ตรวนสวาทเมียแสนชัง ชุด วิวาห์....

ตอนที่ 4



ตอนที่ 4

เสียงประตูถูกเขย่าแรงๆ พร้อมกับเสียงเรียกจิกหัวดัง สนั่นขึ้น และนั่นก็ทำให้นวลลออที่กำลังนั่งแปรงผมอยู่ หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งต้องเอี้ยวตัวไปมอง

“มีอะไรคะพี่ทิพย์

“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้”

นวลลออถอนหายใจเบาๆ ลางสังหรณ์ร้องเตือนว่าน่าจะ เกิดเรื่องขึ้นในไม่ช้านี้

หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวกลม เดินตรงไปปลดล็อก ประตูห้อง และเปิดมันออก พี่สาวของหล่อนยืนหน้าตาบิด เบี้ยวด้วยโทสะอยู่ตรงหน้าห้อง

“พี่ทิพย์มีอะไรกับนวลเหรอคะ”

“มีสิ…นี่แน่ะ”

ใบหน้าของนวลลออถูกฝ่ามือของทิพย์เกสรฟาดเข้าใส่ เต็มแรงจนสะบัด

“พี่ทิพย์ตบนวลทำไมคะ”
นวลลออน้ำตาซึม ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พี่สาวถึงได้มา ทำร้ายร่างกายของตัวเอง หล่อนยกมือขึ้นลูบแก้มข้างที่ ถูกตบเอาไว้ด้วยความเจ็บระบม

“นวลทำอะไรผิดเหรอคะ”

“ทิพย์…ท่าน้องทำไม

วันนาที่เดินตามมารีบเข้ามาประคองร่างของนวลลออ เอาไว้ มองอย่างสงสาร ก่อนจะตวัดตามองลูกสาวคนโต อย่างไม่พอใจ

“แม่เคยสั่งสอนให้ทำร้ายกันแบบนี้หรือไง”

“ก็นั่งนวลมันบังอาจสวมชุดเจ้าสาวของทิพย์นี่คะ”

นวลลออหน้าตาซีดเผือด รู้ทันทีเลยว่าโดมินิกคงเล่า เรื่องทุกอย่างให้คนรักฟัง หล่อนเจ็บหัวใจเหลือเกิน

“ก็ทางร้านเขาแค่อยากให้ดูว่าที่แก้ไขสมบูรณ์หรือเปล่า ก็เท่านั้นเองนะพี่ทิพย์”

“แกอย่ามาแก้ตัว ฉันรู้ว่าคนอย่างแกขอเขาใส่เอง แกคง ต้องการจะยั่วคุณมิกใช่ไหม นังน้องสารเลว!”
คนถูกกล่าวหาส่ายหน้าดิก น้ำตาไหลอาบแก้ม “นวลไม่ เคยคิดแบบนั้นนะคะพี่ทิพย์ นวล…ไม่บังอาจ…

“อย่ามาตอแหล ฉันเห็นสายตาของแกยามที่มองคนรัก ของฉัน แกจ้องจะงาบเขาตลอดเวลา” ทิพย์เกสรตวาดลั่น ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา “แต่โชคร้ายหน่อยนะที่คุณ มิกไม่เคยมองผู้หญิงไร้ราคาแบบแกเลยแม้แต่หางตา”

นวลลออซ่อนความชอกช้าเอาไว้ในอก หล่อนเม้มปาก เป็นเส้นตรง มองพี่สาวด้วยความรักและหวังดีจากใจ แท้จริง

“พี่ทิพย์จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่นวลไม่เคยคิดจะหักหลัง หรือแย่งอะไรของพี่ทิพย์มาเป็นของตัวเองเลย”

“คิดได้อย่างนั้นก็ดีแล้ว เพราะฉันก็จะไม่มีวันยอมให้แก

แย่งอะไรไปจากฉันได้ แม้แต่ชิ้นเดียว”

“แม่ทิพย์พอเสียทีเถอะ ไม่สงสารน้องมันบ้างหรือไง”

“แม่ก็ดีแต่เข้าข้างมันนั่นแหละ คอยดูเถอะ ถ้าวันไหนมัน แย่งของของทิพย์ มันจะต้องตาย

“แม่ทิพย์”
ทิพย์เกสรไม่สนใจ เสียงไม่พอใจของมารดา หล่อน สะบัดหน้าและเด็นกระแทกเท้าหายเข้าไปในห้องนอน ของตัวเองทันที

วันนาส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะ หันมาถามไถ่ลูกสาวคนเล็กอย่างเป็นห่วง

“เป็นยังไงบ้างนวล”

“นวล…ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่” นวลลออฝืนยิ้มให้มารดา ขณะถอยหลังกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง วันนา ก้าวตามเข้าไป พร้อมกับดึงประตูให้ปิดสนิทลง

“แม่ผิดเองที่ห้ามปรามอะไรพี่สาวของนวลไม่ได้เลย เมื่อ ก่อนว่านิสัยแย่แล้ว พอมาเป็นนางแบบดังก็ยิ่งร้ายกาจจน น่ากลัว แม่ว่าให้พี่เค้าแต่งงานออกไปน่ะดีแล้ว นวลจะได้ มีความสุขเสียที”

นวลลออ ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ หล่อนจึงฝืนยิ้มออก มาอีก

“นวลไม่เป็นไรจริงๆ จ้ะแม่”

วันนามองลูกสาวคนเล็กด้วยความสงสาร นี่หล่อนจะ จัดการยังไงดีกับนิสัยแย่ๆ ของทิพย์เกสร
“เดี๋ยวแม่ออกไปเอาน้ำแข็งมาให้ประคบนะนวล”

“นวลไม่เป็นอะไรมากหรอกจ้ะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงหาย แดงแล้วล่ะจ้ะ” หญิงสาวฝืนยิ้ม และยกมือขึ้นลูบแก้มข้าง ที่ยังเจ็บระบมอยู่ของตัวเองไปมา ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา อะไร

“ไม่เป็นไรได้ยังไงกันล่ะนวล เดี๋ยวพรุ่งนี้บวมเป่งจะทำ ยังไง รอแม่แป๊บนะ”

นวลลออเกรงใจมารดา กำลังจะเรียกเอาไว้ แต่ท่านเดิน หายออกไปจากห้องเสียแล้ว

ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มปั้นแต่งค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็น เศร้าหมอง หยาดน้ำตาค่อยๆ รินออกมาตามร่องแก้ม

“นวลไม่เคยคิดจะแย่งของของพี่ทิพย์เลย…เมื่อไหร่ที่ ทิพย์จะเข้าใจสักทีนะ”

โดมินิกส่งกระเป๋าโน้ตบุ๊กให้สาวใช้หน้าตาสะสวยที่มา ยืนรอรับอยู่ข้างตัวรถ และก็อดที่จะเอ่ยทักทายตาม มารยาทไม่ได้

“สวัสดีตอนเย็นลัลดา สวยขึ้นนะเราน่ะ”
คนถูกชมระบายยิ้มขัดเขิน แก้มนวลแดงระเรื่อราวกับ ผลของลูกตำลึงตอนสุกงอม ดวงตาของหญิงสาวทอ ประกายสดใส ก่อนที่กลีบปากอิ่มสีเชอร์รีแดงฉ่ำจะคลี่ กว้างออกน้อยๆ

“ขอบคุณค่ะคุณมิก”

หนุ่มหล่อทายาทลำดับที่สามของมาเลซาสโซอมยิ้ม น้อยๆ ยกมือขึ้นลูบศีรษะของสาวใช้คนสวยอย่างเอ็นดู เขาเห็นลัลดามาตั้งแต่เด็ก กี่ปีแล้วนะที่ลัลดามาอยู่ใน บ้านของเขาในฐานะหญิงรับใช้ สิบห้าปี…อาจจะไม่ใช่ น่า จะสิบหกสิบเจ็ดปี หรือมากกว่านั้น

“ปีนี้เธออายุเท่าไหร่แล้วนะลัลดา”

“เอ่อ ย่างสิบเก้าแล้วค่ะคุณมิก”

ชายหนุ่มหัวเราะออกมา “ฉันก็คิดมาตลอดเลยว่าเธอ เพิ่งสิบห้าสิบหก ที่ไหนได้จวนจะยี่สิบแล้ว เป็นสาวเต็มตัว แล้วนี่เราน่ะ”

ลัลดาระบายยิ้มขัดเขิน แม้หล่อนจะไม่ได้ชื่นชอบในตัว ของโดมินิกแบบชู้สาว แต่การยืนคุยกับผู้ชายที่หน้าตา หล่อเหลายิ่งกว่าเทพบุตร มันก็อดทำให้หวั่นไหวไม่ได้
“อีกปีหนึ่งแน่ะค่ะกว่าจะครบยี่สิบ ตอนนี้ย่างสิบเก้าค่ะ”

“นั่นแหละ อีกปีเดี่ยวเอง…ว่าแต่ตอนนี้มีแฟนหรือยังล่ะ”

โดมินิกถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะต้องการชวนคุย เฉยๆ แต่นั่นกลับทำให้คนถูกถามหน้าตาแดงก่ำยิ่งกว่า เดิม จนคนถามต้องหรี่ตาแคบมองอย่างสงสัย

“หน้าตาแดงก่ำแบบนี้ แสดงว่ามีคนรักแล้วสินะ ใช่ไหม”

“เอ่อ…ไม่…ไม่ใช่หรอกค่ะ”

“ฉันไม่เชื่อหรอก” โดมินิกหัวเราะร่วน ขณะก้าวเท้าเดิน ออกจากรถมุ่งหน้าไปยังตัวตึกใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปจาก โรงเก็บรถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“จริงๆ นะคะคุณมิก ลัล…ไม่มีแฟนจริงๆ ค่ะ”

“ฉันไม่เชื่อ…”

สองหนุ่มสาวหัวเราะร่วน โต้เถียงกันอย่างสนุกสนาน และนั่นก็ทำให้ใครบางคนไม่พอใจ
“ใครอนุญาตให้เธอมาเดินต่อล้อต่อเถียงกับเจ้านาย แบบนี้ ลัลดา”

เสียงกระด้าง ดุดัน และเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ดัง ขึ้นด้านหลัง ทําให้ลัลดาชะงักเท้า ตัวสั่นเทา และไม่กล้า แม้แต่จะหมุนตัวหันกลับไปมอง เป็นโดมินิกเองที่เป็นฝ่าย หันไปมอง

“สวัสดีครับพี่ไมค์”

เมสัน มาเลซาสโซ คุณชายที่สองของคฤหาสน์หลังนี้ เขาเป็นนายแพทย์ผู้หล่อเหลา และควบตำแหน่งเจ้าของ โรงพยาบาลเอกชนที่มีสาขามากมายในเมืองไทยเอาไว้ ด้วยในเวลาเดียวกัน

“สวัสดีมิก เพิ่งกลับมาหรือ”

“สักพักแล้วครับพี่ไมค์ นี่ก็กำลังจะเข้าบ้านพอดี

“ก็ถ้าไม่มัวแต่ยืนหยอดคนใช้ นายก็คงขึ้นไปนอนแช่น้ำ อุ่นในอ่างแล้วล่ะมั้ง”

แม้จะยืนหันหลังและก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตัวเอง แต่กระนั้นลัลดาก็รู้ดีว่าตัวเองกำลังถูกเหน็บแนม หล่อน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเมสันถึงได้จงเกลียดจงชังหล่อนนัก หล่อนทำอะไรผิดกันแน่ เขาถึงได้หาเรื่องเสมอเวลาที่เจอหน้า

“พี่ไมค์ พูดเข้า…” โดมินิกหัวเราะเบาๆ

“หรือว่าไม่จริงล่ะ”

น้ำเสียงดุดันของพี่ชายคนรองทำให้โดมินิกแปลกใจ แต่ เขาก็เลือกที่จะไม่ถามออกไป เปลี่ยนเป็นชวนเข้าบ้าน แทน

“งั้นเราเข้าบ้านกันเถอะครับ”

“นายไปก่อนเถอะ พี่ยังไม่เข้าหรอก”

คนเป็นน้องชายไหวไหล่กว้างน้อยๆ “งั้นผมขอตัวก่อน นะครับ ไว้เจอกันที่โต๊ะอาหาร”

“อืม”

โดมินิกน้องชายเดินจากไปแล้ว และลัลดาก็กำลังจะก้าว เดินตัวลีบจากไปด้วยเช่นกัน แต่เสียงกระด้างดังขัดขึ้น เสียก่อน

“เธอยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ลัลดา”
หล่อนชะงักเท้า ตัวสั่นเทา กลีบปากสั่นระริก ยิ่งได้ยิน เสียงฝีเท้าของเมสันขยับเข้ามาใกล้ หล่อนก็ยิ่งตื่นกลัว

“คุณ…ไมค์จะให้…ลัลทำอะไรเหรอคะ”

“นี่เธอกล้าดียังไงยืนหันหลังคุยกับเจ้านายอย่างฉัน”

คนถูกตำหนิตกใจ รีบหมุนตัวกลับมา แต่เพราะเขามา ยืนใกล้ชิดเกินไป ทำให้พอหันกลับมาร่างก็ชนกับเขาเข้า พอดี หล่อนตกใจ รีบถอยหลังออกห่างทันควัน

“เอ่อ…ขอโทษค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ