บทที่ 17 คุกเข่า
บทที่17 คุกเข่า
ภายในห้องก็เงียบขึ้นมาชั่วขณะ
ผู้ชายตัวผอมที่ถูกต่อยจนจมูกบวมหน้าบวมเป็นเพื่อนร่วมชั้น ที่มาร่วมปาร์ตี้ด้วยกัน
ก่อนหน้านี้เขายังช่วยหลี่ฮุยเยาะเย้ยหลินยิ่งอยู่เลย
หลี่ฮุยไออย่างแห้ง ๆ และพูดว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ”
นายบอกให้ปล่อยก็ปล่อยเหรอ นายเป็นตัวอะไร” ชายหน้าที่มี แขนสักดอกไม้ถามหลี่ฮย
“ฉันเป็นตัวอะไรเหรอ? ฉันเป็นพ่อของนาย!” หลี่ฮุยรีบวิ่งขึ้นไป ตบหน้าชายแขนลายคนนั้น
“ฉันชื่อ หลี่ฮุย และฉันเปิด บริษัทก่อสร้างซูหยาง ที่อยู่ใกล้ ๆ บริษัท ของเรา จื่อจินKTV ได้รับการตกแต่งโดยบริษัทของเราเจ้า นายและฉันเป็นเพื่อนเก่าคุณลูกครึ่งส่งชุดให้ฉันที่นี่” หลี่ฮุยเต็ม ไปด้วยใบหน้า กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“หลี่ฮุย? บริษัทก่อสร้าง หยางชายแขนลายกำลังจะต่อสู้กลับ เขาลังเลอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็อดทนต่อความโกรธไว้ แล้ว เดินออกจากห้องไป “นายรอตรงนี้นะ”
“พี่ฮุยขอบคุณมากๆครับ
” พี่อยสุดยอดมากนะครับเนี่ย ได้หน้าจริงๆเลย! ทันทีที่แจ้งชื่อ ไปไอ้ตัวเล็กก็ตกตะลึง
“ใช่สิ พวกผู้ชายอย่างเราก็ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มเหมือนพี่ฮุยสิ”
คนกลุ่มหนึ่งในห้องเริ่มประจบขึ้นมา
หลี่ฮุยนั่งเอนหลังบนโซฟาอย่างคนได้ชัยชนะมาและเขาก็สูบ ซิการ์ของเขาไป1คำ
เขาใช้เวลาและดื่มในสถานที่ต่างๆทุกวัน ก็รู้จักคนในแวดวงไม่กี่ คน นักเลงแบบนี้เขาไม่รู้ว่าจัดการไปกี่ครั้งแล้ว ไม่เคยมีเรื่องตาม หลังมา ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
คนเมื่อกี้นี่หาเรื่องจริงๆเลยนะ เป็นกระสอบทรายที่ดีสำหรับเขา ที่จะแสดงความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าจางฉีโม่
“พวกนักเลงแบบนี้ แสร้งทำได้แค่ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าฉันเขา ต้องเชื่อฟังกันหมด”หลี่ฮุยพูดด้วยสีหน้าได้ใจ แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งมากๆ
“อย่างพี่ฮุยของเราก็เป็นที่รู้จักกันดีในถนนสายนี้ ไม่เหมือน คนบางคน นอกจากจะอิจฉาและใส่ร้ายคนอื่นแล้ว เขาไม่มีอะไร ทำเลย พูดในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อมีคนพุ่งเข้ามา แต่ตดยัง ไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด สายตาของเขาจ้องมองไปที่หลินยิ่ง
หลี่ฮุยหัวเราะและพูดว่า “อย่าพูดเลยว่าใครบางคน นั่นหลินยิ่ง เปล่า ฉีโม่ เธอเห็นรึยังคนไม่เอาไหนอย่าง หลินอิ่ง ถ้าคุณเจอ เรื่องแบบนี้เข้า เขาจะช่วยเธอได้ไหม? คุณไม่รู้สึกปลอดภัยเลย ด้วยซ้ำ”
– ใครคือหลี่ฮุย?”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนที่โกรธเกรี้ยวดังมาจากนอกห้อง
ชายที่มีรอยแผลเป็นรูปยาวบนใบหน้า พุ่งเข้ามาพร้อมกับชาย ร่างท้วมเจ็ดแปดคนที่ถือแท่งเหล็กมาด้วย ข้างๆชายที่มีแผลเป็น ตามมาด้วยชายที่มีแขนลายดอกไม้ที่ถูกตบเมื่อกี้
“ ช่างกล้าดีจริงๆ มาตีลูกพี่ลูกน้องของผม ในถิ่นของงูดำ? ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นพูดด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกับคีบบุหรี่ไว้ใน ปาก
เมื่อมองไปที่ท่าทีนี้ ทุกคนในกล่องก็กลัวจนหดตัวลงหมด และ สีหน้าของทุกคนดูตื่นเต้นมาก
“นี่! งูดำ?” หลี่ฮุยเองยังแสดงความกลัวบนใบหน้าเช่นกัน นําเป็นรุ่นใหญ่ในย่านถนนของกินนี้ เขาถือหุ้นของจื่อ จินKTVไว้ด้วย
“ไม่ใช่ครับ พี่งู นี่เป็นแต่การเข้าใจผิดครับ ผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่านั่นเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่าน ” หลี่ฮุยพูดด้วยสีหน้าที่วิตก กังวล “ผมชื่อหลี่ฮุย พ่อของผมคือหลี่ชิงซาน บริษัทก่อสร้าง หยางเป็นของตระกูลผมเองครับ
หลี่ฮุยกล้าลงมือสั่งสอนนักเลงกระจอกๆ แต่ไม่กล้าหาเรื่องหัว โจ๊กที่มีทั้งเงินและอำนาจอย่างงดำหรอกนะ เขาเอาชื่อของพ่อ เขามาพูด
“หลี่ชิงซาน ? ” งูดำขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามลูกน้องที่อยู่ข้างว่า “เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้นะ ไอ้แปด ใช่เฒ่าแก่คนที่กินข้าวเย็น กับเราเมื่อวานรึเปล่า?
“ใช่ครับ พึ่ง หลี่ชิงซานคนนั้นแหละครับ
“งู ท่านเห็นแก่หน้าของพ่อผมด้วยเถอะเรื่องนี้ก็ให้มันจบแบบนี้ได้ไหมครับ แล้วเดี๋ยวผมจะเลี้ยงเหล้าในวันหลัง” หลี่ฮุยรู้ เขาว่ารู้จักกับพ่อของตัวเอง ก็เลยถือโอกาสพูดไปเลย
“หึ ไว้หน้านายงั้นเหรอ?” งูดำทำสีหน้าไม่แยแส
“นายรู้ไหมว่าขนาดพ่อนายยังทำตัวเหมือนหมาเลียเท้าตอนอยู่ หน้ากูเลย ”
“ฉันก็นึกว่าเป็นคุณชายที่ไหนซะอีก ที่แท้ก็ไอ้คนไม่เอาไหน อย่างนายนี่เอง ยังมาทำตัวเป็นคนใหญ่คนโตต่อหน้าฉันเหรอ?” ดำหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา
เจี๊ยะ ! เจี๊ยะ! เจี๊ยะ !
งูดำเดินมาตบหน้าหลี่ฮุยอย่าแรงไปสามที ตบจนใบหน้าเขาเป็น รอยฝ่ามือสีแดงชัด
“กดมันไว้ น้อง นายจัดการต่อเลย จัดการมันเสร็จก็เอาตัวมันไป ที่แม่น้ำ โยนลงไปให้เขาตื่นสักหน่อย ” งูดำสูบบุหรี่ แล้วพูดอย่าง ใจเย็น
ชายร่างแกร่งกดหลี่ฮุยไว้บนโต๊ะอย่างแรง สีหน้าของชายที่ แขนเต็มไปด้วยรอยสักลายดอกโกรธมาก เข้ามาก็ตบหน้าเขา อย่างแรงเลย ตบไปที่หน้าเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
“พี่งู ผมขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปเถอะ! ในห้องนี้มีลูกสาวของ ตระกูลจางอยู่ด้วย เห็นแก่หน้าของตระกูลจาง ปล่อยผมไปเถอะ นะครับ” ใบหน้าของหลี่ฮุยบวมมาก พูดพร้อมขอร้อง แต่เขากลับ เอาจาง โม่เข้ามาเกี่ยวด้วย
“คุณหนูตระกูลจางเหรอ? ” งูดำขมวดคิ้ว หรี่ตากวาดมองคนอื่นๆ ในห้อง
ฉีโมตอนนี้เธอเป็นผู้อำนวยการของจางซื่อกรุ๊ป แน่นอนว่าต้องมี อำนาจในตระกูลจางอยู่บ้าง ช่วย ฮุยพูดอะไรคำสองคำสิ” เพื่อน หลายๆคนพูดกล่อมเธอ
“คุณจางฉีโม่คนนี้เหรอที่เป็นคนของตระกูลจาง ผู้อำนวยการ แผนกของจางเอกรุ๊ป พึ่ง คนคุณก็จัดการไปแล้ว ก็ไว้หน้าตระกูล จางหน่อย เรื่องนี้ก็จบแค่นี้เถอะนะ” หลี่เสงี่ยนเอ๋อออกมาพูด
“ตระกูลจาง ? หึ “งูดำหัวเราะออกมา “ตระกูลจางเป็นใครที่ไหน กัน? ระแวกเมืองหนานเฉิงนี้มีที่ให้ตระกูลจางมาพูดออกเสียง ด้วยหรือ?”
พูดจบ งูดำ ก็เหลือบไปเห็นจางฉีโม่ เขาตาสว่างขึ้นมาทันที ทันใด ในสายตามีความเจ้าเล่ห์เผยออกมาเล็กน้อย
อย่าบอกนะว่าเป็นคนสวยที่ดังมากๆในเมืองชิงหยูนเมื่อสองปีก่อนเหรอ?” คำพูดพร้อมมองด้วยสายตาที่หั่นกระหาย ได้ยิน มาว่าตระกูลจางหาสามีให้เธอเหรอ? ชิชะ น่าเสียดายความสวย จังเลย ”
วันนี้จางฉีโม่ใส่เสื้อสูททางการ บุคลิกดูดีมาก บวมกับเธอสวย อยู่แล้ว หุ่นก็ดีไม่มีที่ดิ
ไม่ว่าผู้ชายคนไหนถ้ามาเห็นเข้า ก็ต้องหวั่นไหวแน่ๆ
“เอาหน่า จางฉีโม่ วันนี้เธอดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย มาพูดคุยกัน เรื่องชีวิตของเรา เรื่องนี้ก็จะให้มันผ่านไป ฉันก็จะปล่อยตัวหลาย คำพูดด้วยสีหน้าที่ร้ายลึก
สีหน้าของจางโม่แย่มาก คนอย่างไม่กลัวแม้กระทั่งตระกูล จาง เธอจะรับมือไหวได้ยังไง
“นายอยากจะหาเรื่องหลี่ฮุย นายก็ทำตามสบายได้เลย มันเกี่ยว กับอะไรภรรยาของผมไม่ทราบ?”หลินยั่งยืนออกมาทันที แล้วมา ขวางหน้าของจางจิไม่ไว้
“หื้อ? “งูดำเหลือบมองหลินอิ่ง ด้วยสีหน้าที่ติดเล่น “ที่แท้นาย ก็คือหลินอิ่ง ลูกเขยชื่อดังย่านเมืองชิงหยูนที่ไม่เอาไหนนี่เอง ขอโทษด้วยนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาเถียงฉันอีก แต่ก็กล้า หากว่าไอคนกระจอกคนนี้
“แต่นายอย่าลืมนะว่าที่นี่กูเป็นใหญ่ ” งูดำดีดนิ้วไป1 ที “พาคุณ หนูจางขึ้นไปที่ห้องชั้นบน ฉันจะดื่มกับเธอสักหน่อย”
งูเลียๆตรงริมฝีปาก คนสวยระดับจางฉีโม่ หุ่นก็ดี หน้าตาก็ สวย นี่มันของอร่อยที่ส่งมาถึงที่เลยนี่นา
พูดจบ ลูกน้องของงูดำก็เริ่มจะลงมือแล้ว
“นายอยากตายรึไง!
ปิ้ง
ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตัวของหลินจิ่งพุ่งเข้าไปหาเขาแล้ว เข่าของเขากระแทกเข้าท้องของงูดำอย่างแรง เขายกมือล็อค คอของงูดำไว้ บีบจนหน้าของเขาเขียนไปหมด แทบจะหายใจไม่ ออกเลยทีเดียว
“แฮะๆ ” งูดำไม่อยากจะเชื่อ ไม่คิดว่าหลินยิ่งจะลงมือกับเขาก่อน
“คุกเข่าลง!”
ในสายตาของหลินจิ่งมีแต่ความเย็นชา ฝาดขาดไปที่เข่าของงู
คําอย่างแรง
ตุ้ม!
งูรับแรงสะท้านไม่ไหว คุกเข่าลงไปทันที บนใบหน้ามีแต่ ความโกรธ
“นายกล้าลงมือกับฉันงั้นเหรอ? นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลัง ฉัน? ทั้งตระกูลจางก็ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องเขาหรอกนะ!” มองจ้องไปที่หลินอิ่งด้วยสายตาที่เยือกเย็น พูดด้วยความโกรธ แค้น “ฉับดูแลกิจการทั้งหมดในระแวกนี้ให้กับท่านเส้นซานของ เมืองหนานเฉิงนะเนี่ย
อะไรนะ? หลินอิ่งกล้าลงมือกับงูดำ เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า?”
จบแล้ว เราจะโดนกันหมดเพราะไอคนไม่เอาถ่านนี่แหละ ชื่องู ดำนี่ฟังดูก็โหดเหี้ยมแล้ว คราวนี้เราเจอปัญหาใหญ่แล้ว
คนที่อยู่ในห้องต่างก็แสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกด้วยเล็กน้อย กลัวว่างดำ จะพาลเรื่องนี้ใส่พวกเขา
หลินอิ่งมองหน้างูดำอย่าไม่แสดงสีหน้าใดๆ ถามต่อว่า “นายเป็น ลูกน้องของเสิ่นซานเหรอ?”
“ใช่ ฉันเป็นคนของท่านเส้นซานของเมืองหนานเฉิง! คนที่อยู่ใน แวดวงเมืองชิงหยูนต้องเคยได้ยินชื่อของท่านเส้นซานกันทั้งนั้น งดำพูดด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น แล้วพูดขู่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าตอนนี้นายคุกเข่าขอโทษก ฉันก็อาจจะปล่อยนายไปได้ ไม่ อย่างงั้นก็รอมาเก็บศพนายได้เลย!
เปี๊ยะ!
หลินอิ่งตบไปที่หน้าของงูดำ ตบจนเขารู้สึกร้อนไปทั้งหน้า แถม ยังมีเลือดซิบออกมาที่มุมปาก
“นาย! นายอยากตายเหรอ?” สีหน้าของงูดำเต็มไปด้วยความ โกรธแค้น เขาไม่คาดคิดว่า หลังจากที่พูดชื่อของท่านเสิ่นซาน ออกมา หลินอิ่งยังกล้าที่จะตบหน้าเขาอีก
“แม่งเอ้ย ไอคนไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ! ปล่อยพึ่งเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้นวันนี้ ก็อย่าคิดที่จะเดินออกจากจื่อจินKTVไป!
ลูกพี่ลูกน้องและลูกน้องของงูดำเริ่มตะโกนขึ้นมา แล้วหยิบแท่ง เหล็กชี้ไปที่หลินอึ่ง เกือบจะพุ่งเข้ามาปะทะกับหลินอิ่งอยู่แล้ว
“พวกนายลองขยับดูสิ “หลิน งพูดอย่าเย็นชา แล้วล็อคคอของ จําไว้ด้วยมือแค่ข้างเดียว
“อย่า……..พวกนายอย่าขยับ…
หน้าของงูคําแดงและบวมไปหมด แทบจะโดนหลิน งบีบจน หายใจไม่ออกแล้ว เขาสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้สีหน้าของเขาเหมือน พร้อมจะตายในทันที
ไม่รู้ว่าหลินยิ่งเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ แค่มือข้างเดียวก็กด เขาไว้ได้แน่นๆ
เขาอยู่ในวงการนี้มาตั้งหลายปี ถือว่าเป็นมือโหดด้านการต่อสู้ แต่พอมาเจอหลินยิ่งแล้ว เขากลับสู้อะไรไม่ได้เลย
“หลินอิ่ง นายรู้ไหมว่านายกำลังทำอะไร? นายคิดว่านายเก่งมาก เหรอ? ตอนนี้ฉันโทรหาท่านเสิ่นซานแล้ว พอท่านสามมาถึง ฉัน จะบอกให้ แม้กระทั่งจางหงชวนหัวหน้าของตระกูลจางมาก็ช่วย นายไม่ได้อยู่ดี!” ลูกพี่ลูกน้องของงูดำพูดขู่เขา “พวกนายทุกคน หนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!
“หะ! พวกเขาเรียกท่านเสิ่นซานมาแล้วเหรอ? แล้วจะให้พวกเรา ทุกคนอยู่รอที่นี่เหรอ?”
“หลินอิ่ง นายอยากตายเอง แต่อย่าเอาพวกเราไปเกี่ยวด้วยสิ!”
พอได้ยินชื่อเสียงของท่านเจิ่นซาน เพื่อนของจางฉีโม่ที่อยู่ใน ห้องต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา พวกเขารู้สึกเกร็งกลัว เป็นอย่างมาก ต่างก็เริ่มโทษหลินอิ่ง รู้สึกว่าหลินยิ่งทำให้พวก เขาซวยไปด้วย
ทานเงินซานของเมืองหนานเฉิง มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เป็น คนที่มีอำนาจล้นฟ้า มีคำล่ำลืออยู่ประโยคหนึ่งมนเมืองชิงหยูน ในเขตเมืองหนานเฉิง ไม่มีเรื่องที่ท่านเสิ่นซานจัดการไม่ได้ คน ใหญ่คนโตระดับนี้ พวกเขาจะกล้ามีเรื่องด้วยได้ยังไง!
หลินยิ่งส่ายหัว ถามพร้อมหัวเราะว่า “เสิ่นซานเก่งมากเลยเห
รอ?”
“ขนาดท่านเสิ่นซานนายยังไม่รู้จักเลยเหรอ? ยังจะกล้าหาเรื่อง คนไปทั่วอีก ช่างโง่จริงๆ”
“จริงด้วยที่ หลินจิ่งนายแยกไม่ออกแม้กระทั่งใครเป็นใคร ก็กล้า ลงไม้ลงมือกับลูกน้องของท่านเจิ่นซาน ตอนนี้นายจบแล้ว!”
ทันทีที่หลินอิ่งพูดประโยคนี้ออกมา เพื่อนในห้องต่างก็แสดงสีหน้าตกใจและสงสัยออกมาหน้าเยาะเย้ย ตอนแรกคิด ว่าหลินยิ่งเก่งสะอึกที่กล้าลงมือกับงูดำ ที่แท้ก็เป็นแค่เป็นคนโง่ที่ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเท่านั้นเอง
“ไม่กลัวตายจริงๆ หลินถึง นายอาศัยที่ตัวเองต่อสู้เก่ง แล้วก ล้ามาลงมือกับพึ่ง นายรู้ไหมว่าในเมืองหนานเฉิง ท่านเส้นซาน เป็นคนอะไร” หลี่อยพูดอย่างเย็นชา ช่วยพูดหาเรื่องขึ้นมานี่เร็ว กว่าลูกพี่ลูกน้องของงูดำอีก
คนพวกนี้ต่างก็กลัวท่านเส้นซานมาหาเรื่อง พ่อท่านเสนานมา ถึง คืนนี้คงอดไม่ได้ที่จะมีเลือดสาดกันบ้าง ต่างคนต่างก็พยายาม เอาตัวเองออกจากตรงนี้ไปให้ได้
นายนี่มันต่ำคมสั้นดี
เจี๊ยะ!
หลินอิ่งตบไปที่ใบหน้าของหลอย ตบจนตัวเขาหมุนอยู่กับที่ไป สองรอบ จนกลิ้งออกไปอยู่นอกห้อง
“หลินอิ๋ง พอได้แล้วมั้ง เรารีบไปกันเถอะ “สีหน้าของจางอุโม กังวลเล็กน้อย
เท่าที่เธอดูมา การกระทำนี้ของหลินซึ่งมันก็ใจร้อนเกินไป นี่มันเป็นการกระทำของผู้ชายที่มีแต่กำลังไม่มีสมองชัดๆ ไม่สนว่า ตัวเองจะเก็บงานทีหลังได้ไหม มาก็ลงไม้ลงมือจนงูดำคุกเข่าลง จนทำให้กลายเป็นศัตรูกันในที่สุด เรื่องนี้กลายมาเป็นแบบนี้จน ได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรรับมือกับมันยังไงดี
แต่ว่า เธอเองก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเพราะถึงไงยังแล้วหลินจิ่ง ทำแบบนี้เพราะเธอ
“พวกนายยังจะอยากไปหรอ? ฉันจะบอกให้นะวันนี้ไม่ว่าใคร อย่าคิดจะหนีเด็ดขาด “ลูกพี่ลูกน้องของงูดำที่สักลายดอกไม้เต็ม แขนพูดอย่างมั่นใจ
ปิ้ง!
หลินอิ่งไม่ได้พูดอะไร แล้วแตะไปที่ชายลายสัก แตะจนเขา กระเด็นไปอยู่นอกห้อง
หลังจากนั้น เขากันไปมองจางฉีโม่ สีหน้าเหมือนไม่มีอะไร เกิดขึ้น อมยิ้มพร้อมพูดว่า “ฉีโม่ ไม่เป็นไรหรอก เป็นแค่ปัญหา เล็กๆเท่านั้นเอง เธอรอฉันสักสองสามนาที ฉันไปจัดการเรื่อง นี้หน่อย”พูดจบ หลินอิ่งก็ลากงูดำออกไปจากห้อง อย่างกับถือ ลูกไก่ไว้ในมือ
“หลินจิ่ง….จางฉีโม่มองดูแผ่นหลังของหลินจิ่งที่เดินจากไป กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็หยุดไว้
บนทางเดินนอกห้องที่ประดับมาอย่างหรูหรา
งดำและหลี่ฮุยคุกเข่าอยู่กับพื้นอย่างเชื่อฟัง สีหน้าที่เต็มไปด้วย ความไม่เต็มใจ แต่อยากยืนก็ยืนขึ้นไม่ได้ เส้นประสาทที่เขาของ พวกเขาโดนหลินยิ่งเตะจนชาไปหมด ไม่มีเรี่ยวเอง
หลินยิ่งยืนเอามือไขว้หลังไว้ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
ลูกน้องของงูดำที่อยู่ไกลๆไม่กล้าเข้ามาใกล้ ทำได้แค่มองดู พวกเขาอย่างดุร้าย
พวกเขากำลังรอ รอท่านเส้นซานพาลูกน้องมาด้วยตัวเอง อย่า พูดเลยว่าหลินอิ่งเก่งแค่ไหน ถึงแม้ว่าหลินซึ่งจะเป็นมังกร ก็ยัง ต้องนอนนิ่งๆเฉยๆเลย!
พวกเขาอยู่กันแบบนั้นมาประมาณ3นาที
มีชายร่างแกร่งในชุดสูทสิบกว่าคนเดินเข้ามา และในบรรดาขอ การ์ดนี้ มีผู้ชายวัยกลางคนที่ดูผอม สวมใส่เสื้อสมัยราชวงศ์ถัง ในมือถือกำไลลูกประคำ ดูเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านสาม! ท่านมาสักที ท่านต้องเอาคืนให้ผมนะครับ !เห็นคนช่วยชีวิตมาแล้ว ก็รีบตะโกนขึ้นมา
แต่ท่านเส้นซานดูเหมือนจะเป็นงูดำไป แล้วมองไปที่แผ่นหลัง ของผู้ชายที่ยืนเอามือไขว้หลังไว้ ม่านตาหดขึ้นมาทันที และ สีหน้าดูสงสัยเล็กน้อย
“ทะ……….นหลิน ? *
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ