่อยๆเปลี่ยนเป็นลดลง ร่างกายของเสิ่น เสี่ยว ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเสียงครางก็เริ่มเปล่งออก มาจากริมฝีปากของเธอ
ดูเหมือนว่าเขาจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ เขา โน้มตัวลง ใบหน้าเรียวหล่อเหลาของเขา ดวงตาสีเข้ม ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาเปล่งเสียงออกมา “สบาย ไหม ฮ่ะ”
เสิ่นเสี่ยว หลับตา ปล่อยน้ำตาไหลริน ส่ายหัวอย่างเอา เป็นเอาตาย เธอแค่อยากให้มันจบลงเร็วๆ
แต่ว่าร่างกายของชายหนุ่มกับไม่เป็นเช่นนั้น เขายิ่ง ต้องการมากขึ้นเร็วขึ้น
เสี่ยวซีไม่รู้เลยว่าฝันร้ายจบลงเมื่อไหร่ เธอจำได้แค่ตัว เองที่พยายามหนีออกมาจากห้องอย่างที่ไม่กล้าแม้แต่จะ มองดูอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ที่สุดแล้วเสิ่นเสี่ยวซีก็ไม่อยากจะยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความจริง
เธอคิดว่าจะไปแจ้งความ
แต่ถ้าเธอแจ้งความแล้วตระกูลเสิ่นจะเอาหน้าไว้ที่ไหน เกิดมาเป็นลูกนายอำเภอไม่รู้ว่าจะแบกหน้าไว้อย่างไร เสิ่นเสี่ยวซีไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องฉาวโฉ่ แบบนี้ ดังนั้นเธอจึงทําได้แค่เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว
เสี่ยวซีเป็นผู้หญิงหัวโบราณ เธอคิดว่าครั้งแรกก็ควรที่จะ เก็บไว้ให้กับสามี
เธอไม่กล้าบอกใครเรื่องนี้ คิดกระทั่งว่าชาตินี้คงไม่มี โอกาสได้แต่งงานออกเรือนไปแน่
ในตอนที่เธอกำลังสิ้นหวังอยู่นั้น กู้หมิงจวิ้นก็ปรากฏตัว ขึ้น ตอนที่กำลังดูตัวอยู่นั้น เขาก็พูดต่อหน้าทุกคนว่า “คน นี้แหละที่เขาจะแต่งงานด้วย”
เขาพูดขึ้นกลางวงข้าวว่าเลือกที่จะแต่งงานกับเธอ
แม่ของกู้หมิงจวิ้นและเสิ่นเสี่ยวซีเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ก็เลยมีนัดแนะกันจะการดูตัวครั้งนี้ขึ้น เสิ่นเสี่ยวไม่ได้ คาดหวังอะไร แถมอีกฝ่ายยังมาสายด้วย แต่ว่า
เมื่อกู้หมิงจนปรากฏตรงหน้าเธอ เสี่ยวซีคิดว่าเหมือน
ไฟที่มอดดับในตัวถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
เขามองเธอแล้วยื่นมือเรียวยาวสะอาดสะอาด หน้าตา สุขุม น้ำสียงนุ่มทุ่ม “ฉันคือกู้หมิงจวิ้น”
วินาทีนั้นเธอถูกสะกด
เสี่ยวซีจ้องมองใบหน้างามของอีกฝ่ายอย่างควบคุมตัว เองไม่ได้ เขาคือคนที่เธอแอบชอบ
บางทีพูดไปคงไม่มีใครเชื่อ
เธอแอบรักเขามาตั้งสามปีแล้ว
สามปีก่อน เธอช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่ริมทะเล ตัวเขา เต็มไปด้วยเลือด หมดสติ เธอดูแลเขาอยู่ที่โรงแรมทั้งคืน
แต่สุดท้ายแต่ต้องกลับมาสอบปลายภาค ก่อนที่เธอจะ จากไปได้ทิ้งที่อยู่เอาไว้แต่เขาก็ไม่เคยติดต่อกลับมา
เธอไม่รู้ชื่อเขา ได้แต่รอมาโดยตลอด รอให้เขาปรากฏตัว
คงเพราะโชคชะตากำหนดให้เขามาปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอแบบตอนนี้
แต่คิดไปคิดมา เธอคงไม่มีหน้าที่จะไปเป็นภรรยาของ เขา
ตอนที่เธอกำลังนึกอยู่นั้น ก็ได้เสียงอันน่าฟังของเขาพูด ขึ้นว่า “เธอนี่แหละ ฉันต้องการเธอ
เอี๊ยดอ๊าด
เสียงเปิดประตูทําให้เธอได้สติ
เธอรีบลบข้อความแล้วก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัว กู้หมิงจ วิ้นพันผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แล้วนั่งลงข้างเตียงอย่าเบื่อหน่าย
“หมิงจวิ้น เราคุยกันหน่อยได้ไหม”
เธอมองเขาที่มีแต่ความเย็นชา แล้วรวบรวมความกล้า เพื่อบอกเขา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ