บทที่ 1.จบตอน
เมื่อเท้าเรียวเหยียบย่างเข้ามาในห้องรับประทานอาหารอัน โอ่โถง ใจดวงน้อยก็เต้นระรัวเมื่อเห็นสายตาวาววับของคนตัวโต ที่มองมายังตนนั้นเหมือนว่าโกรธกันมาสักร้อยชาติพันชาติ
“อ้าวหนูบูมมานั่งข้างๆ บ้านเร็ววันนี้ไม่สบายรึเปล่าลูกทำไม ขึ้นมาช้าล่ะ” คุณป้าเกียร่าถามด้วยน้ำเสียงอาจรพลางลูบหลัง ลูบไหล่สาวน้อยตัวบางที่นั่งลงข้างๆ ด้วยความอ่อนน้อม บุษกร ยิ้มบางๆ ให้นางแล้วอ้อมแอ้มตอบ
“น้องบูมเผลอหลับไปน่ะค่ะคุณป้า น้องบูมขอโทษนะคะที่ให้ รอ” “ผมว่าต่อไปนี้เราก็ทานเฉพาะพวกเราก็พอมั้งครับคุณแม่ คน
ที่ไม่มีความรับผิดชอบไม่ตรงเวลาปล่อยให้ผู้ใหญ่รอแบบนี้ไม่
ควรจะมาร่วมโต๊ะกับเรานะครับ”
“วี ทำไมพูดแบบนี้กับน้องล่ะ เรานี่ใช้ไม่ได้เลยนะ” คุณ บดินทร์ดุลูกชายคนเก่งอย่างไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นหน้านวลซีดลง ทันตาของหลานสาวผู้น่าสงสารแล้วคุณบดินทร์ยิ่งอยากจะตบ กบาลลูกชายนัก
“คุณพ่อคุณแม่ก็เอาใจเธอเกินไป จนจะเสียคน” นาวีหน้าตึง เมื่อถูกบิดาตำหนิตรงๆ
“เอาล่ะๆ ทานข้าวกันได้แล้ว น้องบูมจ๊ะนี่ต้มข่าไก่ใส่เห็ดนางฟ้าเยอะๆ ของโปรดหนูจะป้าพริ้งที่ทำสุดฝีมือเพื่อน้องบูมเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
บุษกรยิ้มน่ารักให้ผู้สูงวัยเมื่อคุณป้าเคียร่าตักกับข้าวที่เธอ โปรดปรานใส่จานให้อย่างเอาใจ สาวน้อยก้มหน้ารับประทาน อาหารของตนไปอย่างกล้ำกลืน รู้สึกได้ถึงรังสีอัมหิตจากคนที่นั่ง ตรงข้าม น้ำร้อนๆ เอ่อคลอดวงตาด้วยความน้อยใจ เธอ พยายามฝืนมันไว้ไม่ให้มันไหลออกมาประจานความอ่อนแอของ ตนไม่เช่นนั้นเธอก็คงถูกนาวต่อว่าต่างๆ นานาอีกแน่นอน
แล้วมื้ออาหารเย็นที่แสนจะยาวนานและอึดอัดมากที่สุดกว่า ทุกๆ ครั้งอย่างที่เธอรู้สึกได้ก็สิ้นสุดลง คุณป้าเคียร่าชวนเธอ เข้าไปรับประทานของหวานที่ห้องนั่งเล่นเพื่อจะได้อ่านหนังสือ และดูทีวีกันสองป้าหลานอีกทั้งยังไม่ชอบใจที่นาวีเอาแต่ทำ หน้าตาดใส่หลานสาวที่รักนางจึงพาบุษกรหลบคนพาลมาเสีย
“หนูบูมเหลืออีกเทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้วใช่มั้ยจ๊ะ
“ค่ะคุณป้า”
“แล้วคิดไว้รึยังว่าจะไปฝึกงานที่ไหน
“ก็ว่าจะไปฝึกงานกับเพื่อนๆ ที่ต่างจังหวัด ญาติของเพื่อนบูม เขามีโรงแรมแล้วก็รีสอร์ตและบริษัทขนส่งอยู่โคราช บูมว่าจะไป ฝึกงานที่นั่นค่ะ”
บุษกรตอบยิ้มๆ ขณะบีบนวดแข้งขาให้ผู้สูงวัยอย่างเอาใจรัก ใคร่ซึ่งตอนเด็กๆ เธอมักทำเช่นนี้ให้กับคุณป้าเคียร่าเสมอๆ แม้ตอนนี้เธอก็ยังอยากจะทำเช่นนั้นและคุณป้าเองก็ชอบด้วย
“จะลําบากไปไหนไกลๆ ทำไมล่ะจ๊ะ ป้าเป็นห่วง ฝึกงานกับพี เขาไม่ดีกว่าเหรอลูก”
“เอ่อ.. คือว่าบูม…”
“ไม่ต้องกลัวว่าพี่เขาจะว่าหรือดหรอกลูก ป้าได้ยินคุณลุงบ่นๆ ว่าเลขาของคุณลุงเพิ่งลาออก ตอนนี้ก็มีตำแหน่งว่างอยู่ทั้งหลาย ตำแหน่งในบริษัทเรา อีกอย่างคุณลุงเองก็งานเยอะ หากหนูบูม ไปช่วยแบ่งเบาก็ดีนะลูก อีกหน่อยคุณลุงก็ต้องวางมือแล้ว ป้า ก็ได้แต่หวังว่าหนูบูมกับพี่จะช่วยกันสานงานต่อจากคุณลุง
ป้าเคียร่าพูดเรียบๆ แต่สีหน้าค่อนข้างยุ่งยากใจ อาจจะเป็น เพราะนางเห็นว่าช่วงนี้คุณบดินทร์นั้นดูเครียดๆ เพราะงานเยอะ เนื่องจากมีอะไรหลายๆ อย่างที่จะต้องทำก่อนจะวางมือและให้ นาวีรับช่วงต่อไปทั้งหมด เนื่องจากท่านเองก็อายุมากแล้วตอนนี้ ท่านก็เพียงแต่เข้าไปดูแลความเรียบร้อยและคอยแนะนำสอน งานการบริการทุกอย่างให้กับบุตรชาย เพราะถึงแม้นาวจะเป็น นักบริหารหนุ่มไฟแรงและมีประสบการณ์พอสมควร แต่คุณ บดินทร์ก็ต้องการให้นาวีนั้นเป็นนักบริหารที่สมบูรณ์แบบและ แข็งแกร่งในเชิงธุรกิจรอบด้านอีกทั้งช่วงนี้มีพนักงานหลาย ตำาแหน่งกำลังขาดคนทำงานเพราะการขยายสาขางานออกไป ในพื้นต่างจังหวัดและประเทศในแถบอาเซียน
“ขอบูมคิดดูก่อนนะคะ เพราะรับปากเพื่อนไปแล้วค่ะ” สาวน้อยบอกเสียงแผ่ว ความจริงแล้วบุษกรไม่ได้รับปากอะไรกับพี่ชายของเพื่อนแต่เพราะเธอไม่อยากอยู่ใกล้ยักษ์ใหญ่ ใจร้ายต่างหาก แม้จะอยู่ในฐานะเลขาของคุณบดินทร์ก็ตามที
“เอาเถอะ นี่ก็มืดแล้วหนูบูมกลับเรือนได้แล้วล่ะ พี่ส้มล่ะเก็บ ของเสร็จหรือยัง
“ใกล้แล้วค่ะถ้าอย่างนั้นบูมขอตัวนะคะคุณป้า
“จ้า… ไปเถอะ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ป้าว่าหนูบูมน่าขึ้นมาอยู่บน เรือนกับป่าได้แล้วนะจะได้ไม่ต้องเที่ยวไปเที่ยวมา ลำบากเปล่าๆ คนแก่ก็เหงาอยากมีเพื่อน” คุณป้าเคียร่าพูดยิ้มๆ ลูบเรือนผม สลวยอย่างเอ็นดู
“เอาไว้เมื่อไหร่ที่ออกเรือนไป บูมจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณป้า ค่ะจะได้ไม่ต้องเจอยักษ์ใหญ่หน้าบึ้งๆ ไงคะ”
ยื่นหน้ามาพูดเบาๆ ในประโยคสุดท้ายทั้งยังหันไปมองซ้าย มองขวากลัวว่ายักษ์ที่พูดถึงจะมาปรากฏตัวตรงนี้
“โธ่…หนูบูมก็ไปว่าพี่เขาแบบนั้น ฮ่าๆ
คุณป้าเคียร่าหัวเราะร่วนกับฉายาที่บุษกรตั้งให้ลูกชายของตน นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนาวีถึงได้ตั้งแง่กับบุษกรนักเห็นหน้า กันทีไรพ่อลูกชายของนางก็หน้าบึงหน้ายักษ์ใส่แม่สาวน้อยหน้า ใสผู้น่าสงสารนี้เสียทุกครั้งไป
“ก็น้องบูมกลัวยักษ์ใหญ่นี่คะคุณป้า… บูมไปนะคะราตรีสวัสดิ์ ค่ะ”
บุษกรยิ้มกว้างแล้วจูบแก้มเหี่ยวย่นตามวัยของป้าเคียร่าเบาๆเช่นทุกวัน ก่อนค่อยๆ ลูกเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น
คุณเคียร่ามองตามร่างบางไปอย่างรักใคร่และแอบคาดหวัง ว่าจะได้สาวน้อยคนนี้มาเป็นสะใภ้แต่ก็คงยากเมื่อลูกชายของ นางนั้นดูจะไม่นิยมชมชอบบุษกรนัก นางถอนหายใจแล้วเปิด หนังสืออ่านรอสามี นางกับสามีจะมาใช้เวลาร่วมกันในห้องนี้ อ่านหนังสือฟังเพลงด้วยกันก่อนขึ้นนอน ในบางวันก็อาจจะ เต้นรำกันสักครึ่งชั่วโมง และบางครั้งบุษกรก็ได้เป็นคู่ซ้อมเต้นรำ กับคุณลุงบดินทร์บ่อยๆ และเธอก็เป็นนักเต้นรำที่เก่งหาตัวจับ ยากเลยทีเดียวเพราะคุณบดินทร์เคยเป็นถึงแชมป์เต้นรำของ มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ